"อัจฉริยะ" แฉ พล.ต.ต. "ตอเต่า" บงการเบื้องหลังคดีแตงโม จ่อมอบหลักฐานเด็ด
“อัจฉริยะ” ยัน 30 เม.ย.นี้ มอบหลักฐานสำคัญ “คดีแตงโม” ให้กับตำรวจ ยังเชื่อไม่ได้ฉี่ท้ายเรือ แต่ “แซน” ให้การเท็จ แฉ พล.ต.ต. "ตอเต่า" บงการอยู่เบื้องหลัง
วันนี้ (27 เม.ย.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยังคงยืนยันว่า วันที่ 30 เมษายน 2565 เวลา 10.00 น. ตนพร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญจะนำหลักฐานสำคัญอีกชิ้นเกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ "แตงโม" ไปมอบให้กับสารวัตรอุเทน ตามที่นัดหมายไว้ก่อนหน้านี้ และยังคงย้ำว่าคดีนี้ "แซน" ให้การเท็จกับเจ้าหน้าที่และมีการกุเรื่องที่ แตงโม ไปฉี่ท้ายเรือ ก่อนที่จะมี “พล.ต.ต.” อักษรย่อ "ตอเต่า" ที่เข้ามาดูแลคดี จะเริ่มขบวนการสร้างพยานหลักฐานเท็จ เพื่อให้สอดคล้องกับคำให้การของแซน ที่อ้างว่าแตงโมมาจับขาเพื่อฉี่่ก่อนตกลงไปท้ายเรือ
โดยเฉพาะประเด็นเรื่องเส้นผม 3 เส้นของแตงโม ที่พบอยู่ท้ายเรือบริเวณข้างเบาะ ท้ายมอเตอร์ การ์ดเรือข้างขวาซึ่งอยู่ในน้ำ หากมีจริงเรือวิ่งด้วยความเร็ว เส้นผมก็ปลิวหายไปหมดแล้ว แต่การเก็บหลักฐานกลับมาพบครั้งที่ 4 จึงเชื่อได้ว่าเส้นผมดังกล่าวมีการนำมาวางไว้โดยไม่ใช่เส้นผมหล่นเองตามธรรมชาติ
อีกทั้งในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (26 เม.ย.) เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานก็ไม่ได้ตอบรายละเอียดเรื่องเส้นผม โดยอ้างว่าเป็นรายละเอียดในสำนวนคดี ประกอบกับในการแถลงนั้น ผบช.ภ.1 พูดเองว่า บริเวณการ์ดเรือจมน้ำอยู่ จึงตรวจไม่พบสารปัสสาวะ ก็เลยเกิดข้อสงสัยว่าหากการ์ดเรือจมน้ำอยู่ แตงโมจะไปฉี่ได้อย่างไร
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ยังกล่าวถึงการเปิดคลิปเสียงการสนทนาของชาย 2 คนที่พูดถึงคดีแตงโมในระหว่างไลฟ์สดผ่านเพจ "โคนันเมืองไทย" เมื่อคืนนี้ว่า มีเพียงแซนที่พูดว่าแตงโมไปฉี่ท้ายเรือ ส่วนคนอื่นๆ บนเรือไม่ทราบ และการที่แซนอ้างว่าแตงโมฉี่ท้ายเรือนั้น ทำให้ปิดคดีไม่ลง จึงต้องมีการสร้างพยานหลักฐานขึ้นมาโดยเอาคำให้การของแซนเป็นตัวตั้ง และหาพยานหลักฐานมารองรับ พร้อมกับระบุว่า บาดแผลที่ขาขวา รูข้างซ้าย รอยช้ำอีกหลายตำแหน่งเกิดจากอะไรกันแน่ ซึ่งส่วนตัวไม่เชื่อว่าเกิดจากใบพัด และการแถลงของเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะนาทีที่แตงโมตกจากท้ายเรือก็ไม่ชัดเจน เอาภาพไม่ชัดมาแหกตาประชาชน เพื่อให้สอดรับกับแซนว่านั่งอยู่ท้ายเรือ
ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนไม่กลัวจะถูก "แซน" หรือตำรวจที่ทำคดีฟ้องดำเนินคดี แต่ยินดีเพราะหากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นก็จะสามารถเอารายละเอียดทางคดีมาเปิดเผยเพื่อต่อสู้กันทางคดีได้ ส่วนการแถลงข่าวของตำรวจที่ไม่ได้ใช้คำว่าปิดคดีตามที่ทนายคดีแตงโมพูดกับสื่อ แต่ใช้คำว่าสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ ก็เป็นเพราะตนไปแนะนำกับตำรวจเอง เพราะการปิดคดีเป็นการใช้คำพูดที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากจะหมายถึงไม่รับรู้ ไม่รับฟังพยานหลักฐานอื่นๆ อีก