เฉลยแล้ว คดีสินสอดหาย 1 ล้าน ที่แท้เจ้าบ่าว-เจ้าสาวเก็บไว้เอง ช่างภาพพ้นมลทิน
เฉลยแล้ว สินสอดหาย 1 ล้าน ช่างภาพเกือบเป็นแพะ ที่แท้บ่าวสาวเก็บไว้เอง เนื่องจากเป็นสินสอดที่เช่ามา เตรียมนำไปคืนผู้ให้เช่าแต่พ่อแม่ไม่รู้
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Tana Nop ที่มีอาชีพเป็นช่างภาพ โพสต์ข้อความเตือนภัยเพื่อนร่วมอาชีพ หลังรับถ่ายภาพในงานแต่ง แต่เกือบงานเข้าเพราะสินสอด 1 ล้านหาย ทำให้ถูกเพ่งเล็งกลายเป็นผู้ต้องสงสัย ซึ่งต่อมาหลังเป็นข่าวดัง ช่างภาพเจ้าของเรื่องก็ได้ลบโพสต์ดังกล่าวไป และโพสต์ข้อความใหม่ ระบุว่า
"จากเหตุการณ์สินสอด 1 ล้านบาทที่หายไปที่ผมโพสต์เมื่อวานนี้ ทำให้มีคนสนใจเป็นจำนวนมาก รวมถึงข่าวทุกสำนักที่ติดต่อเข้ามาขอข้อมูล ขอสัมภาษณ์ผมขอยืนยันว่าการออกมาเตือนภัยในครั้งนี้ ตัวผมเอง และทีมงาน ไม่ขอพาดพิงถึงฝั่งเจ้าภาพ เพียงต้องการออกมาเตือนให้เพื่อนร่วมอาชีพ ช่างภาพ ออร์แกไนซ์ ทำงานอย่างระมัดระวัง เพราะเราต้องทำงานกับของมีค่า เงิน ทอง ซึ่งเวลาเกิดเหตุการสูญหาย เราจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยเสมอครับ เพราะเราคือคนนอก ทางตัวผมเอง ไม่ได้อยากดัง หรือว่าต้องการเรียกร้องเงินทอง ค่าเสียหาย ผมต้องการแค่คำขอโทษจากใจจริง และเป็นวิทยาทานแก่เพื่อนร่วมอาชีพ
การให้สัมภาษณ์กับสื่อ ผมขอพูดแค่ในส่วนของตัวผมและทีมงาน ที่เจอเหตุการณ์มาเท่านั้นนะครับ ไม่ขอพาดพิงใดๆ ถึงฝั่งเจ้าภาพกราบขอบพระคุณสื่อสำนักต่างๆ ที่สนใจติดตามขอข้อมูล ให้ตัวผม และทีมงานได้รับความเป็นธรรมในเรื่องนี้ครับ กราบขอบพระคุณครับ กราบขอบพระคุณเพื่อนร่วมอาชีพ และชาวเน็ตทุกคนที่ให้กำลังใจพวกเราครับ"
ล่าสุด พันตำรวจเอก เอนก จันทร์สอน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ระบุว่า ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดแล้ว ประเด็นสำคัญหลังจากที่พ่อแม่เจ้าสาวรับเงินสินสอดแล้วเก็บไว้ที่ห้องบนบ้านชั้นสอง และล็อกประตูไว้ จากนั้นคนเก็บกุญแจห้องมีเพียง 2 คน คือเจ้าบ่าวสาวทอมกับเจ้าสาว และบริเวณห้องไม่มีร่องรอยการงัดแงะ ด้านตำรวจจึงเค้นสอบปากคำคู่บ่าวสาว
จนล่าสุดทั้งคู่ยอมรับสารภาพแล้วว่า เป็นคนเก็บเงินสินสอดจำนวน 1 ล้านไปเอง เบื้องต้นยอมรับว่า เป็นเงินสินสอดที่ไปเช่ามาโดยที่พ่อแม่เจ้าสาวไม่รู้ หลังจากเสร็จงานจึงต้องนำไปคืนผู้ให้เช่า แต่เมื่อพ่อแม่มาเห็นว่าเงินหายไป จึงตกใจ และได้ทำการแจ้งตำรวจ จนเกิดเป็นประเด็นดังกล่าวขึ้น
ทั้งนี้ ตำรวจเตรียมเรียกตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวให้เดินทางมาจากจังหวัดสระแก้ว เพื่อมาสอบปากคำเพิ่มเติม หากไม่มา จะเตรียมออกหมายเรียก และหากพบว่ามีจุดประสงค์อื่นนอกเหนือจากคืนเงินผู้ให้เช่า จะทำการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป