ร้านแจงอีกมุม ดราม่าสั่งสเต็กได้ซอยจุ๊ เผยขอโทษ-ยอมคืนเงิน ลูกค้ายังด่าไม่หยุด

เจ้าของร้านวอนฟังทั้งสองมุม ดราม่าลูกค้าสั่งสเต็กได้ซอยจุ๊ ขอโทษและยอมคืนเงินแล้ว แต่ยังโดนลูกค้าด่าไม่หยุด จนต้องบล็อก

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพสเต็กที่สั่งมาจากร้านแห่งหนึ่ง ย่านลาดพร้าว ยอดกว่า 600 บาท มีทั้งสเต็กไก่ สเต็กปลา พอร์คช็อป ฯลฯ สั่งไป 4 กล่อง รวมทั้งสิ้น 681 บาท แต่เมื่อเปิดออกมาอาหารทั้งหมู ไก่ ปลา กินไม่ได้เพราะยังดิบเป็นเนื้อแดงๆ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

• สั่งสเต็กได้ซอยจุ๊! ลูกค้าอึ้งเจอเนื้อสัตว์ดิบทุกกล่อง ร้านไม่รับผิดชอบแถมขู่ฟ้อง

ล่าสุด ร้านดังกล่าวได้ออกมาโพสต์ชี้แจงแล้ว โดยระบุว่า "คำชี้แจงร้าน M Steakhouse นะครับผม ตัวผมเองเพิ่งไปฉีดวัคซีนมาวันนี้จึงเพิ่งได้ทราบเรื่องไวรัลที่เกิดขึ้นนะครับ ไม่ได้หนีหายไปแต่อย่างใด ร้านวันนี้ถึงปิดครับ (ใบฉีดวัคซีนรูปที่ 1)

เบื้องต้น ผมได้ตรวจสอบข้อความและเนื้อข่าวจากสื่อข่าวต่างๆ แล้วผมขออนุญาตชี้แจงตรงนี้นะครับ

เหตุที่เกิดขึ้นเป็นออเดอร์วันที่ 22/4/2022 เวลา 20:46 ครับ จากช่องทางไลน์แมน (ตามรูปที่ 2 ครับ) โดยลูกค้าสั่งอาหารทั้งหมด 6 กล่องครับ ออเดอร์ทั้งหมดยอดรวม 681 บาท

ผมได้รับการติดต่อจากลูกค้าผ่านโทรศัพท์เมื่อเวลา 21:52 ครับ ในวันเดียวกันเพื่อต้องการร้องเรียนเกี่ยวกับอาหาร ผมจึงให้เขาแอดไลน์และเขาได้ส่งภาพสินค้ามาในเวลา 21:54 (ตั้งแต่รูปที่ 3 ไปคือแชทการสนทนาทั้งหมดนะครับ)

โดยเบื้องต้นผมยินดีจ่ายค่าเสียหายของอาหารทั้งหมดที่ลูกค้าอยากเครมรวม 213 บาทครับ (คืนเงินทั้งเมนูไม่ได้คืนเฉพาะตัวสเต็ก) ต่อมาลูกค้าก็ยังไม่พอใจและต้องการเงินของออเดอร์อื่นๆเพิ่มอีก ซึ่งเบื้องต้นในเจตนาของผมผมยินดีจะจ่ายครับหากลูกค้าไม่พอใจ

เหตุการณ์ภาพที่เกิดขึ้นในรูปที่กระผมพูดเรื่องศาลนั้น เกิดเนื่องจากขณะนั้นผมกำลังทำการเคลียร์ยอดการซื้อขายกับทางไลน์แมนอยู่ว่าจะรีฟัน (คืนเงิน) ออเดอร์นี้ให้แก่ลูกค้า เพราะเบื้องต้นยอดเงินการซื้อทางร้านนั้นยังไม่ได้รับ เพราะเงินยังอยู่ที่บริษัท Lineman ทางร้านจึงคิดว่าจะแจ้งไลน์แมนให้คืนเงินลูกค้าไป (ซึ่งหากใครเคยลองติดต่อไลน์แมนนั้นต้องใช้เวลาพอสมควรในการกดเข้าไปขอความช่วยเหลือ)

แต่ลูกค้าไม่ได้หยุดการต่อว่าทั้งๆ ที่ผมได้กระทำการยอมรับผิดแล้ว (ตั้งแต่เริ่มเปิดสนทนา) ผมจึงบอกลูกค้าว่าหากใดๆ ลูกค้าไม่พอใจสามารถรีวิวสินค้าได้เลย และในความคิดขณะนั้นถ้าหากลูกค้าทำสิ่งใดเกินกว่าเหตุนั้น (ซึ่งหมายถึงเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ณ ตอนนี้) ผมคิดว่าเรื่องต่างๆ คงต้องจบกันที่ศาล ผมจึงแสดงออกไปแบบนั้นด้วยความไม่พอใจว่าทำไมถึงต้องโมโหมากขนาดนั้นทั้งๆ ที่ผมก็พร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง

แต่ทั้งหมดนั้นต่อจากภาพนั้น ผมก็ยังคงคุยและขอโทษลูกค้าอีกหลายครั้ง ทั้งยังเสนอเงินคืนแก่ลูกค้าอีกด้วย สุดท้ายลูกค้าบอกกับผมเองว่าไม่ต้องการรับการคืนเงินคืน ผมจึงได้จบการสนทนาและบล็อกลูกค้าไป เพราะไม่ต้องการให้การสนทนาเกิดความรุนแรงไปมากกว่านี้

สุดท้ายเจตนาของผมคือผมได้พยายามกล่าวขอโทษลูกค้าแล้วและเสนอความรับผิดชอบต่อคุณลูกค้าแล้ว ด้วยความที่ผมไม่คิดจะปฏิเสธการรับผิดชอบเลย แต่กลับยังถูกต่อว่าไม่หยุด จึงรู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ผมรู้สึกไม่ดี เลยได้แสดงออกไปแบบนั้น ซึ่งผมก็ขอโทษ

แต่ถ้าหากทุกท่านได้อ่านข้อความจนครบถ้วนแล้ว จะเข้าใจว่าผมได้ขอโทษไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่กลับขอโทษถึง2-3ครั้ง รวมถึงได้ทำการเสนอการเคลมเงินต่างๆ กับลูกค้าหลายครั้งแต่สุดท้ายลูกค้าก็ได้ทำการปฏิเสธ โดยที่ผมไม่อยากมีการตอบโต้ใดๆ กลับลูกค้าอีกจึงเลือกที่จะบล็อกไปเพื่อยุติเรื่องราว

ในตอนแรกนั้นผมเห็นข้อความที่ลูกค้าโพสต์ในเฟซบุ๊กของเจ้าตัวเองแล้ว ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะนั้นคือสิทธิที่ลูกค้าทำได้ และส่วนตัวเป็นคนไม่อยากต่อความกับใคร แต่สุดท้ายเกิดไวรัลนี้เกิดขึ้นจึงออกมาชี้แจงเนื้อหาข้อมูลจริงๆ ต่อสังคมให้เข้าใจว่าในแชตนั้นไม่ได้มีเท่าที่ลูกค้าท่านนั้นโพสต์ไปเท่านั้น

สิ่งใดผมทำผิดผมกล้ารับและขอโทษนะครับ หากคุณลูกค้ามาบอกกับผมว่าต้องการเคลมค่าอาหารที่ไม่พอใจคืนตอนนี้ผมก็พร้อมยินดีจ่ายนะครับ แต่สิ่งไหนที่ไม่เป็นความจริงรบกวนฟังความสองด้านนะครับ

หากสื่อมวลชนท่านใดอยากสัมภาษณ์ข้าพเจ้า โปรดติดต่อมาทางแชตของร้านเพื่อเข้ามาดูข้อความจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดในแชตจากมือถือของข้าพเจ้าเองได้เลยนะครับ แต่เบื้องต้นผมได้ลงรูปข้อความทั้งหมดไว้ด้านล่างแล้วครับ ยังไงอยากให้ลองดูข้อความทั้งหมดอีกทีนะครับ ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ปล.ตอนนี้ยังมีอาการของการฉีดวัคซีนมาเล็กน้อยนะครับ ขออนุญาติพักผ่อนก่อนนะครับ และจะรีบตอบข้อความให้เร็วที่สุดครับ ขอบคุณครับ"