นักร้องขาพิการขู่โดดสะพาน อ้างเมียทำร้าย-รีดเงินไปกินเหล้า เมียแฉหนังคนละม้วน!

นักร้องขาพิการขู่โดดสะพาน อ้างเมียทำร้าย-รีดเงินไปกินเหล้า เมียแฉหนังคนละม้วน!

นักร้องขาพิการขู่โดดสะพาน อ้างเมียทำร้าย-รีดเงินไปกินเหล้า เมียแฉหนังคนละม้วน!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักร้องเปิดหมวกขาพิการขู่โดดสะพาน อ้างเมียทำร้าย รีดเงินไปกินเหล้า หาผู้ชายคนใหม่ เมียออกมาโต้เหมือนหนังคนละม้วน

จากกรณีเมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 เม.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้รับแจ้งมีชายพิการขาขวาและมือด้านซ้าย ถอดขาเทียมไว้บนสะพาน กระโดดสะพานพระราม 4 หวังจะฆ่าตัวตาย พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือเอาไว้ได้ทราบชื่อคือ นายจักรพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี มีอาชีพร้องเพลงเปิดหมวกอยู่ย่านปากเกร็ด โดยนายจักรพงศ์ อ้างว่าสาเหตุที่ทำให้ต้องคิดสั้นกระโดดสะพานเกิดจากถูก นางทนงกร อายุ 58 ปี ภรรยา ทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง หลังจากร้องเพลงเปิดหมวกกลับไปบ้านต้องแบ่งเงินคนละครึ่ง แถมภรรยายังเอาเงินที่ได้มาไปกินเหล้าแล้วแอบไปหาผู้ชายคนอื่น นำขาเทียมไปเก็บไว้ทำให้เดินไปไหนมาไหนไม่ได้ อยากกลับไปอยู่กับญาติที่จ.สุพรรณบุรี

ล่าสุดวันที่ 11 เม.ย.65 เวลา 18.00 น. ทางผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณหลังอำเภอปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวกับทาง นางทนงกร อายุ 58 ปี ภรรยาของนายจักรพงศ์ ปรากฏว่าเป็นหนังคนละม้วน เรื่องราวทั้งหมดไม่เป็นความจริง นางทนงกร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนอยู่กินกันมาตั้งแต่ปี 61 เมื่อวานนายจักรพงศ์เขาเมาพอเมาก็จะเป็นแบบนี้ทุกครั้งเวลาเมา จะขาดสติแบบไม่ยั้งคิด วันนั้นถ้าช่วยไม่ทันก็คงตายไปแล้วที่บนสะพานเหมือนกัน เคยจะกระโดดมาแล้ว

ก่อนเกิดเหตุนั่งอยู่ด้วยกัน ตรงหน้าบ้าน สักพักเขาก็เดินออกไป แล้วก็ไปโดดสะพานไม่ได้ทะเลาะอะไรกันเลย นั่งคุยกับน้องอีกคนนึง เขากินเหล้าขาวตนก็กินเหมือนกัน แต่งงมากอยู่ดีๆ มีข่าวมาโจมตีตนทำไม เมื่อก่อนไม่มีตังค์สักบาทไม่มีที่ซุกหัวนอนตนไปดึงออกมา หมดเงินกับเขาไปมาก ทำพฤติกรรมแบบนี้ประจำ วันก่อนไปเมเจอร์ปากเกร็ด จะเดินให้รถชน ตนก็ดึงแขนไว้ถามว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ตนตามจนเหนื่อย เวลาเมาชอบด่าคำหยาบมีปากมีเสียงทะเลาะกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา เขาเคยทำร้ายร่างกายตนมาก่อน ตอนนี้ยังเจ็บหน้าอกอยู่ แต่พอสร่างเมากลายเป็นคนละคน มาบอกขอโทษแล้วจะไม่ทำอีก พอเมาก็เหมือนเดิม

เขาร้องเพลงเปิดหมวก ตอนแรกเขาร้องไม่เป็นตนเลยสอนให้เขาร้องเพลง แล้วพาไปทำบัตรให้เป็นทางการ เป็นบัตรแสดงความสามารถ ที่บอกว่าตนไปนั่งรอสตางค์ ไม่เป็นความจริงที่ไปเพราะว่าต้องไปดูเขา ถ้าปล่อยไปคนเดียว 4-5 วันเขาถึงจะกลับมา คนต้องไปตามหา บางครั้งก็เก็บเสื้อผ้าหนีไป หนีไปประมาณ 20 ครั้งหนสุดท้ายก็กลับมา บางครั้งหายไปนานตนต้องนั่งร้องไห้ ตามหาไม่เจอตนไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมเขาต้องเป็นข่าว ทำไมหากินแบบนี้ ตนเป็นโรคหัวใจ ทำงานไม่ได้บางครั้งก็หน้ามืดเวียนหัวมองอะไรไม่เห็น จนลูกสาวบอกว่าให้อยู่บ้านเฉยๆ ไม่ให้ทำอะไร

นายสัณหณัฐ อายุ 26 ปี อาสากู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กล่าวว่าเมื่อคืนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีชายกระโดดสะพานพระราม 4 ตนจึงรีบไปตรวจสอบตอนไปถึงพบว่าขึ้นมาจากน้ำแล้วตนเลยสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นเขาบอกว่าทะเลาะกับแฟนรู้สึกท้อจน เลยถามว่าอยากกลับบ้านเกิดไหมก็เลยติดต่อทางนายอำเภอและชาวบ้านแถวนั้น ว่ารู้จักพี่คนนี้ไหม ให้ติดต่อญาติให้ สักพักทางญาติติดต่อกลับมาตนเลยไปส่งที่บ้าน ต.สนามคลี อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

ตอนกระโดด เอาขาเทียมวางไว้บนสะพาน ก่อนหน้านี้เคยขู่จะกระโดดสะพานมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อ 2 วันที่แล้วเคยไประงับเหตุทำร้ายร่างกายเนื่องจากตำรวจแจ้งมาว่ามีการทะเลาะวิวาทตนเลยเข้าไปดูที่เกิดเหตุ พบพี่คนที่กระโดดสะพานทะเลาะกับเมียกำลังด่าทอกันอยู่และถูกเมีย ทำร้ายร่างกายแต่ไม่ได้บาดเจ็บ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook