หญิงพลเมืองดีช่วยคนขับรถตกถนน แต่ถูกทำร้ายสาหัส เพราะคนขับเมา กลัวถูกตำรวจจับ
จากกรณีหนุ่มประสบอุบัติเหตุ ทำร้ายหญิงพลเมืองดีพร้อมลูกชาย ที่จะเข้าไปช่วยเหลือ หลังพบรถเสียหลักตกข้างทาง เพราะกลัวว่าตำรวจมาที่เกิดเหตุผล้วตนจะถูกจับฐานเมาแล้วขับ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้เรียกคู่กรณีมาสอบปากคำ ขณะที่ผู้ถูกกล่าวหา ยอมรับดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเกิดเหตุ และทำร้ายผู้หญิงจริง เนื่องจากกลัวว่าแจ้งตำรวจแล้วตนจะถูกจับข้อหาเมาแล้วขับ
ล่าสุดวันนี้ 26 เมษายน 2565 เวลา 13.30 น.พ.ต.อ.กิตติ มาลีหวล ผกก.สภ.น้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า วันนี้ ได้เรียกคู่กรณีเหตุทำร้ายร่างกาย คือ นายโพธิพงศ์ เรืองอานุภาพ อายุ 38 ปี ชาว อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และ นางสาวบังอร ติมา ผู้เสียหาย มาสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชน จากเหตุชายหนุ่มทำร้ายร่างกายหญิงสาวพร้อมลูกชายจนบาดเจ็บหนัก ขณะจะเข้าไปให้การช่วยเหลือรถตกไหล่ทาง เหตุเกิดพื้นที่ บ้านหัวน้ำแม่สะกึด ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 เวลา 02.24 น.ที่ผ่านมา
เบื้องต้นนายโพธิพงศ์ เรืองอานุภาพ คนขับรถ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุตนได้ดื่มเบียร์ จำนวน 6 กระป๋องจนเมา และไม่ได้กินข้าว สาเหตุที่รถตกถนนเกิดจากตนได้กลับรถเพื่อจะเข้าไปตัวเมืองแม่ฮ่องสอน โดยถอยรถลงไหล่ทางซึ่งเป็นร่องลึกโดยตนไม่ทราบว่ามีร่องข้างถนนทำให้ ล้อหลังลอยไม่ติดพื้น จนเสียหลัก
ขณะที่ น.ส.บังอร พร้อมด้วยบุตรชาย ได้ขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาและได้โทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้วยความตกใจกลัวว่าจะถูกตำรวจมาจับตนในข้อหาเมาแล้วขับ จึงได้เดินไปผลักน.ส.บังอร ล้มลง จากนั้นตนไม่รู้ว่าได้ทำอะไรไปบ้าง และวิ่งหนีออกจากที่เกิดเหตุ ส่วนที่รถของตนติดสติ๊กเกอร์ ของกองบัญชาการกองทัพไทยนั้น ก่อนหน้านั้นตนมีอาชีพรับเหมาเดินสายเคเบิ้ลสื่อสาร และรับงานให้หน่วยทหารหน่วยหนึ่งภาคเหนือ ต้องติดสติ๊กเกอร์ ก็เพื่อผ่านด่านตรวจของหน่วยทหารในการผ่านเข้า-ออก ในหน่วย แต่ตอนหลังตนไม่ได้ทำงานให้กับหน่วยทหารแล้ว และวันนี้จึงได้ทำการแกะสติ๊กเกอร์ออกจากรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทางด้าน น.ส.บังอร เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ พอตนมาพบรถตกไหล่ทาง ได้จอดรถและเดินเข้าไปสอบถามว่าเป็นอะไรบ้างไหม จากนั้นตนได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 เพื่อให้มาช่วยเหลือ แต่กลับถูกทำร้ายร่างกาย ด้วยการบีบคอ ชกเข้าที่ท้ายทอย เมื่อล้มลง นายโพธิพงศ์ได้จับศีรษะตนโขกกับพื้นถนน รวมไปถึงมีการพยายามดึงผ้าถุงของตนอีกด้วย ล่าสุดตอนนี้ ร่างกายยังเจ็บหนัก เดินแทบไม่ได้ และรู้สึกเวียนศีรษะตลอด และเรื่องดังกล่าวตนจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด รวมไปถึงผู้ก่อเหตุต้องชดใช้ค่าเสียหาย ทั้งร่ายกายและจิตใจ รวมไปถึงยานพาหนะที่ถูกถีบจนล้มลง ทำให้ทรัพย์สินของตนเสียหาย
นายศรีสุวรรณ สรศักดิ์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดแม่ฮ่องสอน เผยว่า จากอาการของ น.ส.บังอร ปวดศีรษะไม่หาย ตนเห็นว่า จะต้องให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการเอกซ์เรย์สมองเป็นการด่วน หากปล่อยทิ้งไว้อาจจะเป็นอันตราย อย่างไรก็ตามในเรื่องของคดี ตนต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำไปตามหน้าที่ และให้ความเป็นธรรมต่อผู้เสียหายด้วย
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ