มาแล้ว! เจ้าหนี้แจ้งความ 2 ผัวเมียหลังหนีออกตุรกี มูลค่าหนี้ 25 ล้าน

จากกรณี ครอบครัวบุญชู 4 คน ที่ คือนายนิรุตน์ บุญชู อายุ 41 ปี นางสาวนฤมล เพ็ชรบุญมี อายุ 41 ปี พร้อมลูกชาย 12 ขวบ กับลูกสาว 7 ขวบ ที่หายตัวติดต่อไม่ได้นานหลายวัน มีการประกาศตามหาในโลกโซเชียล ก่อนสุดท้ายจะพบว่าเดินทางออกไปยังตุรกี  พร้อมมีข้อมูลว่า การเดินทางออกนอกประเทศในครั้งนี้ มีผู้เสียหายที่ให้ นางสาวนฤมล กู้ยืมเงินและนำเงินมาลงทุนหลายราย  

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากผู้เสียหายรายหนึ่ง ที่ให้ยืมไปลงทุน 1.5 ล้านบาท โดยผู้เสียหายรายนี้เล่าว่า เริ่มต้นลงทุนกับนางสาวนฤมล ตั้งแต่เดือนธันวาคม เริ่มจาก 5 แสนบาท และทยอยเพิ่มขึ้นเพราะเชื่อใจนางสาวนฤมล จากนั้นได้ชวนเพื่อนอีก 2 คน ร่วมลงทุนจนมียอดเงินสูงถึง 1.5 ล้านบาท โดยได้รับผลตอบแทน 2-3 เปอร์เซ็นต์ จากเงินต้น ก็ได้รับเงินคืนมาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2565 ข้อหาหมิ่นประมาท และฉ้อโกง เนื่องจากนางนฤมลแอบอ้างชื่อตนเอง(ผู้เสียหายรายนี้)ว่าเป็นผู้ดูแลกองทุนในอำเภอบ้านด่านลานหอย ทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเลียงโดยตนเองไม่รู้เรื่องเลย

ผู้เสียหายและนางสาวนฤมล เพ็ชรบุญมี (ผู้หลบหนี) เคยรู้จักกันจากการขายสินค้าขายตรงที่เคยทำธุรกิจร่วมกัน  ต่อมารู้ว่านางสาวนฤมล  เป็นเจ้าหน้าที่บัญชี ของกรรมการกองทุนหมู่บ้าน 2 กองทุน ที่หมู่ 3 ต.บ้านไร่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย  คือกองทุนออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านไร่  และกองทุนหมู่บ้านและสถาบันการเงินชุมชน  มีพฤติกรรมชวนคนรู้จักให้ลงทุนปล่อยเงินกู้ให้กับสมาชิกกองทุนหมูบ้านที่ไม่สามารถใช้เงินคืนกองทุนได้เมื่อถึงเวลากำหนด

โดยนางสาวนฤมล ทำตัวเป็นคนกลาง  จะได้ดอกเบี้ยจากทั้งสองด้านคือทั้งผู้เดือดร้อน และนายหน้า เป็นดอกเบี้ยทั้งสองทาง ประมาณ 2-3 %  และทราบว่ามีการระดมทุนด้วยการแอบอ้างว่าดูแลหลายกองทุนในจังหวัดสุโขทัย  เป็นกองทุนวัวบ้าง หมูบ้าง กองทุนรวมบ้าง แล้วแต่เค้าจะกล่าวชวน สำหรับผู้เสียหายรายนี้บอกว่าเคยร่วมลงทุนไป 5 รอบ และเคยคืนทุนมาเป็นก้อนล้านกว่าบาท และเอาไปลงทุนใหม่ ตนเองจึงเชื่อใจ  และมีการโอนเงินผ่านธนาคารมาต่อเนื่องและตรงเวลาตลอด โดยตนเองเป็นผู้โอนเงินจากการชวนเพื่อน อีก 2 คน 

ส่วนเรื่องการเดินทางออกประเทศตุรกีครั้งนี้คิดว่าน่าจะมีการวางแผนมาล่วงหน้า เพราะมีการขายบ้าน ซื้อที่ดิน ซื้อรถ   และยังสงสัยว่าการเดินทางระบุเวลา 20.30 น. แต่มีการออกจากกลุ่มไลน์ในเวลา  22.09  น. ซึ่งอยากรู้ว่าใครเป็นลบข้อมูลไลน์ ของนฤมล หรือมีใครถือโทรศัพท์แทนนฤมล เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเงินหรือไม่    อยากรู้ว่าเอาเงินไปทำอะไรลงทุนไปเสียหาย หรือใช้เงินเกินตัว อยากให้มาคุยกัน และยังคาดหวังว่าจะได้เงินคืน เพราต้องรับผิดชอบยอดของเพื่อนที่ชวนมาด้วย ซึ่งเป็นเงินที่ตนเองเก็บออมทั้งชีวิต

ส่วนเจ้าหนี้ของนางสาวนฤมลนั้นทราบว่ายังมีกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มที่ อ.ทุ่งเสลี่ยม มียอดหนี้ตั้งแต่ 1 ล้านบาท ถึง 10 ล้านบาท รวมยอดกว่า 20 ล้านบาท มีทั้งข้าราชการ แม่ค้า ชาวบ้าน  บางคนได้ผลกำไรมาบ้าง  บางคนลงทุนไปยังไม่ได้เงินกำไรคืนเลยสักบาท  และกำลังรวมตัวกันหาหลักฐานต่างๆ เพื่อแต่งตั้งทนายความ เข้าแจ้งความเอาผิด นางสาวนฤมลต่อไป