คนจริง! "ใบเตย" ใกล้หมดสัญญาอาร์สยาม ตัดปัญหาเรื่องเพลง ควักเงินซื้อลิขสิทธิ์ยกเข่ง
ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ถึงหัวข้อการสิ้นสุดสัญญากับต้นสังกัดที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน 2565 นี้ สำหรับ ใบเตย สุธีวัน กุญชร หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ ใบเตย อาร์สยาม เจ้าของฉายา สั้นเสมอหู
โดยศิลปินลูกทุ่งชื่อดังยอมรับว่ารู้สึกกังวลและใจหายอยู่เหมือนกันเกี่ยวกับการตัดสินใจครั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาทุกๆ การทำงานก็จะมีค่ายคอยดูแลซัพพอร์ตอยู่ตลอด แต่ถึงอย่างนั้นแล้วเธอเองก็ยังมีโปรเจกต์อื่นๆ ที่ต้องทำร่วมกันกับค่าย รวมถึงผลงานเพลงชิ้นสุดท้ายที่แฟนๆ จะได้รับฟังอีกด้วย
นอกจากนั้นแล้ว ใบเตย อาร์สยาม ก็ยังถือโอกาสนี้อัปเดตสุขภาพร่างกายของสมาชิกทุกคนในครอบครัว หลังเข้ารับการรักษาโรคโควิด-19 ซึ่งเจ้าตัวถึงกับเอ่ยปากว่า มีเอฟเฟกต์เกิดขึ้นหนักมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้เสียง ไปจนถึงอาการผมร่วง!!
สุขภาพร่างกายของ น้องเวทย์มน ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
“อาการโอเคหมดแล้วค่ะทั้งครอบครัว และก็น่าจะมีภูมิสูงกันหมดเลยเพราะว่าตอนป่วยเป็นหนักมาก ทั้งแบบ มีไข้ เจ็บคอ ไอ ปวดหัว อาเจียน คือครบทุกอย่าง”
ที่เป็นหนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรามีโรคประจำตัวด้วยไหม ?
“ด้วยค่ะ คืออย่างตัวใบเตยเอง ใบเตยก็มีโรคแทรกซ้อนอยู่แล้ว พอใบเตยเป็นไซนัสปุ๊บ พวกเชื้อโควิดมันก็จะเข้าไปทำลาย คอ หู จมูก ปาก ดังนั้นมันเลยทำให้ใบเตยเป็นหนัก แต่สำหรับเด็กๆ ด้วยความที่เขายังไอไม่เป็น เขาก็จะแค่มีไข้สูงอยู่ประมาณ 3 วัน”
ณ เวลานั้นเราเครียดด้วยไหม ?
“เครียดมากค่ะ เพราะว่ามันเป็นอะไรที่งง คือใบเตยไม่เคยคิดมาก่อนว่าลูกจะเป็น เนื่องจากใบเตยก็ดูแลเขาอย่างดีที่สุดแล้ว ให้เขาอยู่แต่ในบ้านตลอด”
กังวลเรื่องเอฟเฟกต์ในลักษณะของ ลองโควิด บ้างไหม ?
“นิดหนึ่งค่ะ เพราะเอาจริงๆ ตอนนี้ก็ยังมีไออยู่บ้าง และก็มีอาการเหนื่อยหอบ ถือว่ามีเอฟเฟกต์ประมาณหนึ่งเลยค่ะ รวมถึงเรื่องผมร่วม คือผมร่วงหนักมาก”
ตอนที่เราเข้ารับการรักษา เราต้องรับประทานยา ฟาวิพิราเวียร์ ด้วยไหม ?
“ทาน 5 วันเต็มเลยค่ะ ส่วนเรื่องเอ็กซ์เรย์ก็ได้ทำเรียบร้อยแล้ว ก็คือไม่มีเชื้อลงปอด ใบเตยเอ็กซ์เรย์ 3 รอบเลยค่ะ ตั้งแต่ตอนที่เป็น และก็ช่วงอยู่โรงพยาบาลเนื่องจากใบเตยต้องอยู่โรงพยาบาลถึง 7 วัน รวมถึงช่วงก่อนออกจากโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง”
การที่เราติดโควิด มันส่งผลกระทบต่อเสียงที่ใช้ในการร้องเพลงด้วยไหม ?
“นิดหนึ่ง ความจริงคือมีผลกระทบเกี่ยวกับเรื่องคอมาก อย่างเช่นล่าสุดที่ไปเล่นคอนเสิร์ตก็รู้สึกได้เลยว่าร้องเพลง โคโยตี้ค่ะพี่ ไม่ถึงแล้ว (หัวเราะ) ขึ้นเสียงสูงไม่ได้”
ได้ปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างหรือยัง ?
“ก็มีคุยบ้าง คือใบเตยเองก็มีเพื่อนเป็นหมอ เขาก็บอกว่าประมาณ 3 เดือนทุกอย่างก็น่าจะกลับมาโอเค”
ตัวเราเองกังวลไหมที่การป่วยครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อเสียง ?
“กังวลนะคะ เพราะว่าร้องเพลงไม่ถึง แต่ก็โอเคค่ะ เข้าใจได้ ก็ต้องปล่อยให้มันค่อยๆ ปรับไป”
กลัวโควิดไปเลยไหม เพราะเอฟเฟกต์ที่เราเจอหนักๆ ทั้งนั้นเลย ?
“กลัวมาก เอาจริงๆ นะตอนที่ใบเตยเป็น ใบเตยร้องไห้เลยอ่ะ คือใบเตยเป็นหนักมาก มันยิ่งกว่าไข้หวัดใหญ่อีกนะ มันทรมาน งงเลยอ่ะทำไมครอบครัวเราเป็นกันหนัก ตัวพี่แมนเองก็เป็นหนัก ทั้งๆ ที่ปกติเขาเป็นคนที่ไม่ป่วยเลย ส่วนน้องเวทย์มน ใบเตยเองก็สงสารเขา แต่ด้วยความที่เขาเป็นเด็ก พอถึงวันที่ 3 อาการเขาก็ค่อยๆ เริ่มกลับมาเป็นปกติ ไข้ค่อยๆ ลดลง เขาหายคนแรกเลย”
ต้องบำรุงร่างกายเต็มที่เลยไหมช่วงนี้ ?
“บำรุงเยอะมากค่ะ ตอนนี้กินวิตามินคืนหนึ่งประมาณ 18 เม็ด เพราะใบเตยเจอปัญหาทั้งเรื่องผมร่วง เรื่องเสียง และก็พวกภูมิต้านทานต่างๆ การป่วยครั้งนี้ทำให้ใบเตยรู้ตัวเองเลยว่าใบเตยควรที่จะต้องกินอะไรบ้างแล้ว”
กังวลเรื่องผมร่วงมากขนาดไหน ?
“กังวลมาก คือคุณพ่อใบเตยท่านหัวล้านไงคะ และคุณแม่ใบเตยก็ผมบางมาก ดังนั้นมันเลยแบบ ตายแล้ว! กลัวมาก ตอนนี้ก็เลยต้องกินทุกอย่างที่คุณหมอแนะนำเพื่อช่วยลดการขาดหลุดร่วง”
พอจะอธิบายได้ไหมว่าอาการผมร่วงของเรา มันร่วงหนักขนาดไหน ?
“ร่วงแบบ แค่แหวกก็หมดหัวเลย อารมณ์แบบต้องใช้มือสาง หรือเวลาสระผม หวีผม แค่ลูบครีมนวดก็หลุดติดมือเป็นช่อ”
ตอนนี้ดีขึ้นบ้างหรือยัง ?
“ไม่ค่อยเท่าไหร่ค่ะ แต่นิดหนึ่ง”
พูดถึงการทำงานบ้าง ดูเหมือนว่าจะสะดวกมากขึ้น ล่าสุดก็โดดข้ามช่องแล้ว ?
“เรื่องนี้ต้องขอบคุณทางค่ายกับทางเวิร์คพ้อยท์มากๆ ค่ะ คือมันเป็นเรื่องที่ยากและใช้ระยะเวลาเป็นปีเลยด้วยสำหรับการคุยกันของทางผู้ใหญ่กว่าจะได้ข้อสรุปที่ลงตัว ทั้งเรื่องของเพลง เรื่องลิขสิทธิ์ของแต่ละค่าย รวมถึงเรื่องที่จะแลกเปลี่ยนกัน คือเขาก็สู้รบปรบมือกันมาพอสมควรกว่าจะมีวันนี้ ซึ่งใบเตยรับรู้รับทราบมาตลอด ก็ดีใจมากค่ะ”
เป็นโปรเจกต์แรกของเราเลยไหมที่ออกมาทำงานนอกค่ายแบบนี้ ?
“ใช่ค่ะ”
ถือว่าเป็นสัญญาณดีเลยไหมกับการได้ทำงานที่หลากหลายขึ้นแบบนี้ ?
“เป็นสัญญาณดีอยู่แล้วค่ะ เพราะว่าอีกไม่กี่เดือนก็หมดสัญญาแล้ว”
ตัวเราเองตั้งใจไว้ยังไงบ้างถ้าหากหมดสัญญา ?
“ตอนนี้ได้เป็นการตัดสินใจแล้วค่ะว่าเป็นอิสระ”
แล้วเรื่องผลงานเพลงเก่าๆ ที่เราเคยร้องไว้ล่ะ เรามีแพลนยังไงบ้าง ?
“ซื้อหมดเลยค่ะ เหมา เพราะใบเตยคือนักร้อง ทุกเพลงของใบเตยมันคือเพลงของใบเตย และใบเตยก็ได้คุยกับทางค่ายเอาไว้หมดแล้ว ซึ่งทางนั้นเขาก็โอเค”
สิ้นสุดสัญญาช่วงเดือนไหน ?
“มิถุนายนนี้ค่ะ”
หลังจากเดือนมิถุนายน แฟนๆ ก็น่าจะได้เห็น ใบเตย ในมุมที่หลากหลายขึ้น ?
“หลากหลายค่ะ สุดขั้ว และก็เริ่มมีโปรเจกต์ติดต่อมาบ้างแล้วด้วยเหมือนกัน”
ใจหายไหมไม่ได้ใช้นามสกุลอาร์สยามแล้ว ?
“ใจหายค่ะ ใจหายมาก แต่เอาจริงๆ สำหรับใบเตย ใบเตยไม่ได้มองว่ามันเป็นการจากลาเลยนะ เพราะว่ากับทางค่ายใบเตยเองก็ยังมีชิ้นงานอีกหลายชิ้นที่ค้างคา เรายังร่วมงานกันตลอด”
ตั้งใจจะเปลี่ยนชื่อเรียกเลยไหม ไม่ใช่อาร์สยามแล้ว ?
“ไม่อ่ะ เหมือนเดิม ยังใช้อาร์สยาม ใช้ได้ค่ะ ใช้ได้ ซื้อมาหมดแล้ว ซื้อลิขสิทธิ์เฮียมาหมดแล้ว (หัวเราะ) เอาจริงๆ นะต่อให้ไม่ใช้หรือต่อให้เปลี่ยน ยังไงคนก็ยังคงเรียกใบเตยแบบนั้น เพราะมันคือสิ่งที่ลืมไม่ได้ และตัวใบเตยเองก็ไม่ได้ซีเรียสเลยด้วย”
แพลนการทำงานของเราหลังหมดสัญญาจะโฟกัสด้านไหนเป็นหลัก ?
“โห… ให้ดวงพาไปเลยค่ะ แต่เอาจริงๆ นะ ใบเตยไม่ได้มายด์เลยว่าจะไปทางไหน เนื่องจากใบเตยแฮปปี้กับการเป็นแม่ แฮปปี้กับการมีครอบครัว แฮปปี้การทำธุรกิจ ส่วนงานในวงการบันเทิง ใบเตยก็จะมองว่ามันเป็นสิ่งที่ใบเตยรัก เวลาที่ใบเตยได้ทำใบเตยรู้สึกมีความสุข”
คิดหนักไหมกับการตัดสินใจครั้งนี้ ?
“ใจหาย เพราะใบเตยไม่เคยเป็นฟรีแลนซ์มาก่อน ตั้งแต่ก้าวขามาอยู่กรุงเทพฯ ใบเตยก็มีที่นี่ดูแลมาจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นมันจึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างรู้สึกกังวลเหมือนกันว่าใบเตยจะสามารถดูแลตัวเองได้ดีกว่าที่ค่ายเขาดูแลใบเตยไหม ถึงแม้ใบเตยจะร้องเพลงได้ก็จริง แต่ใบเตยก็ไม่ใช่คนที่ออกแบบท่าเต้นได้เอง แต่งเพลงได้เอง หรือเล่นดนตรีได้เอง ที่ผ่านมาใบเตยทำงานผ่านทางค่าย โดยเป็นสิ่งที่ค่ายมอบหมายให้ ใบเตยไม่เคยทำอะไรเองเลยนอกจากร้องเพลง เพราะฉะนั้นใบเตยก็เลยกังวลเหมือนกันว่าถ้าออกไปแล้วการทำงานมันจะยังคงเส้นคงวาเหมือนกับที่อยู่กับที่นี่ไหม ใบเตยกังวลแค่ตรงนี้เลยค่ะ”
แสดงว่าในอนาคตเรื่องการทำงานเพลง เราก็อาจจะต้องจัดการเองทุกอย่าง ?
“อันนี้ใบเตยรู้สึกว่า มันก็มีที่ใบเตยอยากคอลแลปส์กับใครด้วยเหมือนกัน ซึ่งใบเตยก็เลือกไว้ประมาณหนึ่ง แต่ถ้าจะให้ไปเซ็นต์กับที่อื่นเลยนั้น ใบเตยมองว่ามันเป็นเรื่องของอนาคต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในปีนี้ใบเตยก็คงมีโอกาสได้ไปคอลแลปส์กับที่นั่นที่นี่ รวมถึงศิลปินน้องๆ เก่าๆ ที่เคยร่วมงานกันมาค่ะ”
จะมีโอกาสไหมที่เราจะไปร่วมงานกับค่ายเก่า ?
“สบายค่ะ ยังมีงานที่ค้างคากันไว้ และก็มีเพลงด้วย เป็นเพลงสุดท้าย”
อัปเดตเรื่องกระเป๋าที่หายไปในงานไว้อาลัย แตงโม นิดา ตอนนี้คืบหน้ายังไงบ้าง ?
“เฮ้อ…ตัดใจแล้ว เอาจริงๆ เลยนะ ตัดใจตั้งแต่วันนั้นแล้วแหละ เพราะว่าใบเตยเองก็รู้ดีว่าไม่เจอแน่นอน เนื่องจากวันนั้นคนเยอะมาก และมันก็หายในห้องน้ำด้วย ซึ่งในห้องน้ำมันไม่มีกล้องอยู่แล้ว”
รู้สึกแย่เลยไหม ?
“ไม่นะคะ เรื่องเสียใจกับเรื่องกระเป๋าหายมันคนละเรื่องกันเลยค่ะ คือเรื่องของหายใบเตยชินแล้วเพราะใบเตยเป็นคนขี้ลืม ใบเตยเลยไม่ได้รู้สึกแปลกใจในตัวเอง แต่ก็แบบ…มันก็คือชีวิตอ่ะ”
สามีว่ายังไงบ้างตอนที่รู้ว่าเราทำกระเป๋าหาย ?
“ด่ายับค่ะ (หัวเราะ) วันนั้นคือเขาเป็นคนที่ต้องขับรถมารับใบเตยไงคะ เพราะกุญแจรถใบเตยหายไปพร้อมกับกระเป๋า เขาก็บอกว่าแบบ เอาอีกแล้วนะ ไม่เคยระวังอะไรเลย แต่เขาก็รู้อยู่แล้วแหละว่าหายคือหาย หายแน่ๆ”
แสดงว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราทำของมีมูลค่าหาย ?
“ไม่ใช่ครั้งแรกค่ะ แต่กระเป๋ามูลค่าเยอะสุดแล้ว”
สามีเขากำชับยังไงบ้างเรื่องอาการขี้ลืมของเรา ?
“เขาก็บอกให้จำ อย่าอ๊อง แต่มันลำบากไงคะ พอเวลาเราถืออะไรหลายๆ อย่างมันก็เลินเล่อ ซึ่งทุกวันนี้คนข้างๆ ใบเตยจะมีสติมากกว่าใบเตย คอยเตือนใบเตยตลอดว่าอย่าลืม”
เขาได้ซื้ออะไรให้เราเป็นการปลอบขวัญบ้างไหม ?
“ไม่ค่ะ ต้องรอซื้อเอง (หัวเราะ)”
ตั้งใจจะซื้อมาใช้อีกครั้งไหมกระเป๋ารุ่นนั้น ?
“ซื้อมาใหม่แล้วค่ะ แต่เป็นสีใหม่ใบใหญ่เลย ไม่เอาแล้วใบเล็ก”
พอจะบอกได้ไหมว่ากระเป๋าที่หายไปมูลค่าเท่าไหร่ ?
“แสนสาม แสนสี่ ค่ะ”
พูดถึงเรื่องของหายบ้าง สกิลการลืมของเรามันขนาดไหน ?
“สกิลความลืมก็คือที่สุด ตั้งแต่คบกับพี่แมนปีแรกแหวนเพชรก็หายแล้วค่ะ หายคือหาย เป็นคนขี้ลืม เนื่องจากเราทำอะไรกันเยอะมากในแต่ละวัน และอีกอย่างวันนั้นใบเตยถือหลายอย่างไงคะ คือถ้ามีใบเดียวแล้วใส่ทุกอย่างใบเตยจะไม่ลืม แต่วันนั้นมันมีหลายอย่างมาก มันก็เลยแบบลืมไปเลย สมองไปหมด”
อัลบั้มภาพ 13 ภาพ
