ผลชันสูตร "บอย อนันต์" นิติเวชยืนยันฆ่าตัวตายเอง "หมอเก่ง" ขอรอผลเลือดให้แน่ใจ

ผลชันสูตร "บอย อนันต์" นิติเวชยืนยันฆ่าตัวตายเอง "หมอเก่ง" ขอรอผลเลือดให้แน่ใจ

ผลชันสูตร "บอย อนันต์" นิติเวชยืนยันฆ่าตัวตายเอง "หมอเก่ง" ขอรอผลเลือดให้แน่ใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผลชันสูตร "บอย อนันต์" นิติเวชยืนยันฆ่าตัวตายเอง "หมอเก่ง วาโย"  เผยอย่าเพิ่งด่วนสรุป ขอรอผลเลือดให้แน่ใจ

จากกรณีพบศพ นายอนันต์ โลเกตุ หรือ บอย อายุ 27 ปี นักเคลื่อนไหวทางการเมืองผูกคอเสียชีวิต ที่ศาลารอรถข้างป้อมตำรวจ หน้าที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่ง บอย เป็นนักกิจกรรมทางการเมือง ที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมสัมมนาพรรคก้าวไกลในโรงแรมแห่งหนึ่ง อ.เมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ก่อนที่บอยจะหายตัวไป และมาพบเป็นศพผูกคอเสียชีวิต โดยแม่และครอบครัวของบอยติดใจสาเหตุของการเสียชีวิต

ล่าสุดวันนี้ (21 เม.ย.65) พันตำรวจเอก ฆนรพ รัตนใหม่ ผู้กำกับการ สภ.เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยความคืบหน้าของคดีนี้ว่า จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใดๆ และเชือกที่ผู้ตายใช้ผูกคอก็มีพยานที่เป็นชาวบ้านยืนยันว่า เป็นเชือกที่ใช้ผูกของวางอยู่ในศาลาอยู่แล้ว โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบผลการชันสูตรเบื้องต้นแล้ว และกำลังรอผลชันสูตรยืนยันอย่างเป็นทางการของแพทย์นิติเวช รพ.มหาราชนครราชสีมา เพื่อนำมาประกอบก่อนสรุปสำนวนคดีต่อไป

ขณะเดียวกัน เวลา 13.00 น. นางหนูพิศ แม่ของนายอนันต์ ผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยนายสุภวัฒน์ โลเกตุ น้องชาย ได้เดินทางมาที่บริเวณศาลารอรถ หน้าที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นจุดที่นายอนันต์ ผูกคอเสียชีวิต โดยได้นิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป มาประกอบพิธีเชิญวิญญาณนายอนันต์ เพื่อกลับไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพตามประเพณีที่ จ.ร้อยเอ็ด โดยมี นายแพทย์วาโย อัศวรุ่งเรือง หรือ หมอเก่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อจากพรรคก้าวไกล พร้อมทีมงานจากพรรคก้าวไกลอีก 4-5 คน เดินทางมาร่วมในพิธีเชิญวิญญาณในครั้งนี้ด้วย

นางหนูพิศ โลเกตุ อายุ 48 ปี แม่ของนายอนันต์ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับทราบจากแพทย์ผู้ชันสูตร ว่าเป็นการฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอตัวเอง ทำให้ขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิต เนื่องจากสภาพศพไม่พบร่องรอยบาดแผลที่บ่งชี้ว่ามีการทำร้ายร่างกาย แต่สภาพศพมีรอยขีดข่วนบ้าง แต่ก็ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้ นอกจากนี้ยังไม่พบหลักฐานทางกายภาพว่าผู้ตายมีการต่อสู้ขัดขืนก่อนที่เสียชีวิต ทั้งนี้หลังจากได้ฟังคำชี้แจงจากแพทย์ ตนก็ไม่ได้ติดใจผลการชันสูตรศพของลูกชายแต่อย่างใด แม้ว่าขณะนี้ตนจะยังไม่ทราบเหตุจูงใจว่าลูกชายของตนฆ่าตัวตายเพราะสาเหตุอะไร ซึ่งตอนนี้ตนเตรียมรับศพลูกชายกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้าน จ.ร้อยเอ็ด

ด้าน นายแพทย์วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตอนนี้ผลการชันสูตรนิติเวชออกมาแล้ว ทั้งผลการชันสูตรในที่เกิดเหตุ และผลการผ่าชันสูตรจาก รพ.มหาราชนครราชสีมา ซึ่งแพทย์ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตขาดอากาศจากการแขวนคอฆ่าตัวตาย แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังต้องรอผลสรุปการชันสูตรฉบับสมบูรณ์ออกมาก่อน ถึงจะยืนยันได้ 100% ว่าเกิดจากการฆ่าตัวตาย เพราะที่ผ่านมาก็เคยเกิดเหตุการณ์แก้ไขผลสรุปการชันสูตรมาแล้ว โดยเฉพาะการเก็บเลือดไปตรวจสอบที่สถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติดูก่อนว่า จะมีสารอะไรบางอย่างที่ทำให้หมดสติก่อนฆ่าตัวตายหรือไม่ เช่นมียาสลบ หรือยานอนหลับในปริมาณมากในเลือด เพราะหากคนหมดสติแล้วจะไม่สามารถฆ่าตัวตายได้ จะต้องมีผู้กระทำ ซึ่งคดีจะพลิกเป็นการถูกฆาตกรรมทันที โดยคาดว่าผลเลือดจะออกมาภายในไม่เกิน 2 สัปดาห์

ส่วนร่องรอยแผลที่พบตามร่างกายของบอยนั้น มีอยู่ 2 จุด ได้แก่ แผลบริเวณท้ายทอย ยาวประมาณ 2 ซม. แต่มีลักษณะค่อนข้างตื้น ลึกลงไปไม่ถึงชั้นผิวหนัง และมีแผลถลอกยาวประมาณ 6-7 ซม. บริเวณสีข้างด้านขวา ยาวไปถึงด้านหลัง ซึ่งแพทย์ระบุว่าแผลค่อนข้างตื้น และไม่มีรอยบอบช้ำไปถึงก้านสมอง ไม่ถึงกับทำให้หมดสติได้

ทั้งนี้ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นแผลที่เกิดจากการพยายามผูกคอแล้วไม่สำเร็จในครั้งแรก เกิดพลาดเชือกขาดตกลงมาจนเกิดแผลถลอกก็ได้ เพราะบริเวณพื้นใกล้จุดเกิดเหตุก็พบรอยคราบเลือดตกอยู่ ประกอบกับภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ตำรวจได้จากหน้าร้านค้า และบ้านเรือนใกล้เคียง ก็พบว่าบอยเดินทางมาคนเดียว ไม่มีใครมาด้วย ตอนนี้จึงให้น้ำหนักไปที่ประเด็นการฆ่าตัวตายมากกว่าประเด็นอื่น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook