อุทาหรณ์ เด็ก 3 ขวบเข้าห้องน้ำคนเดียว ร้องไห้เดินขยี้ตากลับมา คาดงูเห่าพ่นพิษใส่หน้า
อุทาหรณ์ เด็ก 3 ขวบเข้าห้องน้ำคนเดียว ร้องไห้เดินขยี้ตากลับมา คาดงูเห่าพ่นพิษใส่หน้า โชคดีอาการปลอดภัย
สมาชิกเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า Chumpol Punnin (จุมพล พูลนิน) อยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ได้โพสต์ภาพซากงูเห่า และเด็ก ที่หลับตาร้องไห้อยู่กับผู้ปกครอง พร้อมข้อความว่า เป็นเคสที่สะเทือนใจมากๆ อุทาหรณ์ ท่านที่มีบุตรหลาน อย่าปล่อยให้เด็กห้องน้ำตามลำพัง เพราะบางครั้งงูชอบตามไปกินหนู หรือ อึ่งอ่าง ที่ชอบไปนอนในที่ชื้น ๆ เคสนี้เด็กเข้าห้องน้ำ แล้วไปเจองู ไม่แน่ใจเด็กไปแหย่ หรือเล่นกับงูหรือเปล่า แต่งูพ่นพิษใส่ตา 2 ข้าง ที่สำคัญไม่แน่ใจว่าถูกกัดด้วยหรือเปล่า น้องอายุแค่ 3 ขวบ เพราะน้องบอกไม่ได้ ขอให้น้องปลอดภัย ซึ่งโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ออกไปมากกว่า 2 พันครั้ง และมีการแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
ทีมข่าวไปพูดคุยกับ คุณจุมพล พูลนิน ผู้โพสต์ และเป็นหัวหน้ากู้ภัยสว่างพรกุศลระยอง จุดเนินพระ ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ขอความช่วยเหลือจับงู ที่บริเวณที่พักคนงาน ของสนามฟุตบอลหญ้าเทียม บริเวณตำบลนิคมพัฒนา อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางไปก่อน เมื่อทีมงานไปถึง พบว่ามีงูเห่าอยู่ในห้องน้ำ เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันจับ โดยการใช้ไม้คล้องจับออกมา แต่แม่เด็กแจ้งด้วยว่า งูพ่นพิษใส่หน้าเด็ก จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ ก็พบว่ามีเด็กหญิงอายุ 3 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของคนงานชาวเมียนมา แม่เด็กบอกว่า ลูกสาวไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็ร้องไห้จ้า เอามือขยี้ตาตลอดเวลา และไม่ยอมลืมตา เมื่อดูในห้องน้ำก็เห็นงู จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย
นายจุมพล บอกว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามจะล้างหน้า ล้างตาให้เด็ก เพราะว่าเด็กอาจะถูกพิษงู แต่เด็กไม่ยอมให้ทำ จึงต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลระยอง เพื่อให้แพทย์ตรวจสอบและรักษา เพราะเกรงว่าอาจจะเป็นอันตรายกับดวงตา โดยแพทย์ได้ทำการล้างพิษออกจากใบหน้าแล้ว เบื้องต้นเด็กปลอดภัย และแพทย์อนุญาตให้กลับมาดูอาการที่บ้านแล้ว แต่จากการกลับไปตรวจสอบบริเวณบ้านพักของเด็ก และบริเวณที่เกิดเหตุเมื่อคืนนี้ พบว่าห้องปิด และไม่พบครอบครัวคนงาน สอบถามไปที่นายจ้างของพ่อแม่เด็ก บอกเพียงว่าเด็กปลอดภัยแล้ว อยู่ระหว่างสังเกตอาการ
ด้านนายพิชิต ยี่สุ่น อาสาสมัครกู้ภัยฯ ที่เดินทางไปถึงเป็นชุดแรก บอกว่า ตอนที่ไปเจอ งูอยู่ที่ข้างถังน้ำ บริเวณในห้องน้ำ จึงใช้ไม้จับ พื้นที่ค่อนข้างแคบ จะมีรู เราจึงอุดรูไว้ ป้องกันไม่ให้งูเข้ารูหนีไปทางท่อระบายน้ำ เบื้องต้นเป็นงูเห่า มันแผ่แม่เบี้ยตอนแรกที่เข้าไป จึงต้องหาทางเข้าไปจับ
สำหรับบริเวณที่เกิดเหตุ เป็นสนามฟุตบอลหญ้าเทียม ที่ปิดให้บริการอันเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ทางเจ้าของสนามจึงให้คนงานชาวเมียนมา มาเฝ้า และบริเวณที่เป็นห้องน้ำ ก็มีหญ้าขึ้นรอบๆ สภาพชื้น ซึ่งสัตว์มีพิษชอบไปอาศัยอยู่ สำหรับงูเห่าตัวที่จับได้ พบว่าบริเวณช่วงท้องมันป่อง คาดว่าจะตามไปกินคางคกที่อยู่ในห้องน้ำ แล้วจังหวะเด็กไปเข้าห้องน้ำพอดี จึงพ่นพิษใส่