สุเทพ เทือกสุบรรณ กษิต ภิรมย์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สาทิตย์ วงศ์หนองเตย

สุเทพ เทือกสุบรรณ กษิต ภิรมย์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สาทิตย์ วงศ์หนองเตย

สุเทพ เทือกสุบรรณ กษิต ภิรมย์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สาทิตย์ วงศ์หนองเตย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผบช.น. สร้างความมั่นใจคนกรุงปลอดภัยปีใหม่ ไม่มีเหตุรุนแรง เชิญชวนฝากบ้านกับเพื่อนก่อนออกไปท่องเที่ยว ถก " ผบก.จร." งัดมาตรการเข้มแก้รถติด สั่งลอกฟิล์มดำป้อมจราจร กันตำรวจอู้แอบหลับดูทีวี ให้ออกมายืนโบกรถ สั่งอุ้ม "จ่าเฉย" เก็บเข้ากรุ ลั่นไม่ช่วยแก้ปัญหาจราจร

 นที่ 17 ธันวาคม พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสะอาด ผู้บังคับการตำรวจจราจร(ผบก.จร.) ร่วมกันแถลงข่าวการจัดการจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนที่จะเดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด และมาตรการคุมเข้มดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยพื้นที่ กทม.ช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยจัดกำลังตำรวจอย่างเต็มที่เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในการจัดงานตามสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ เชื่อว่าจะไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นแต่อย่างใด พร้อมกล่าวเตือนสถานบริการในการจุดพลุ ประทัด เอฟเฟคฉลองในช่วงเค้าท์ดาวน์ให้ระมัดระวัง หากเป็นไปได้ขอให้งดเพื่อป้องกันเกิดเหตุซ้ำรอยอย่างเช่นปีที่ผ่านมา ส่วนกรณีที่เกรงว่าจะมีเหตุระเบิดเช่นปี 2550 นั้นขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกตำรวจพร้อมดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ โดยจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีรายงานด้านการข่าวถึงการก่อเหตุรุนแรงแต่อย่างใด

พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า ตำรวจนครบาลได้จัด "โครงการฝากบ้านไว้กับเพื่อนบ้าน" โดยให้ทุกสถานนีตำรวจในนครบาลจัดเจ้าหน้าที่ออกประชาสัมพันธ์ประชาชน และชุมชนที่อยู่ในละแวกเดียวกันให้ร่วมกันดูแลสอดส่องบุคคลต้องสงสัยที่อาจเข้ามาก่ออาชญากรรม หรืออ้างเป็นญาติเจ้าของบ้านเพื่อตรวจสอบว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่เพื่อแจ้งให้ตำรวจจับกุมได้ทันท่วงที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานตาม "โครงการฝากบ้านกับตำรวจ" ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยโครงการนี้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีและมีประชาชนเข้าร่วมแล้วจำนวน 25 หมู่บ้าน โดยเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ปีที่ผ่านมามีผู้มาฝากบ้านกับตำรวจ 331 หลัง จึงขอเชิญชวนประชาชนที่ท่องเที่ยวต่างจังหวัดเข้าร่วมโครงการเพื่อช่วยสอด ส่องระวังมิจฉาชีพอาศัยโอกาสในช่วงที่ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางไปต่างจังหวัด และเป็นหูเป็นตาให้กับตำรวจ

นอกจากนี้ ผบช.น. ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการจราจรตามสี่แยกทั่ว กทม. ว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเข้ามามากว่าตำรวจจราจรไม่ออกมาจากป้อมยามเพี่อช่วยแก้ไขปัญหาจราจร รถติดเร่งระบายรถ บางคนทำเพิกเฉยไม่สนใจ จึงได้หารือกับ ผบก.จร. และตำรวจชั้นผู้ใหญ่อื่นๆ ว่าให้ลอกฟิล์มกรองแสงที่ติดกระจกป้อมยามทุกป้อมออกให้หมดเพื่อให้ตำรวจจราจรที่เข้าเวรในป้อมยามได้เห็นสภาพปัญหารภที่ติดขัด เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ไม่ใช่มัวแต่ดูทีวีหรือนอนหลับในป้อมยาม ไม่ยอมออกมาปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งได้สั่งการไปแล้วในวันนี้ ให้รีบดำเนินการโดยเร็ว

"ผมสั่งให้เก็บหุ่นตำรวจจราจร(จ่าเฉย) ที่ยืนตามสี่แยกต่างๆ ทั่ว กทม. ไม่ให้นำมาตั้งไว้เพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์ไม่สามารถลดปัญหาการจราจรได้ ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่นั้น ผมจะออกสุ่มตรวจตาม สน.ต่างๆ ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ โดยจะไม่มีการบอกล่วงหน้าว่าจะไปที่ไหนขอให้ตำรวจทุก สน.ระวังให้ดี หากพบมีความบกพร่องในการทำหน้าที่ก็ต้องจัดการ" พล.ต.ท.สัณฐานกล่าว

ปัดฝุ่นโครงการฝากบ้านไว้กับ ตร.

พล.ต.ท. สัณฐาน กล่าวถึงการจัดโครงการฝากบ้านไว้กับเพื่อนบ้านว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต. วิมล เปาอินทร์ รอง ผบช.น เป็นผู้ดูแล โดยให้แต่ละ สน. เข้าไปช่วยดูแล โดยจะเดินทางไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการเพื่อตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเองโดยจะไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า เรื่องที่มีประชาชนร้องเรียน เกี่ยวกับป้อมตำรวจที่ตั้งไว้ในจุดที่มืดหรือบางครั้งเห็นแต่ป้อมไม่เห็นตำรวจเราจะปรับปรุงแก้ไขให้ดีที่สุด เพราะเป็นภาพพจน์ที่ไม่ดีของตำรวจ ทั้งนี้ จะเก็บหุ่นตำรวจจราจร (จ่าเฉย)ที่มีให้หมด แล้วให้ตำรวจไปประจำอยู่แทน ในช่วงปีใหม่จะให้เจ้าหน้าที่ตรวจเข้มเรื่องของประทัด พลุ และดอกไม้ไฟ จะไม่ให้มีการเล่นหรือจำหน่ายแต่อย่างใด

พล.ต.ต. วิมล เปาอินทร์ รอง ผบช.น กล่าวถึงขั้นตอนการปฎิบัติงานในโครงการดังกล่าวว่า "โครงการฝากบ้านไว้กับเพื่อนบ้านเป็นหนึ่งในโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ จึงได้จัดกิจกรรมในแต่ละหมู่บ้านโดยให้คนในหมู่บ้านหรือชุมชนเดียวกันออกมาร่วมเล่นเกมส์และทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันได้รู้จักชื่อและโทรศัพท์มือถือซึ่งกันและกัน เพื่อร่วมกันดูแลและสอดส่องพฤติกรรมของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่น่าสงสัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจมากยิ่งขึ้น โดยโครงการนี้เริ่มขึ้นในเดือน ธันวาคม 2552ซึ่งมีหมู่บ้านที่ร่วมโครงการแล้ว 25 แห่งด้วยกัน

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook