“น้าพวง เชิญยิ้ม” ต่อสู้โรคเกาต์ เกือบเดินไม่ได้! ย้อนเล่าชีวิต อดีตลิเก...สู่ตลกเพลงฉ่อย
ใครจะรู้ว่า “พวง เชิญยิ้ม” อดีตเคยเป็นอดีตลิเกมาก่อน ก่อนที่จะเป็นตลกดังของวงการบันเทิงบ้านเรา งานนี้เจ้าตัวได้มีโอกาส มาออกรายการ Z Story Z Holiday ทางช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง34 กับสองพิธีกร ดีเจอ๋อง เขมรัชต์ และ ลิตา อินท์ชลิตา เล่าถึงความเป็นมาในครั้งอดีต เผยดีใจที่ทำให้คนรุ่นใหม่รู้จักเพลงฉ่อยมากขึ้น
รู้สึกอย่างไรบ้างที่ทำให้คนยุคใหม่รู้จักเพลงฉ่อยมากขึ้น ?
“ดีใจมากครับ จริงๆ แล้วเพลงฉ่อยมีมาตั้งแต่โบราณ แต่ตอนนี้กำลังจะสูญหายไป เราก็มีโอกาสได้หยิบสิ่งเล็กๆ น้อยๆ มาปรับใช้ มาประยุกต์ร้องให้เข้ากับยุคสมัยนี้ เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ก็ดูดี เราก็รู้สึกภาคภูมิใจที่เราสามารถดึงเพลงพื้นบ้าน กลับมาได้รับความนิยม แล้วตอนนี้ทางคณะเพลงฉ่อย ครูบาอาจารย์เขาก็เริ่มมีงานกัน เราดีใจที่ได้มีส่วน ถึงแม้จะน้อยนิด แต่ก็ดีใจ”
น้านงค์ น้าพวง และ น้าโย่ง ทั้ง 3 น้า รู้จักกันมานานแล้วหรือยัง ?
“รู้จักกับน้าโย่งมาตั้งแต่อายุ 14-15 ตั้งแต่วัยรุ่นเลย รู้จักกันบนโรงลิเก น้าโย่งเขาเล่นอยู่ในคณะลิเกศักรินทร์ ดาวร้าย ส่วนเราไปตีตะโพน แต่พวกเราทั้ง 3 คน สนิทกันรักกันมาก ยอมได้ยอมเสีย ผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย”
ถ้าย้อนกลับไปตอนเล่นลิเก แต่ละน้าเล่นเป็นบทอะไรกันบ้าง ?
“น้าโย่งเขาเป็นตัวโจ๊ก น้านงค์เป็นตัวโกง น้าพวงตอนแรกตีตะโพน แล้วก็ได้ขึ้นไปเล่นลิเกกับเขา ทีแรกก็เป็นตัวโจ๊กก่อน แล้วก็มาเป็นตัวเจ้า ก็เล่นอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก”
จากที่เล่นลิเกกันมา แล้วมาผันตัวสู่วงการตลกได้อย่างไร ?
“ไม่มีงานจ้าง ไม่มีงานบวชที่ต่างจังหวัด เราก็มาเล่นลิเกในกรุงเทพฯ น้าโย่งเขามาก่อน มาเล่นตลกเมื่อ พ.ศ. 2529 เขาก็ชักชวนเราเข้ามา ตอนนั้นเขาเล่นอยู่กับ ยาว อยุธยา เราก็ดีใจครับ สนุกดี”
จากลิเกมาเล่นตลก เรียกว่าเปลี่ยนสายเลย ยากไหม ?
“คนละเรื่องเลยครับ ถึงแม้เราจะเคยเล่นตัวโจ๊กมา แต่คนละอย่างกันเลย ตลกเขาต้องเล่นแบบธรรมชาติ เหมือนนั่งคุยกัน แต่เวลาลิเกเล่น จะต้องมีมาด เอาไปเล่นกับตลกไม่ได้ ไม่ธรรมชาติ”
ทุกวันนี้รักอาชีพตลกไหม ?
“ถ้าไม่รัก จะอยู่ถึง 30 กว่าปีเหรอ มาตั้งแต่ปี 2535 ร่วมๆ 30 ปี ก็นานอยู่นะครับ เป็นอาชีพที่ผมรักครับ”
ต่อสู้กับโรคเกาต์มาโดยตลอด เป็นมาอย่างไรบ้าง ?
“ถ้าเรางดกินของแสลง เราก็จะไม่เป็น แต่ไอ้ของแสลงดันเป็นของที่เราชอบ อย่างเช่น ผักแทบทุกอย่าง ห้ามกินหมดเลย ปลาที่ไม่มีเกล็ดก็กินไม่ได้ ปลาทะเลก็ไม่ได้ เครื่องในก็ไม่ได้ สัตว์ปีกก็ไม่ได้ ปลากินได้เฉพาะปลาที่มีเกล็ด”
เป็นโรคเกาต์ถึงขั้นเดินไม่ได้ ?
“จะเดินไปเมตรหนึ่ง ยังไม่ได้เลยครับ มันปวดมาก มันจะเป็นตามข้อ”
ตอนนั้นรักษาตัวนานไหม ?
“นานครับ เป็นทีก็ไปฉีดยาที ฉีดมากก็ไม่ดี ฉีดแล้วหายเลย แต่มันอันตรายตรงที่ ยาที่ฉีดไปมันมี สเตียรอยด์ มันทรมานมากกับโรคนี้ งานมีแต่ไปไม่ได้ จะไปเข้าห้องน้ำก็ยังลำบาก”
เราปรับตัวอย่างไรบ้าง ?
“ก็คือต้องไปฉีดยา ถึงรู้ว่าอันตรายก็ต้องฉีด แล้วต้องจำกัดการกิน ต้องมีการคุมอาหาร”
ตอนนี้อาการเป็นอย่างไรบ้าง ?
“พยายามที่จะรักษาตัวครับ พยายามไม่กินของแสลง ตอนนี้ยังยืนยันว่ายังรับงานได้แน่นอน”
นอกจากงานแสดงตลก ก็ยังมีอีกหนึ่งงานด้วย ?
“ไปลงทุนทำห้องเช่ารายเดือน เราคิดว่าอยากจะมีอะไรที่สามารถส่งต่อให้ลูกให้หลานได้ เขาบอกว่าเป็นเจ้าของห้องเช่า เป็นเสือนอนกิน เราก็อยากจะเป็นแบบนั้น ก็เลยลองลงทุนทำไป 20 ห้องก่อน ก็รู้เลยว่า เราอยู่ได้ ถือว่าประสบความสำเร็จ”
ตอนนี้มี 20 ห้องแล้ว คิดว่าจะต่อยอดอย่างไร ?
“คิดว่าจะค่อยๆ ทำเพิ่มไปเรื่อยๆ ครับ”
ตอนนี้อายุเท่าไหร่แล้ว ?
“63 ปีแล้วครับ ทุกวันนี้ทำงาน ก็ทำเพื่อทุกคน เพื่อคนในครอบครัว มีแรงก็ทำไป อย่างภรรยาก็คบกันมา 35 ปีแล้ว ดีกรีนางเอกลิเกด้วย เล่นลิเกโรงเดียวกัน แล้วเราก็นั่งเขียนคิ้ว เราก็แอบหันกระจกไปมองเขา”
ตลกส่วนใหญ่เขากลัวเมียกัน น้าพวงกลัวเมียไหม ?
“ไม่กลัว ขนาดเรากลับจากงาน แล้วเราเหนื่อยๆ อยู่ เขาใช้ไปซื้อก๋วยเตี๋ยว เราก็เลยกระโดดถีบเลย ถีบจักรยานไปซื้อให้เขาเลยครับ อย่าใช้คำว่า กลัว เลยครับ ให้ใช้คำว่า ด้วยความเคารพ”
ทุกวันนี้ครอบครัวน้าพวงดูแลอยู่กี่คน ?
“ครอบครัวใหญ่เลยครับ เราดูแลหมดเลย ทั้งลูกและครอบครัวของภรรยา เพราะน้าพวงพ่อแม่เสียแล้ว เราก็ดูแลครอบครัวเขา เหมือนกับครอบครัวของเรา บุพการีสูงที่สุด เสมือนพระในบ้าน”
ติดตามทุกประเด็นร้อน เพิ่มเติมความแซ่ด ในรายการ Z Story Z Holiday เม้าท์ให้ Z เหมือนเดิม ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.30 -11.00 น.ทางอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 หรือรับชมย้อนหลัง youtube : AMARINTV
อัลบั้มภาพ 13 ภาพ