ผวา อาถรรพ์เครื่องประดับล้ำค่ากลางแม่น้ำวัง ชาวบ้านโยงคดีเพชรซาอุฯ ในอดีต

ผวา อาถรรพ์เครื่องประดับล้ำค่ากลางแม่น้ำวัง ชาวบ้านโยงคดีเพชรซาอุฯ ในอดีต

ผวา อาถรรพ์เครื่องประดับล้ำค่ากลางแม่น้ำวัง ชาวบ้านโยงคดีเพชรซาอุฯ ในอดีต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พบเครื่องประดับกลางแม่น้ำวัง ชาวบ้านผวาอาถรรพ์ หวั่นโยงคดีเพชรซาอุฯ ในอดีต ผู้ว่าลำปางเผย ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยง

จากกรณีที่มีชาวบ้านในพื้นที่อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ไปดำน้ำยิงปลาแล้วพบกับถุงใส่เครื่องประดับจำนวนมากแล้วเจออาถรรพ์มีอาการชักคล้ายกับผีเข้า จึงพากันนำไปมอบให้วัดแห่งหนึ่ง สุดท้ายพระให้ลูกศิษย์นำไปไว้ที่เดิมจนกำนันในพื้นที่ตำบลแม่ปุ อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง ทราบจึงให้คนงมขึ้นมาจากน้ำ เพราะเกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับคดีเพชรดังในอดีตหรือไม่

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เม.ย.65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบ นายวัชรินทร์ วงศ์ชัยสิทธิ์ อายุ 56 ปี กำนันตำบลแม่ปุ อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง พร้อมนำเครื่องประดับบางส่วนซึ่งคาดว่าเป็นเครื่องประดับที่ไม่ใช่ของไทยจำนวนทั้งหมด 63 ชิ้น มาให้ผู้สื่อข่าวดู ซึ่งทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นแหวนจำนวน 35 วง สร้อยพร้อมเครื่องประดับ 1 เส้น เนื้อเครื่องประดับแหวนเป็นลักษณะคล้ายเนื้อนาค เนื้อเงิน และทองคำขาว ส่วนหัวแหวนมีหลากหลายสี ส่วนที่เหลือเป็นเครื่องประดับอื่นๆ พร้อมเปิดเผยว่าที่ผ่านมาตนเองได้ยินข่าวจากผู้นำชุมชนในพื้นที่มาบอกว่า มีคนดำน้ำไปยิงปลาแล้วพบกับถุงใส่เครื่องประดับจำนวนมากแล้วเจออาถรรพ์ เลยเอากลับไปทิ้งแม่น้ำที่เดิม ตนจึงให้สารวัตรกำนันไปงมขึ้นมาจากแม่น้ำวัง เพราะเกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับคดีเพชรดังในอดีต เมื่องมขึ้นมาได้ก็นำมาทำความสะอาดที่บ้าน ปรากฏว่าระหว่างนั้นแม่ของตนเองเกิดอาการคล้ายกับผีเข้าและบอกให้นำไปคืน ตนเองจึงบอกว่า จะนำมาล้างเพื่อนำคืนเจ้าของแม่จึงอาการดีขึ้น

กระทั่งเช้าวันต่อมาจึงนำเอาเครื่องประดับที่ได้มาล้างอีกครั้ง ก็ปรากฏว่าจู่ๆ มีลมพัดมาอย่างแรงพัดอยู่บริเวณรอบบ้าน ตอนนั้นก็มีนักข่าวช่องหนึ่งก็เห็นเหตุการณ์ด้วย ซึ่งหลังจากที่ตนเองนำมาล้างทำความสะอาดเสร็จแล้วพบว่ามีเครื่องประดับทั้งหมด 81 ชิ้น ที่มองดูแล้วว่าเป็นของแขกประมาณ 63 ชิ้น ที่เหลือน่าจะเป็นของไทย ซึ่งแหวนหลายวงทั้งใหญ่และเล็กมีการแกะภาพรูปต่างๆ บางวงเป็นรูปหัวสัตว์ ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าเป็นรูปอะไร ส่วนตัวแหวนนั้นก็ไม่ทราบว่าเป็นเงินหรือทองคำขาวหรือว่าเป็นวัตถุชนิดไหนใช่กัน ต้องรอเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบก่อน และคาดว่าน่าเครื่องประดับน่าจะไม่เกี่ยวกับเรื่องของคดีดังในอดีต

เบื้องต้นผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางรับทราบแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างหาผู้เชี่ยวชาญ เช่น กรมศิลปากรตรวจสอบ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับคดีเพชรซาอุฯ ในอดีตหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงใดๆ เป็นเพียงการตั้งข้อสงสัยของชาวบ้านเท่านั้น

 

สำหรับ "คดีเพชรซาอุ" ผู้ที่ก่อเหตุคือ "เกรียงไกร เตชะโม่ง"  แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในพระราชวังของกษัตริย์ซาอุดิอาระเบีย ได้ขโมยเครื่องเพชรของราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย ในปี 2532 จึงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างซาอุฯ และไทยเสื่อมลงเป็นเวลามากกว่า 30 ปี

จุดเริ่มต้นจากการที่นายเกรียงไกร ถูกจัดให้เข้าไปทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดภายในพระราชวังของกษัตริย์ซาอุดิอาระเบีย เขาเริ่มการโจรกรรมในวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2532 หลังมองเห็นช่องทางในการขโมยเครื่องเพชรดังกล่าว เพราะเครื่องเพชรเหล่านั้นมีจำนวนมากและถูกวางไว้อย่างไม่เป็นที่เป็นทาง แม้แต่ตู้เซฟก็ยังถูกเปิดทิ้งเอาไว้ 

ในเดือนธันวาคม 2532 เกรียงไกรทำการขโมยเครื่องเพชร 91 กิโลกรัม ซึ่งรวมไปถึงเพชรน้ำเงินกับอัญมณีอื่นๆ รวม 50 กะรัต โดยแอบนำถุงกระสอบขนาดใหญ่เข้าไปในพระราชวัง ซ่อนตัวอยู่ภายในพระราชวังจนถึงเวลากลางคืน แล้วจึงทำการขโมยเครื่องเพชรใส่ถุงกระสอบแล้วโยนถุงกระสอบออกนอกกำแพงพระราชวัง ก่อนส่งเครื่องเพชรกลับมายังประเทศไทยด้วยบริการขนส่งพัสดุทางอากาศ โดยปะปนกับเสื้อผ้าและเครื่องใช้ส่วนตัว ซึ่งด่านศุลกากรของทั้งสองประเทศไม่สามารถตรวจพบ เมื่อทำการโจรกรรมเรียบร้อยแล้วจึงได้เดินทางกลับประเทศไทยทันที โดยเครื่องเพชรดังกล่าวถูกนำมายังจังหวัดลำปาง นายเกรียงไกรขายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย โดยเครื่องเพชรส่วนใหญ่ถูกขายให้กับช่างทำเพชรพลอยชาวกรุงเทพ หลังจากนั้นไม่นานรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ประสานมายังรัฐบาลไทย ขอให้ติดตามเครื่องเพชรประจำราชวงศ์ส่งคืน

นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบียที่ใกล้ชิดกับราชวงศ์ซะอูด เดินทางมายังกรุงเทพมหานครเพื่อสืบสวนด้วยตนเอง เขาได้หายสาบสูญไปในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2533 และสันนิษฐานว่าถูกฆ่า ก่อนเขาหายตัวไป  

นักการทูตชาวซาอุดีอาระเบียถูกฆ่าในย่านสีลม เขตบางรัก ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2533 มีนักการทูตชาวซาอุดีอาระเบียเสียชีวิตเพิ่มอีก 3 คนในย่านยานนาวา ซึ่งคดีเหล่านี้ยังไม่ได้ข้อยุติมาจนปัจจุบัน

และถึงแม้ไม่มีความเชื่อมโยงว่ารัฐบาลไทยเกี่ยวข้องกับการโจรกรรมเครื่องเพชร แต่ทางการซาอุดีอาระเบียเชื่อว่ารัฐบาลไทยดำเนินการไม่เพียงพอในการไขปริศนาเกี่ยวกับการฆ่านักการทูตซาอุดีอาระเบีย มีสมมติฐานหลายประการเกี่ยวกับเหตุการณ์ฆ่าดังกล่าว และทำให้เกิดความบาดหมางระหว่าง 2 ประเทศ ซาอุดิอาระเบียยกเลิกการทำวีซ่าทำงานให้กับคนไทย และประกาศเตือนคนในประเทศไม่ให้เดินทางมายังกรุงเทพมหานคร

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ ผวา อาถรรพ์เครื่องประดับล้ำค่ากลางแม่น้ำวัง ชาวบ้านโยงคดีเพชรซาอุฯ ในอดีต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook