อ้างเป็น ผกก.สภ.เมืองระนอง หลอก "พิธีกรสาว" วิดีโอคอลให้ปากคำ สูญเงิน 1 ล้าน

อ้างเป็น ผกก.สภ.เมืองระนอง หลอก "พิธีกรสาว" วิดีโอคอลให้ปากคำ สูญเงิน 1 ล้าน

อ้างเป็น ผกก.สภ.เมืองระนอง หลอก "พิธีกรสาว" วิดีโอคอลให้ปากคำ สูญเงิน 1 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พิธีกรสาวเตือนภัยมุกใหม่แก๊งคอลเซนเตอร์ อ้างเป็น ผกก.สภ.เมืองระนอง หลอกวิดีโอคอลให้ปากคำกว่าครึ่งชั่วโมง สูญเงินไปนับล้าน

ยังคงระบาดต่อเนื่อง สำหรับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ออกอุบายโทรหลอกให้เหยื่อโอนเงิน แม้จะเริ่มมีคนจับทางได้ แต่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ยังขยันหามุกใหม่มาหลอกเหยื่อ ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากตกหลุมพรางโดนหลอกกันถ้วนหน้า

ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Pattima Komolbawonkul หรือ ต้นอ้อ-ภัทธีมา โกมลบวรกุล พิธีกรสาว ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าตนเองตนเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพที่อ้างตัวเองว่าเป็นตำรวจ สภ. เมืองระนอง เสียเงินไป 1 ล้านบาท

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง ต้นอ้อ ภัทธีมา เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง โดยช่วงสายวันนี้ได้มีเบอร์โทรศัพท์หมายเลขหนึ่งได้โทรมาหาตน โดยปลายสายระบุว่า เป็นเจ้าหน้าที่กรมศุลการกร อ้างว่า ตนมีการส่งพัสดุไปต่างประเทศและพัสดุนั้น เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นพัสดุผิดกฎหมาย อีกทั้งปลายสายยังอ้างอีกว่าตนมีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย ในพื้นที่ สภ.เมืองระนอง

ซึ่งขณะนั้นตนรู้สึกตกใจและทำอะไรไม่ถูกก็ได้แต่ฟังและให้ความร่วมมือ จากนั้นปลายสายก็ได้โอนสายไปยังอีกบุคคลหนึ่ง อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระนอง ระบุชื่อ พ.ต.อ.พรพรหม จักษุรักษ์ ตำแหน่งผู้กำกับสถานี และพยายามขอแอดไลน์เพื่อเข้าสู่กระบวนการซักถาม

ต่อมาตนจึงได้ทำตามขั้นตอนแอดไลน์ตามที่ปลายสายระบุ ก่อนที่ปลายสายจะสอบถามข้อมูลส่วนตัว พร้อมขอให้ตนบอกบัญชีธนาคารเพื่อทำการตรวจสอบเงินในบัญชีธนาคารที่ปลายสายระบุว่าบัญชีของตนมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีที่ผิดกฎหมาย

โดยตนได้โอนไปยังบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง ชื่อบัญชี นางสาว พณัตศศิตา (ขอสงวนนามสกุล) เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้านบาท จากนั้นปลายสายได้วางสายและบล็อกไลน์ตนไป

หลังเกิดเหตุตน คิดว่าตนนั้นถูกหลอกแล้ว จึงได้เข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ โดยระหว่างที่รอแจ้งความก็พบว่ามีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการนี้รอแจ้งความกับตำรวจถึง 4 คนด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับตนระหว่างว่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้กับพี่น้อง ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอยากจะขอให้ทางตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี เพื่อที่จะไม่ไปก่อความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนอีกต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook