แกะรอยล่า "ไอ้แบงค์" บุกปล้ำสาวสอง พ้นโทษมาก่อเหตุซ้ำ ไม่ถึงเดือนเหยื่อ 4 ราย
จับแล้ว "ไอ้แบงค์" โจรบุกปล้ำสาวสอง เพิ่งพ้นโทษคดีข่มขืนปลายปี 64 มาก่อเหตุซ้ำ เดือนเดียวเหยื่อ 4 ราย
จากกรณีที่มีผู้เสียหายรายหนึ่ง สาวประเภทสองอายุยี่สิบกว่าปี ถูกคนร้ายเป็นชายบุกเข้าไปภายในห้องนอนตอนตีสามของวันที่ 11 เมษายน 65 เพื่อเข้าไปใช้มีดจี้คอผู้เสียหายหวังข่มขืนแต่ผู้เสียหายประคองสติออกอุบายขอไปหยิบถุงยาง ก่อนอาศัยจังหวะวิ่งหลบหนีออกมาจากห้องจนพลัดตกบันไดได้รับบาดเจ็บ จากตรวจสอบพบว่าคนร้ายปีนขึ้นทางระเบียงของหอพักชั้นสองแล้วเข้าทางประตูบานเลื่อนที่ระเบียงไปก่อเหตุ โดยคนร้ายจะสามารถหลบมุมกล้องวงจรปิดภายในอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าวได้
ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังแกะรอยผู้ก่อเหตุ ผ่านมาเพียง 3 วันทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายเป็นชายบุกเข้าห้องพักในอะพาร์ตเมนต์ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกันเข้าไปพยายามก่อเหตุข่มขืนและชิงทรัพย์ผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงสาว ก่อนหลบไป และต่อมาวันที่ 18 เมษายน ล่าสุดคนร้ายซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นรายเดียวกันได้เข้าไปก่อเหตุในห้องพักของผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงสาว และผู้ก่อเหตุได้บังคับขืนใจเหยื่อจนสำเร็จความใครและชิงทรัพย์หลบหนีไป โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย สร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนในพื้นที่ พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.บางพลี ระดมชุดสืบมือดีไล่ล่าตัวมาดำเนินคดีให้ได้ภายใน 3 วัน เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นภัยต่อสังคม
ล่าสุดในช่วงเย็นของวันนี้ที่ 20 เมษายน 2565 พ.ต.ท.พรชัย เทแก้ว รอง ผกก.สส.สภ.บางพลี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ออกไล่ล่า นำโดย พ.ต.ท.พิศาล กล่ำไพ สว.สส.ลงพื้นที่แกะรอยคนร้ายตามเส้นทางต่าง ๆ จนกระทั่งไปพบเบาะแสคนร้ายรายนี้ตามวงจรปิดริมถนนเทพรัตน ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ จนกระทั่งทราบตัวคนร้ายรายนี้ ทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่งในละแวกที่เกิดเหตุ จนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่ที่ห้องเพื่อนย่านบางเขน กทม. จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัว นายนเรศ หรือ แบงค์ อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น จึงควบคุมตัวพร้อมกับของกลาง เป็นเสื้อผ้า รองเท้า ที่สวมใส่ในวันก่อเหตุและมีดปอกผลไม้สองเล่มที่ใช้จี้คอเหยื่อ มาทำการสวบสวนที่ สภ.บางพลี
ด้าน พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี เปิดเผยว่า สำหรับผู้ต้องหารายนี้จากการสอบสวนทราบว่าเพิ่งพ้นโทษในคดีจี้ชิงทรัพย์และข่มขืนเมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา จนกระทั่งมาสมัครทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งได้เพียงสามเดือนย้อนกลับมาตระเวนก่อเหตุดังกล่าวอีก โดยครั้งแรกก่อเหตุเมื่อวันที่ 3 เมษายน 65 ที่หอพักในซอยวัดศรีวารีน้อย โดยใช้มีดจี้คอและพยายามข่มขืนเหยื่อ แต่เหยื่อร้องโวยวายและวิ่งหนีได้ทันคนร้ายจึงได้เงินสดไป 1,000 บาท ส่วนครั้งที่สองก่อเหตุวันที่ 11 เมษายน ผู้เสียหายเป็นสาวประเภทสอง ในลักษณะเดียวกันได้เงินสดไป 200 บาท และครั้งที่สามวันที่ 14 เมษายน ด้วยการใช้มีดจี้คอและพยายามข่มขืนแต่เหยื่อขัดขืนจึงใช้มีดจี้ข่มขู่และขอสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองต่อหน้าเหยื่อ และชิงเงินสด 4,000 บาท หลบหนี
และล่าสุดวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนี้เป็นจังหวะที่หญิงสาวผู้เสียหายกำลังอาบน้ำอยู่คนร้ายรอจังหวะที่ผู้เสียหายออกมาจากห้องน้ำจึงใช้มีดจี้บังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ และชิงเอาสร้อยคอมสองสลึงของเหยื่อไป ซึ่งผู้ต้องหาระบุว่าจะออกดูตามหอพักและสังเกตเหยื่อก่อน โดยเลือกหอพักที่มีการติดตั้งเหล็กดัดเพียงชั้นแรกแล้วมองหาเหยื่อที่ตากเสื้อผ้าที่ระเบียงไว้ พอมั่นใจว่าเหยื่อเป็นหญิงสาวพักอยู่คนเดียวก็จะเลือกช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนปีนระเบียงขึ้นไปที่ห้องพักของผู้เสียหาย อาศัยจังหวะที่เหยื่อเผลอลืมล็อกประตูบานเลื่อนกระจกเปิดประตูเข้าไปก่อเหตุ ดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธมีด และข่มขืนกระทำชำเรา ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป