เพจดังแฉ แม่พาลูกพิการฆ่าตัวตาย คนแห่บริจาคเงินช่วยนับแสน โป๊ะแตก! ที่แท้ตายทิพย์
เพจดังแฉแม่ค้าสาวกุเรื่องว่าพาลูกพิการฆ่าตัวตาย คนแห่บริจาคเงินช่วยนับแสน โป๊ะแตกหลังมีคนจะเป็นเจ้าภาพงานศพ จึงได้รู้ว่าที่แท้ตายทิพย์
(20 เม.ย.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก Red Skull Beauty Clinic. ได้โพสต์ข้อความว่า “เสียแรงที่แม่งกูเคยช่วยเหลือไปไม่น้อย ไหนจะลูกเพจคนอื่นๆ อีก อะไรทำให้สิ้นคิดถึงขนาดต้องแกล้งตายเพื่อจะเอาเงินบริจาค แล้วชีวิตต่อไปที่เหลือคุณจะทำยังไง ต่อไปจะค้าขายอะไรกับใครได้ พูดกับด้วยบาปบุญแบบคนที่เชื่อทางพุทธชีวิตคุณที่ลำบากเพราะชาติก่อนทำกรรมไว้ ชาตินี้ยังจะสร้างเพิ่มอีกไม่เข็ดไม่หลาบเลยหรือ ทำแบบนี้ชีวิตมีแต่ตกต่ำวนลูปหาทางออกไม่ได้ไปทั้งชาตินั่นละ”
โดยเรื่องราวเกิดจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ “อังเปา ทศกิ่ง” ได้โพสต์ข้อความลักษณะว่า “ผมน้องเขื่อนครับ ผมจะมาแจ้งให้ทราบว่าแม่เสียแล้ว แม่หายไปตั้งแต่คืนวันเสาร์ ติดต่อไม่ได้ พึ่งหาเจอวันนี้ตอนสาย ไปเจอแม่ที่ป่ายูคา แม่เอาน้องไปด้วย แม่เอาน้องเปาผูกเชือกที่ขาจ้องเปาแม่คงกลัวว่าน้องจะเดินไปทั่วเลยผูกเชือกกับขาแม่ไว้ แล้วแม่ก็กินยา ไปเจอน้องเปาก็หมดแรงแล้ว แต่ช่วยน้องเปาเอาไว้ได้ทัน กว่าจะไปเจอแม่ก็สายเกินไปแล้ว ผมฝากอโหสิกรรมให้แม่ด้วยนะครับ ตัวผมไม่รู้ว่าแม่ทำอะไรไปบ้างแต่ไม่ทำร้ายตัวเองมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้แม่ได้ไปแล้วจริงๆ ผมฝากขอโทษแทนแม่ด้วยนะครับ ต่อจากนี้จะทำอย่างไงต่อผมไม่รู้เลย ฝากอโหสิกรรมให้แม่ผมด้วย”
หลังโพสนี้ได้ถูกแชร์ออกไป ทำให้คนในสังคมออนไลน์เกิดความสงสารจึงโอนเงินให้รวมเป็นเงินหลักแสนบาท แต่เรื่องจริงได้ปรากฏหลังจากที่ประชาชนได้ทราบข่าวจึงได้ติดต่อมาหายังผู้ใหญ่บ้านเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและจะขอมาเป็นเจ้าภาพงานศพ ทางผู้ใหญ่บ้านจึงได้ตอบกลับไปว่าอันที่จริงแล้วคนในโพสต์ดังกล่าวยังไม่ได้ตายแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง บ้านใหม่คลองเตย หมู่ 14 ต.สะแกราช อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา พบกับนางสาวดาบส กูดกิ่ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ซึ่งผู้ใหญ่บ้านได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า คนที่ก่อเหตุนั้นชื่อนางโสภา ซึ่งส่วนตัวนั้นก็รู้จักกับนางโสภาแต่ก็ไม่ได้สนิทอะไรกันรู้จักกันในฐานะลูกบ้าน ส่วนเรื่องราวที่นางโสภาเคยโพสในเฟซบุ๊กเรื่องว่าตนเองป่วยเป็นโรคไต ลูกเป็นดาวน์ซินโดรม สามีทิ้ง มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบากนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด มีเพียงแค่เรื่องลูกทีเป็นดาวน์ซินโดรมเท่านั้นที่เป็นเรื่องจริง
โดยนางโสภามีลูก 2 คน คนโตชื่อน้องเขื่อน คนเล็กชื่อน้องอั่งเปา โดยชีวิตความเป็นอยู่ก็ไม่ได้ลำบากอะไรตัวสามีเองก็ได้ไปทำงานที่บริษัทแป้งมันแห่งหนึ่ง ส่วนตัวนางโสภาเองก็ได้มีการขายของออนไลน์ก่อนที่จะย้ายเข้าไปพักกับสามีภายในโรงงาน โดยตั้งแต่เกิดเหตุก็ไม่เห็นนางโสภากลับมายังบ้านเก่าอีกเลย ซึ่งสภาพบ้านก็มีการล็อกกุญแจเอาไว้ ซึ่งทางตนได้มีการสอบถามไปยังคนรู้จักที่ทำงานอยู่ในโรงงานแป้งมันดังกล่าวก็ทราบว่าทางนางโสภาไม่ได้พักอาศัยอยู่ข้างในแล้ว
ผู้ใหญ่บ้านยังบอกต่อไปอีกว่า นางโสภาไม่ได้มีพฤติกรรมหลอกลวงแค่ในกรณีนี้เท่านั้น ยังมีคนเคยถูกหลอกมานานกว่า 5 ปี โดยโอนเงินเป็นค่าเลี้ยงดูเดือนละ 2,000 บาท ซึ่งคาดว่าจะใช้ความพิการของลูกตัวเองเป็นตัวล่อตัวให้ประชาชนเกิดความสงสารและโอนเงินให้
ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามไปยังเจ้าของโรงงานแป้งมันดังกล่าวซึ่งทางเจ้าของโรงงานยังไม่สะดวกในการให้ข้อมูล เพราะตอนนี้ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ โดยส่วนตัวก็เพิ่งทราบข่าวเมื่อเช้านี้ (20 เม.ย.) หลังจากที่มีการแชร์ข้อมูลกันในสังคมออนไลน์
ซึ่งตอนนี้ได้มีผู้เสียหายที่เคยโอนเงินให้ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กให้ผู้ก่อเหตุออกมาชี้แจงถึงการกระทำดังกล่าว พร้อมกับเตรียมเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ