ทนายกฤษณะ เผยหลักฐานใหม่อาจทำคดีแตงโมพลิก เสียดายแม่ยื่นถอดเรื่องจาก กมธ.
ทนายกฤษณะ เผยหลักฐานใหม่อาจทำคดีแตงโมพลิก เสียดายแม่ยื่นถอดเรื่องจาก กมธ. ยืนยันเดินหน้าหาหลักฐานเปิดเผยความจริงต่อ
(30 มี.ค.65) ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ในฐานะที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคไทยศรีวิไลย์ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้มีผู้ใหญ่ในวงการบิ๊กสีกากีคนหนึ่ง โทรศัพท์มาบอกกับตนว่าให้ตนติดต่อขอดูหลักฐานกับบังแจ๊ค ซึ่งมีหลักฐานในคดีน้องแตงโมที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง ตนเองก็ไม่เคยรู้จักบังแจ๊คมาก่อน จึงได้ตัดสินใจทำตามคำแนะนำลองแอดไลน์ติดต่อบังแจ๊คไปเมื่อคืน ก็ได้สนทนาพูดคุยกันเกี่ยวกับหลักฐานในคดีของน้องแตงโม จึงทำให้ตนได้เห็นหลักฐานใหม่ทั้งหมด 11 คลิป โดยบังแจ๊คบอกกับตนเองว่า ที่นำเอาคลิปหลักฐานทั้ง 11 คลิปมาให้ตนดูนั้น เพื่อต้องการให้น้องแตงโมได้รับความเป็นธรรมในคดี โดยเฉพาะคลิปการสนทนาภายในรถ
อย่างไรก็ตามแม้ตนจะยังไม่มั่นใจในหลักฐานที่ได้มาจึงขอใช้เวลาตรวจสอบอีกประมาณ 2 อาทิตย์ เพื่อให้เกิดความชัดเจน ซึ่งถ้าหลักฐานชิ้นนี้พิสูจน์แล้วว่ามีความน่าเชื่อถือได้ ตนรับรองว่าคดีนี้มีพลิกอย่างแน่นอน
ทนายกฤษณะ กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้มีแนวโน้มที่ทางดีเอสไอจะรับเข้าเป็นคดีพิเศษเพราะเป็นคดีที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ ซึ่งในส่วนตัวแล้วในฐานะที่เคยเป็นทนายความในคดีนี้มาก่อนเป็นคนแรก ก็รู้สึกเสียดายในแนวทางของคดีที่วางไว้ คือการทำเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ กมธ.สิทธิมนุษยชน เข้ามาช่วยคลี่คลายคดีค้นหาความจริงให้ปรากฎ ซึ่งก่อนที่คุณแม่กับทนายเดชาจะเดินทางไปยื่นถอดถอนเรื่องออก คุณแม่ก็ได้โทรศัพท์มาบอกกับตนให้ทราบก่อนแล้ว แม้ว่าตนจะรู้สึกเสียดายแนวทางที่วางมา เพราะตนเป็นคนวิ่งไปขอคำปรึกษาจากคุณหญิงหมอพรทิพย์ให้เข้ามาช่วยเหลือ เนื่องจากคนในสังคมให้ความเชื่อมั่นเชื่อถือคุณหญิงหมอ หลังขอคำปรึกษาแล้ว คุณหญิงหมอให้ตนกลับไปทำเอกสารมายื่นให้ถูกต้อง ซึ่งวันต่อมาตนก็ทำเอกสารใหม่พร้อมลายเซ็นคุณแม่ไปยื่นเรื่องอย่างถูกต้องแล้ว แต่ในเมื่อคุณแม่ได้ตัดสินใจที่จะยื่นเรื่องถอดถอนออก ตนก็ได้แต่น้อมยอมรับในการตัดสินใจคุณแม่ ไม่มีสิทธิไปคัดค้านอะไรเพราะตนไม่ได้เป็นทนายความของคุณแม่แล้ว
ทนายกฤษณะ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันตนมีหน้าที่เป็นที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายให้กับพรรคไทยศรีวิไลย์ และได้รับมอบหมายจากทาง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคให้ติดตามความคืบหน้าในคดีนี้ต่อไป ตนจึงยังคงทำหน้าที่สืบค้นหาความจริงและสาเหตุการเสียชีวิตของน้องแตงโมต่อไปเพื่อให้ความจริงปรากฎต่อสังคม ซึ่งทุกวันนี้ตนเองยังคงพกการ์ดงานไว้อาลัยของน้องแตงโม ซึ่งเป็นรูปภาพของน้องแตงโมที่ตนมีอยู่ใบเดียวติดตัวไว้ทุกวัน โดยภาวนากับน้องแตงโมว่า ขอให้ตนได้เจอหลักฐานสำคัญเพื่อช่วยคลี่คลายคดีให้กับน้องแตงโมให้ได้รับความเป็นธรรมในคดีนี้อยู่ทุกวัน
จนกระทั่งเมื่อคืนตนก็ไปบังเอิญได้หลักฐานใหม่มาเพิ่มเติมอีกซึ่งทำให้ตนต้องนั่งดูหลักฐานใหม่ที่ได้มาเกือบทั้งคืน และในส่วนของหลักฐานใหม่นี้ตนสามารถนำเสนอต่อไปได้ แต่ถ้าเป็นหลักฐานเก่าในสำนวนตนเองไม่สามารถไปก้าวล่วงได้