สันธนะ ปูดอีก! เผยเลขท้ายเบอร์โทร VIP คุยกับแก๊งสปีดโบ๊ต หลังแตงโมตกเรือ

สันธนะ หอบหลักฐานเบอร์โทรศัพท์ VIP 2 หมายเลข มอบให้ตำรวจตรวจสอบ เชื่อมีบุคคลปริศนาคุยกับคนบนเรือสปีดโบ๊ต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 เม.ย.) เมื่อเวลา 17.00 น. นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล นำเบอร์โทรศัพท์มือถือ 2 เบอร์สำคัญ ที่มีการพูดคุยกันเป็นระยะระหว่างคนที่อยู่บนเรือสปีดโบ๊ตและบุคคลปริศนาที่อยู่บนบก หลังเกิดเหตุดาราสาวชื่อดัง แตงโม นิดา ตกเรือ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา มอบให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบที่ สภ.เมืองนนทบุรี คาดข้อหาคนบนเรือทั้ง 5 คน เปลี่ยนแน่นอน

นายสันธนะ ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการประสานงานกับ ผกก.เมืองนนทบุรี ทราบมาว่าเขาป่วย ตนจึงมาให้การเพิ่มเติมในครั้งที่ 3 ของคดีแตงโม จะเอาเอกสารให้พนักงานสอบสวนเพราะคนบนเรือทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาแล้ว เป็นการสืบสวนคดีมี 2 ประเด็นที่ต้องดำเนินการ จะตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ของทุกคน

ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน ก็บอกว่าไม่ได้ว่าพวกเขาเป็นผู้ต้องหา จึงยังไม่ได้มอบรายละเอียด หมายเลขโทรศัพท์ เพราะตอนนี้ทุกคนเป็นผู้ต้องหาแล้ว จึงได้ทำการประสานให้พนักงานมอบสวน ตรวจสอบโทรศัพท์ เป็นหมายเลข VIP ทาง ผบชก. พูดถึงวัตถุพยานและตรวจการใช้โทรศัพท์จำนวน 3 เครื่อง

ส่วน 2 เครื่องที่ตนมีอยู่ในระหว่างที่เขาตรวจสอบไปแล้วหรือยังไม่ได้ตรวจสอบ ในนี้ 2 หมายเลขที่ตนนำมาให้ตรวจสอบ เชื่อว่ายังไม่มีการดำเนินการมาก่อน ตนให้ตรวจสอบตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ในขณะที่เรืออยู่บนแม่น้ำ ทั้งก่อนเกิดเหตุ ตอนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ เพราะเชื่อว่ามีการเชื่อมโยงกัน เชื่อว่าเรือมีการปรับเข้าฝั่ง เพราะตรงนี้ตนมีข้อมูลเพิ่มเติม และตรวจ GPS อย่างรอบคอบ

ต้องตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ขณะที่เรือล่องในแม่น้ำ เนื่องจากเบอร์มีการเชื่อมโยงกับคนบนฝั่ง หมายเลขโทรศัพท์หรือคุยกันผ่านแอปพลิเคชั่น จะต้องตรวจสอบว่ามีการคุยอะไรกันบ้าง ตนจะบอก 4 ตัวท้ายของเบอร์โทรศัพท์ VIP คือเครื่องที่ 1 หมายเลขลงท้าย 4444 และเครื่องที่ 2 หมายเลขลงท้าย 6666 เป็นหมายเลข 4 ตัวท้ายที่เบอร์โทรศัพท์เป็นเบอร์ VIP

นี่ก็คือส่วนที่ตนมอบให้พนักงานสอบสวน ให้ช่วยทำหนังสือถึงสถานีตำรวจนครบาล แจ้งให้ทาง สภ.ทราบแล้ว ที่ตนเคยบอกไว้เพราะตนได้แจ้งไว้แล้วเพื่อให้การเก็บวัตถุพยานให้ตน ตนทำหนังสือขอรับเพื่อบอกพนักงานสอบสวน แต่เขาไม่สามารถแจ้งกับตนได้ จะมอบให้ตนไปรับวัตถุพยานเหล่านี้เอง

และไม่อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนส่งกันเอง กลัวว่าจะมีการตัดต่อและกลัวจะเสียเปล่า เพราะตนมีสิทธิในการกล่าวอ้างถึง ถ้าตนจะตรวจสอบดูก็เป็นสิทธิของตน เป็นการดำเนินการที่ไม่เต็มใจทำของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ถ้าการส่งมีปัญหาก็ต้องขอร้องพนักงานสอบสวน

และอยากบอกให้บังแจ็คเลิกพูดไร้สาระเพราะเดี๋ยวจะติดคุก เพราะถ้ามีหลักฐานนอกประเทศจะอยู่ในสำนวนไม่ได้ แต่ในส่วนของตนพูดทุกอย่างแล้ว และอยู่ในสำนวน ตรงนี้ตนมีความชัดเจน ส่วนคนที่บอกว่าตนไร้สาระ หากมาพูดพาดพิงถึงตนจะดำเนินคดีหมิ่นประมาท มีบางส่วนแล้วที่ตนไปดำเนินคดีที่พหลโยธิน

ถ้าหากหมายเลขโทรศัพท์ของคนบนเรือมีโปรแกรมใช้ จะระบุบอกเลยว่าจะมีการเชื่อมโยงกันหมด และจะรู้ทั้งหมดว่าเป็นใคร แต่เบอร์ VIP จะบอกตำแหน่งทุกอย่าง ต้องทำให้ทุกอย่างถูกต้อง ตนไม่โทรไปเช็กที่เบอร์ว่าเป็นใคร เพราะต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ขนาดโรงแรมยังปิดได้ เบอร์โทรศัพท์ก็ต้องปิดได้

การเก็บข้อมูลจะต้องดูว่าวัตถุพยานอยู่ที่ใด ถ้ามีการลบข้อมูลทิ้งจะเป็นการทำลายหลักฐาน ถ้าตนพูดหมดทุกอย่างคงไม่ได้ต้องอยู่ที่พนักงานสอบสวนตรวจสอบ ภายใน 5-7 วัน ก็ทราบแล้ว แต่ก็ไม่มีการดำเนินการ แทนที่จะรู้หมดว่าใครเป็นใคร เพราะตอนนี้ฟังพยานบุคคลไม่ได้ทั้งหมดปากเเข็งทุกคน ตนจึงต้องนำสิ่งนี้มาพูด

การทำงานในแบบสอบสวนจะต้องมี ถ้าวันไหนมีหลักฐานตัวเป็นๆ มา ตนจะไปยื่นเรื่องให้ตรวจสอบคดีใหม่ จะรู้ด้วยว่าทั้งหมดว่าใครเป็นกุนซือ ถ้าตนไปพูดเหมือนจะเป็นการเปิดโปงให้เขาหนี ว่าจะมีใครบงการอยู่ระดับบนหรือล่าง ถ้ามีการพูดถึงตนจะฟ้องดำเนินการให้หมด ถ้ามีเรื่องที่ไม่ใช่ก็บอกมาตรงๆ ไม่ใช่เอาเรื่องอื่นเข้ามาในสำนวน ทำให้เขาปิดคดีไม่ได้

ส่วนหลักฐานที่ยื่นไปก็มีกล้องวงจรปิดร่วมด้วย เพราะตนเก็บข้อมูลไว้หมด และบอกว่าทุกคนอย่าเพิ่งหยุดก็ได้มาจากโซเชียลบ้างจึงเอามาประกอบกัน ถ้าจะให้พนักงานสอบสวนฟังตนคนเดียวก็ไม่ใช่ ต้องมาจากหลายๆ คนที่ช่วยกันจะได้เจอความจริง ตนมีหลักฐานตั้งแต่ต้น

แต่ตนมายื่นวันนี้เพราะพวกเขาทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาหมด จึงออกมาดำเนินการ ถ้ารับสารภาพแล้วศาลลงโทษก็จะเป็นอุบัติเหตุ อัตราโทษจะกำหนดไว้แค่นั้น ถ้ากล้ารับว่าเป็นการฆาตกรรมใครจะไปกล้ารับสารภาพ ตนก็ติดตามทุกระยะ จะให้ปากคำเพิ่มเติมในวันนี้และรายละเอียดเรื่องของเบอร์ VIP