แตกตื่นทั้งอำเภอ ทหารหนุ่มทำทีชักปืนขู่เมีย นัดมาเซ็นใบหย่า ขอแบ่งทองหมั้นคืน
ไล่ล่าวุ่น ทหารหนุ่มทำทีชักปืนขู่ภรรยากลางที่ว่าการอำเภอ หลังนัดหย่าแล้วเคลียร์ปัญหาเรื่องทรัพย์สินไม่ลงตัว ตำรวจปิดถนนล่าก่อนรวบตัวพร้อมเพื่อนขณะหลบหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.เมืองอ่างทอง สกัดจับรถกระบะ อีซูซุ แต่งซิ่ง สีขาว หมายเลขทะเบียน 8706 กทม. ซึ่งมีชายฉกรรจ์อยู่ในรถ 4 คน
หลังได้รับแจ้งจากทางศูนย์วิทยุ สภ.เมืองอ่างทอง ว่าหนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อยู่ภายในรถคันดังกล่าวซึ่งแต่งกายคล้ายทหารก่อเหตุใช้อาวุธปืนข่มขู่ภรรยาและญาติ ขณะนัดกันไปหย่าและเจรจาเรื่องทรัพย์สิน บริเวณที่ว่าการอำภเอเมืองอ่างทอง
โดยหลังก่อเหตุทั้งหมดขับรถหนีมาตามถนนสายโพธิ์พระยา-ท่าเรือ มุ่งหน้าไป อ.แสวงหา แต่ย้อนลับเข้ามาบริเวณด้านหน้าวัดโล่สุทธาวาส ต.ตลาดหลวง อ.เมือง จ.อ่างทอง ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมได้ โดยจากการตรวจค้นภายในรถและตัวผู้ต้องสงสัยทั้งหมดไม่พบอาวุธปืน คาดว่าจะมีการโยนทิ้งระหว่างการหลบหนี
นายเจมส์ อายุ 26 ปี หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นซึ่งโวยวายขณะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม บอกว่าไม่อาวุธปืนติดตัวมาแต่อย่างใด ทั้งหมดมาเป็นเพื่อน พลทหารภาณุวัฒน์ อายุ 23 ปี ซึ่งนัดกับนางญาณิศา หรือ ส้ม อายุ 27 ปี ภรรยาเพื่อมาจดทะเบียนหย่า โดยตกลงกันว่าจะแบ่งทองที่ตอนไปขอหมั้นไว้ 2 บาทคนละครึ่ง
ขณะที่กำลังเข้าไปเซ็นหนังสือจดทะเบียนหย่าได้สอบถามถึงทอง ซึ่งน้องส้มบ่ายเบี่ยงบอกว่าอยู่ที่แม่ให้เซ็นหย่าให้ก่อน ทำให้พลทหารภาณุวัฒน์ไม่พอใจและไม่ยอมเซ็นชื่อ เนื่องจากคิดว่าถูกหลอกมาให้เซ็นหย่า จึงออกมาพร้อมเพื่อนและขับรถออกจากอำเภอก่อนที่จะมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวได้
ขณะที่ นายชัยมงคล อายุ 25 ปี ยืนยันว่า ไปรับน้องมาจากลพบุรีเพื่อมาจดทะเบียนหย่า แต่ขอทองหมั้นคืนแต่ทางฝ่ายหญิงไม่ให้ดูทองก็เลยไม่เซ็น โดยมีการด่ากันเท่านั้นไม่มีการนำอาวุธปืนมาแต่อย่างใด
โดยหลังจากควบคุมตัวทั้งหมดได้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองอ่างทอง และไปตรวจสอบที่บริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองอ่างทอง ซึ่งมีชาวบ้านมาติดต่อราชการจำนวนมาก
โดย นายทศนนท์ อายุ 36 ปี ซึ่งเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเองเห็นคนแต่งชุดทหารมีอาการเดินไปเดินมาหงุดหงิด และมีปากเสียงกับหญิงสาวคนหนึ่งตลอดเวลา โดยชายที่แต่งชุดทหารเอามือล้วงไปในเสื้อตลอดเวลา ซึ่งตนเองเห็นเป็นด้ามปืนน่าจะเป็นอาวุธปืนแมกกาซีนก่อนที่จะเกิดการทะเลาะกันหลังสุด และทางชายคนดังกล่าวได้เดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ด้านหลังออกไป
ด้าน น้องส้มกับครอบครัวที่ไปรอการจดทะเบียนหย่าอยู่ที่ภายในที่ว่าการอำเภอเมืองอ่างทอง อยู่ในอาการตกใจ โดย น้องส้ม เล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่จะต้องหย่ากันก็เกิดจากเรื่องหนี้สินที่มีสะสมมาโดยตลอด โดยตนเองต้องใช้หนี้ให้กับพลทหารภาณุวัฒน์มาโดยตลอด ยิ่งตอนไปเป็นทหารก็ไม่เคยมีเงินเดือนกลับมาถึงบ้าน จนทางครอบครัวฝ่ายตนเองต้องคอยหาเงินให้ตลอด จนสุดท้ายเลยตกลงหย่ากัน
ซึ่งทางพลทหารภาณุวัฒน์ขอแบ่งทองหมั้นคืนหนึ่งบาท ตนก็ยอมแต่ขณะที่จะเซ็นหย่าเขาถามถึงทองซึ่งตนเองก็บอกว่าอยู่ที่แม่ให้เซ็นก่อน แต่พลทหารภานุวัฒน์ไม่พอใจด่าว่ามึงยึกยักหรือก่อนทำท่าล้วงไปในเสื้อเพื่อชักอาวุธปืนข่มขู่ ตนจึงวิ่งออกมาหาแม่ก่อนที่จะหลบหนีไป ยืนยันว่าทางตนเองไม่เคยหลอกฝ่ายผู้ชาย มีแต่ตนเองและครอบครัวที่ต้องหาเงินให้ตลอด
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่เชิญทั้งฝ่ายมาพูดคุยกันที่ สภ.เมืองอ่างทอง และทำการตรวจค้นรถโดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสิ่งผิดกฎหมาย ก่อนที่จะให้ทั้งสองฝ่ายตกลงจดทะเบียนหย่ากันต่อไป