ข้าวเหนียวมะม่วงฟีเวอร์ถึงสตูล แม่ค้าออนไลน์เผยผลิตไม่ทัน
นางสาวสุกัญญา อุเจ๊ะ อายุ 28 ปี ชาว ม.3 ต.ควนสตอ อ.ควนโดน จ.สตูล พร้อมพี่สาว นางสาวปาริดา อุเจ๊ะ ต่างเร่งทำข้าวเหนียวมะม่วงแพ็กลงกล่องอย่างสวยงามก่อนที่จะนำไปส่งให้กับลูกค้าในช่วงบ่าย ตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งเข้ามาทางเฟซบุ๊กของตนเองและเพจของกินใน จ.สตูล ที่มีเข้ามาจำนวนมากจากกระแสฟีเวอร์แร็ปเปอร์ชื่อดัง มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล ที่โชว์กินข้าวเหนียวมะม่วงบนเวทีเทศกาลดนตรีดังที่สหรัฐ
น.ส.สุกัญญา เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ตนเป็นพนักงานทำความสะอาดบนเครื่องบิน อยู่ที่ จ.ภูเก็ต แต่ถูกพิษโควิดจึงต้องกลับมากรีดยางที่บ้านและทำข้าวมันไก่ใส่กล่องขาย แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ
ช่วงปลายเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่มะม่วงเริ่มออกสู่ตลาด ตนเป็นคนที่ชอบรับประทานข้าวเหนียวมะม่วงอยู่แล้ว จึงคิดที่จะทำขายแต่ตนเองทำไม่เป็นจึงศึกษาจากยูทูป จากนั้นก็ทดลองทำให้ครอบครัวญาติพี่น้องได้ชิม ญาติบอกว่าอร่อยทำขายได้ ตนจึงเปิดรับออเดอร์ วันแรกที่ทำขายได้ 30 กล่อง แต่เมื่อทำปรากฏว่าข้าวเหนียวแฉะไปหน่อย ออเดอร์ที่รับมาตนจึงแจกฟรีทั้งหมด ซึ่งลูกค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร
เมื่อทดลองทำจนชำนาญ จึงเปิดรับอีกครั้งโดยทำเป็นข้าวเหนียวมะม่วง 4 สีเพื่อให้เกิดความสวยงามสะดุดตา สีที่ใช้เป็นสีจากธรรมชาติทั้งหมด สีขาวคือสีธรรมชาติ สีเขียวจากใบเตย สีชมพูจากเฟื่องฟ้า และสีม่วงอ่อนจากอัญชัน
ส่วนมะม่วงตนเลือกมะม่วงแก้วขมิ้นและมะม่วงน้ำดอกไม้ แต่มะม่วงแก้วขมิ้นจะได้รับความนิยมมากกว่าเพราะมีความหวานและสีสวยตัดกับสีของข้าวเหนียว เมื่อเปิดรับออเดอร์ใหม่อีกครั้งปรากฏว่ามีลูกค้าสั่งมากกว่าเดิมมีลูกค้าสั่งเข้ามา 70 กล่อง และมากขึ้นทุกวัน
จนกระทั่งกระแสน้องมิลลิที่ไปแสดงบนเทศกาลดนตรีโคเชลลา ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐ และมีการโชว์กินข้าวเหนียว ส่งผลให้มีลูกค้าสั่งกันมากขึ้น สูงสุด คือ 175 กล่อง ยอดรายได้วันเดียวเกือบ 6,000 บาท แต่ตนส่งให้ลูกค้าไม่ทัน จึงรับยอดแค่วันละ 120 กล่องเท่านั้น จึงสามารถส่งลูกค้าได้ทัน และไม่ทำให้ลูกค้าเสียความรู้สึก
ลูกค้าที่สั่งมาทุกคนตอบรับเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย ทั้งในเรื่องของความมันของข้าวเหนียว ความเข้มข้นของกะทิที่ใช้ราด เพราะตนใช้มะพร้าวจากต้นของย่า ซึ่งมีอยู่มากจึงทำให้ข้าวเหนียวมันและนุ่มจากน้ำกะทิ โดย 1 กล่องจะมีข้าวเหนียว 3 ก้อนและมะม่วงที่ทำอย่างสวยงาม 1 ซีกขายกล่องละ 35 บาทหรือ 3 กล่อง 100 บาท โดย 1 กล่องถือว่าอิ่มจนจุก หลายคนบอกว่าขายแบบนี้ได้กำไรหรือ ซึ่งตนก็ได้กำไร
ลูกค้าต่างอำเภอสั่งของตนเพื่อนำไปขายต่อกล่องละ 45 บาทก็ขายดีเช่นกัน ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนทำงานตามสถานที่ราชการเพราะเขามองว่าสะอาด อร่อย สวยงามและถูก ตอนนี้ตนจะทำ 2 วันครั้งแต่ละครั้งรับออเดอร์เพียง 120 กล่องเท่านั้นมีรายได้ครั้งละ 4,000 บาท ถือเป็นรายได้ที่มากเกินกว่าที่ตนตั้งใจไว้และไม่นึกว่ากระแสตอบรับจากมากขนาดนี้
หลังจากหมดฤดูกาลมะม่วงตนก็คิดว่าจะทำข้าวเหนียวทุเรียน แต่ต้องมาคิดดูต้นทุนก่อนเพราะหากเป็นข้าวเหนียวทุเรียนจะขายราคานี้ไม่ได้ หรือไม่ก็อาจเป็นข้าวเหนียวขนุนหรือจำปาดะ แต่ทั้งนี้ต้องดูต่อไปก่อนว่าจะออกมาแบบไหนกระแสตอบรับจะดีเหมือนข้าวเหนียวมะม่วงที่ทำอยู่หรือไม่
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ