"แต๊งค์-พี่ศรี" แลกหมัด "ทนายเดชา" ฟาดกันแรง! ปากดี ระวังไม่มีพื้นที่ให้ทำงาน

"แต๊งค์-พี่ศรี" แลกหมัด "ทนายเดชา" ฟาดกันแรง! ปากดี ระวังไม่มีพื้นที่ให้ทำงาน

"แต๊งค์-พี่ศรี" แลกหมัด "ทนายเดชา" ฟาดกันแรง! ปากดี ระวังไม่มีพื้นที่ให้ทำงาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"แต๊งค์-พี่ศรี" แลกหมัด "ทนายเดชา" ฟาดกันแรง ปากดี-ระวังไม่มีพื้นที่ให้ทำงาน "ทนายเดชา" แจงแทนตำรวจ ภาพรอยแผล "แตงโม” ไม่โป๊ะ-เป็นภาพจากกูเกิ้ล

รายการโหนกระแสวันที่ 28 เม.ย. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ “แต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ” และ “ศรีสุวรรณ จรรยา” กรณีถูก “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” ฟ้อง หลังโพสต์เหน็บแรง “ทนายขยะ”

แต๊งค์ใส่เสื้ออะไรมา?

แต๊งค์ : เสื้อพี่เบิร์ดครับ ผมขับรถไปรับที่บ้านเลย ช่วยโปรโมตให้เขา

แต๊งค์ฟังตร.แถลงเรื่องแตงโมแล้วเป็นยังไง แต๊งค์สนิทกับแตงโมมาก?

แต๊งค์ : 13 ปีที่แล้ว ตอนนั้นคบแตงโม วันนี้ตามข่าวแตงโมตลอด หลังจากตร.แถลงก็ยอมรับว่าเป็นไปตามคาด แต่ผิดหวัง คิดว่าเขาจะมาเปิดเผยหลักฐานให้ชัดเจนกว่านี้ ผมอาจดูหนังซีรีส์ CSI มากไปหน่อย ก็คาดหวังกับตร.ไทยสูง

ผิดหวังตรงไหน?

แต๊งค์ : พวกหลักฐาน แต่ก็ต้องยอมรับว่าเคารพงานของตร.นิดนึง เพราะพยานหลักฐานมันอ่อนจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น 5 คนบนเรือ มันไม่มีคนอื่นแล้ว พยานวัตถุที่เป็นวงจรปิดมันเลือนรางเหลือเกิน ผมคิดว่าเขาจะมีเทคโนโลยีหรือผู้เชี่ยวชาญที่สามารถไขความกระจ่างให้ประชาชนได้มากกว่านี้ แต่ที่เราเห็นตอนนี้คือคล้ายๆ กับที่เราเห็นในสื่อก่อนหน้านี้ไปหมดแล้ว

แต๊งค์คาดหวังถึงขั้นตรงไหน?

แต๊งค์ : ในเรื่องหลักฐานค่อนข้างยากอยู่แล้ว ผมเข้าใจเจ้าหน้าที่ตร. แต่มีหลายประเด็น อย่างหน่วยงานข้างนอกที่อยากเข้าไปตรวจสอบเพื่อช่วยกันค้นหาข้อเท็จจริงก็ถูกสกัดกั้นเอาไว้ โดยบอกว่าเป็นคนหิวแสง มีคนออกมาสกัดกั้น โดยเฉพาะคนที่ควรเป็นคนดำเนินการหาข้อเท็จจริง อย่างทนายฝั่งผู้เสียหายควรเป็นคนที่ออกมาต่อสู้ เทคแอ็กชั่นอย่างที่พี่ศรีพูดกับผม

มุมแต๊งค์คิดว่าทนายความฝั่งผู้เสียหาย แอ็กชั่นน้อยไปนิดนึง ในการตามหาความจริง ฟังแต่มุมตร.หมดเลย?

แต๊งค์ : เอาแค่ว่าการทำงานของเขา เรามองไม่เห็นอยู่แล้ว เราไม่เห็นเขาออกมาเรียกร้อง หรือตั้งข้อสงสัยอะไรเลย มีแต่ออกมาด่าคนอื่นหิวแสง เตรียมฟ้องคนอื่น ขู่คนอื่นจะติดคุกติดตะรางคดีนี้ และมีพูดถึงตร.ว่าทำงานดีแล้ว ทำงานครบถ้วนดีแล้ว คุณเป็นทนายฝั่งผู้เสียหาย คุณรู้ได้ไงว่าตร.ทำงานครบถ้วนแล้วจริง ดูตัวอย่างแผลที่มีคนสังเกตว่าเอาภาพแผลที่เกิดจากรอยกรีด นี่ผมอ้างอิงจากสื่อในโซเชียล

ตอนตร.แถลง ตร.มีการนำภาพๆ นึงออกมาเพื่อเทียบเคียงแผลคุณแตงโม โดยบอกว่าบาดแผลเข้าได้กับใบพัดเรือที่กรีดลงไป แต่ปรากฏว่าเพจ Drama-addict โพสต์ว่าแผลที่เราเห็นในเว็บเดอะซัน มีการนำมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ บอกเลยว่าภาพที่เห็นเป็นภาพผู้หญิงคนนึงที่ไปงานเลี้ยงงานนึง แล้วปรากฏว่าโดนใครไม่รู้กรีด เขาพยายามตามหากันอยู่ว่าคืออะไรกันแน่ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับใบพัดเรือเลย สังคมงงทันที พี่ศรีมองเรื่องนี้ยังไง?

ศรีสุวรรณ : มองอะไร ก็จับโป๊ะสิครับ จับโป๊ะดังปั้ง ดูในโซเชียลมีเดียเอาเรื่องนี้มาเขย่า ทำให้การแถลงของตร.วันก่อนแทบจะกลายเป็นศูนย์เลย เรื่องน้ำหนักของคดี มันเป็นภาพรวมทั้งหมดเลย ที่สำคัญก้าวไปถึงว่าอัยการที่รับสำนวนไปเรียบร้อยแล้ว 2 พันกว่าหน้า ต้องสั่งรื้อใหม่ทั้งหมดหรือไม่ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ อย่าลืมคุณแตงโมเป็นบุคคลสาธารณะ คนไทยนิยมชมชอบติดตามอยู่ การที่ตร.มาทำแบบนี้ แล้วมันโป๊ะแบบนี้ มันเสียหายนะ ผมว่านายกฯ ต้องตั้งกรรมการสอบแล้วว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ภาค 1 ที่รับคดีก็ต้องรีบดำเนินการ เห็นว่าตอนบ่ายเขาจะแถลง ก็ลองดูสิว่าเขาจะแถลงข้อเท็จจริงอย่างไร แต่เรื่องแบบนี้ทำให้ลดเครดิตตร.ที่ทำหน้าที่มา 2 เดือนลงไปแทบเหลือศูนย์เลย

อย่างตร.เอาภาพเรือที่วิ่งในน้ำ บอกว่าแตงโมอยู่ตรงจุดนี้ แซนอยู่จุดนี้ แต่คุณอัจฉริยะ เอาภาพเดียวกัน เวลาเดียวกันมาออก คนก็ยังสงสัยว่ายังไงกันแน่ พอมีภาพบาดแผลอาจลดความน่าเชื่อถือตร.ทันที?

ศรีสุวรรณ : ถูกต้องครับ

แต๊งค์ : อย่างที่พี่ศรีบอก โป๊ะแตกจริงๆ โป๊ะแตกดังปั้ง

ศรีสุวรรณ : ผมแปลกใจ ที่ผมสดับรับฟัง ข้อมูลจากเดอะซันที่คนเอามาเยอะแยะ ผมสดับรับฟังว่าผู้เสียหายคือตัวแม่คุณแตงโม ทนายผู้รับผิดชอบคดี ออกมาตั้งข้อสังเกต ตั้งข้อสงสัยกับคดีนี้หรือไม่อย่างไร ซึ่งไม่ออกมาพูดอะไรเลย มันผิดข้อสังเกต มีข้อพิรุธ โดยทั่วไปคนทำหน้าที่เป็นทนายความรับผิดชอบคดี มันต้องตั้งข้อสังเกต 1 2 3 4 5 เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ต้องทุกข์ร้อนแทนผู้เสียหาย

เดี๋ยวโดนอีกคดี?

ศรีสุวรรณ : ผมไม่ได้เอ่ยชื่อ พูดด้วยตรรกะ เหตุและผล ฟ้องร้องไม่ได้หรอก

เป็นการแสดงความคิดเห็นโดนสุจริตใจ?

ศรีสุวรรณ : ใช่ครับ คุณแตงโมเป็นบุคคลสาธารณะ ใครจะติดตามเธอก็ได้ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวครอบครัวนี้ ใครจะมายุ่งไม่ได้

จริงๆ มันได้มั้ย?

ศรีสุวรรณ : ได้สิครับ เขาเป็นบุคคลสาธารณะ ใครมีพยานหลักฐาน ก็ตั้งข้อสังเกตได้ เพียงแต่อย่าไปใส่ไคร้ แค่นั้นเอง

คุณแม่มั่นใจตัวตร. เขาไม่ฟังอะไร?

ศรีสุวรรณ : ก็เอาภาพเดอะซันไปสัมภาษณ์ดูสิ จับโป๊ะขนาดนี้ยังเชื่อมั่นอยู่มั้ย

พี่ศรีจะร้องเรื่องนี้มั้ย?

ศรีสุวรรณ : ก็นึกอยู่ อยากฟังตร.แถลงช่วงบ่ายวันนี้ก่อน ว่ามีเหตุมีผลอะไร ที่เอาภาพเดอะซันมาเทียบเคียงและอ้างคดีนี้ ถ้ามีน้ำหนักเบาหวิว ไม่สมเหตุสมผล เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปร้องต่อปปช.เลย ฐานทุจริตต่อหน้าที่ทำงานโดยไม่เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ ถ้ากระบวนการยุติธรรมเริ่มต้นโดยไม่ถูกต้องแล้ว ไปถึงขั้นอัยการ ถึงศาล มันก็ผิดเพี้ยนไปทั้งระบบ

จะร้องทนายความเขาด้วยมั้ย?

ศรีสุวรรณ : เดี๋ยวดูก่อน เพราะมีมรรยาททนายความ ปี 2529 กำกับอยู่ แต่ไม่ต้องกลัว คนอย่างศรีสุวรรณ จับผิดเมื่อไหร่ก็ได้หมดแหละ

ถ้าตร.แถลง น้ำหนักเบาหวิว เช่นอะไร ถ้าบอกว่าตรวจสอบแล้วโดนใบพัดเรือจริง เอามาจากนี้จริง มีอะไรยืนยันได้ก็อีกเรื่องนึง คิดว่าเดอะซันจะเอามาลงมั่วๆ เหรอ?

ศรีสุวรรณ : ผมคิดว่าเดอะซันเขาเป็นสื่อระดับโลก เขาคงจะลงมั่วๆ ไม่ได้ คำอธิบายในข่าวเดอะซัน อธิบายรายละเอียดที่มาที่ไปต่างๆ จะเอาภาพอื่นมาลงในงานเลี้ยง เป็นไปไม่ได้

กลายเป็นว่าความน่าเชื่อถือของบาดแผล ถูกทำลายไปเลย?

ศรีสุวรรณ : ถูกต้องครับ ถ้าแถลงบ่ายนี้ไม่มีเหตุผลที่มีน้ำหนักเพียงพอ ที่เหนื่อยมา 2 เดือนกลายเป็นศูนย์ พรุ่งนี้เจอกันที่ปปช. สนามบินน้ำ

แต๊งค์ฟังแล้วเป็นไง?

แต๊งค์ : มั่นใจว่าพี่ศรีพูดถูกทุกอย่างครับ ในเรื่องของความมั่นใจ ความเชื่อถือของประชาชนที่มีต่อตร. มันตกต่ำอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งตกต่ำหนักเลย ย้อนไปพูดถึงพี่ทนายเดชา ทนายคุณแม่หน่อย ออกไลฟ์สดพูดถึงตร.ว่าทำงานดีทำงานครบถ้วนแล้ว เป็นไงล่ะ อยากให้เขามาตอบเหมือนกันนะวันนี้ โฟนอินติดหรือเปล่าวันนี้

“ทนายเกิดผล แก้วเกิด” อยู่ในสาย กรณีภาพถ่ายที่เพจ Drama-addict บอกว่าเป็นภาพจากเว็บเดอะซัน เป็นภาพปี 2019 ตามข่าวบอกว่าเป็นผู้หญิงคนนึงระหว่างเต้นรำ เกิดแผลขนาดยาว 30 ซม. แผลเกิดจากของมีคม หลังเกิดเหตุคนพาเธอไปรักษา และไล่ตามกล้องวงจรปิดหาสาเหตุ แล้วภาพนี้ตรงกับภาพที่ตร.ออกมาแถลงว่าเป็นภาพที่โดนใบพัดเรือ ในมุมข้อกฎหมายจะเป็นยังไงต่อไป?

เกิดผล :  ในมุมข้อกฎหมายก็มีปัญหา มีความน่าเชื่อถือได้แค่ไหน เริ่มแรก ที่พนักงานสอบสวนสรุปคดีเมื่อวาน ว่าที่ทำมาทั้งหมดมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน แม้แต่ภาพคุณก็เอาภาพมั่วมาเต็มไปหมดเลย ถ้าเป็นอย่างที่จ่าเขาลงนะ ที่สำคัญที่สุดที่ตร.แถลงยืนยันข้อเท็จจริงว่าเป็นภาพอุบัติเหตุที่คนต่างชาติโดนใบพัดเรือเช่นเดียวกัน มันก็เป็นคำถามเป็นแนวทางต่อสู้ทนายจำเลยได้เหมือนกัน เช่น ภาพบาดเจ็บจากใบพัดเรือ มีอยู่มากมายเป็นร้อยๆ ภาพ คุณไปหามาร้อยภาพเป็นแบบนี้มั้ย แล้วทำไมคุณถึงเอาภาพนี้มา แล้วคุณถึงคิดว่าจะสนับสนุนกับคำพูดของคุณ แล้วพอบาดแผลนี้มา แทนที่จะเป็นภาพที่แท้จริง แต่เป็นภาพที่คุณอ้าง ซึ่งจริงๆ มันไม่ใช่ ทำให้พยานหลักฐานตรงนี้ไม่มีความน่าเชื่อถือ เพราะลำพังบาดแผลที่คุณอ้างว่าเกิดจากใบพัดเรือ เกิดที่ต่างประเทศ ทำไมมันมีแค่บาดแผลเดียวเหรอ มีเป็นร้อยบาดแผลทำไมไม่หามาเปรียบเทียบ สุดท้ายแล้วจับโป๊ะแตกแบบที่เขาว่าจริงหรือไม่ รวมทั้งข้อมูลพยานหลักฐานอื่นๆ ที่พนักงานสอบสวนพยายามชี้นำสะกดจิตสังคมอยู่คืออะไร มันเชื่อถือได้แค่ไหน อย่างที่ยึดว่าแตงโมน่าจะตกตรงนั้นตรงนี้ มันไม่ชัด สรุปเหมือนเป็นจินตนาการ ทั้งที่ควรเป็นวิทยาศาสตร์ ถ้าคุณต่างคนต่างจินตนาการ ผมก็จินตนาการแบบนี้ ถ้าจินตนาการแล้วอ้างอิงพยานหลักฐานก็เป็นพนักงานสอบสวน กลายเป็นว่าพยานหลักฐานที่เริ่มจากต้นน้ำ มันเริ่มต้นผิด ไปถึงอัยการก็รับข้อมูลมาแค่นี้ ตอนนี้อัยการคิดมากแล้วนะ อาจคิดว่าไม่น่ารับมาเลยตั้งแต่แรกก็ได้นะ

ณ เวลานี้ ตามขั้นตอนกฎหมาย พอผ่านชั้นสอบสวน สรุปเรียบร้อย ส่งต่อให้อัยการ อัยการดูสำนวนอีกทีว่าตรงไหนขาดตกบกพร่อง พอถึงมืออัยการ มีโอกาสที่ฝั่งอัยการจะตีกลับมั้ย?

เกิดผล : มีครับ ขึ้นอยู่กับมุมมองอัยการ ว่าพยานหลักฐานสมบูรณ์หรือบกพร่องเพียงใด ถ้าพนักงานอัยการเห็นว่าสอบพยานปากนี้ยังไม่ครบถ้วน บกพร่อง หรือเห็นว่าบาดแผลแบบนี้ เกิดขึ้นจริง จากเรือจริง คุณสอบพยานที่ใกล้เคียง หรือแพทย์ที่เคยรักษาบาดแผลแบบนี้ที่ต่างประเทศได้มั้ย อัยการอาจส่งคืนก็ได้ ก็เป็นไปได้สูงครับ เพราะอัยการต้องดูว่าเป๊ะมั้ยถึงส่งสู่กระบวนการชั้นศาล

ศรีสุวรรณ : จับโป๊ะขนาดนี้ ผมว่าอัยการอยู่นิ่งไม่ได้แล้ว ต้องย้อนสำนวน กลับไปสู่ตั้งต้นใหม่ ให้ตร.จัดการมาใหม่ มันชัดขนาดนี้แล้ว อัยการเดินหน้าต่อไม่ได้ ต้องถอย ไม่งั้นจะเป็นประโยชน์กับผู้ถูกกล่าวหาทันที ทนายผู้ถูกกล่าวหาจะหยิบยกเรื่องนี้มาสู้ในชั้นศาล ศาลก็ยกฟ้อง ใครได้ประโยชน์ครับ

ถ้าวันนี้แถลง?

ศรีสุวรรณ : ถ้ามีน้ำหนักเบาหวิว พรุ่งนี้เจอกันที่ปปช.

แต๊งค์มีประเด็นเรื่องพาดพิงทนายคนนึง?

แต๊งค์ : เริ่มเลยคือได้ยินระแคะระคายว่าจะฟ้องผม ข้อหาหมิ่นประมาท สาเหตุน่าจะมาจากโพสต์นี้ถูกต้องนะครับ ที่มาที่ไปตอนแรกเลยคือก่อนหน้าโพสต์ ผมเห็นสื่อนำเสนอว่าเขาพูดพาดพิงคุณหมอผ่าศพท่านนึง ผมรู้สึกว่าการที่คุณหมอมาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ มาเสนอความคิดเห็น มาช่วยเหลือ อาจไม่ไปพอใจใครบางคน เขาถึงออกมาต่อว่า ผมว่าตรงนี้ไม่โอเค หมอเขาต้องการมาช่วย ก็รู้สึกไม่เป็นธรรมกับหมอ

เขาแจ้งความ เรากังวลใจมั้ย?

แต๊งค์ : ไม่กังวลใจ เพราะผมคิดว่าผมวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตใจ ผมให้ความคิดเห็น และคดีนี้คนสนใจทั้งประเทศ มีการทำงานของตร.ที่คนจับตามองอยู่

เขาติดใจคำว่าทนายขยะ?

แต๊งค์ : คือทนายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ผมไม่เห็นการเทคแอ็กชั่นอะไรจากเขาเลย อยากให้คดีจบไปเร็วๆ ไม่มีความคืบหน้าหรือเปลี่ยนแปลงให้ผู้เสียหาย ผู้เสียหายไม่ได้รับประโยชน์อะไรตรงนั้นเลย เราเลยแสดงความรู้สึกออกไปว่าเป็นทนายขยะ แค่นั้นเอง ในโพสต์ผมก็ไม่ได้ระบุชื่อด้วย

พี่ศรีก็ไม่เบา บอกว่าทนายขยะ ชอบด่าคนอื่นหิวแสง แต่ตัวเองยิ่งกว่า ชอบว่าแน่กว่าทนายคนอื่น เถียงข้างๆ คูๆ ชอบร้องจุ๊กกรู๊ๆ เป็นเนืองนิตย์?

ศรีสุวรรณ : ผมก็ขยายความว่าถ้าจะเรียกทนายขยะต้องมีคำจำกัดความยังไงบ้าง ผมก็ตั้งประเด็นนี่แหละ ไม่ได้บอกว่าเป็นใครอย่างไร คำว่าจุ๊กกรู๊ผมก็พูดได้ ทนายทั่วแผ่นดินก็พูดได้ คำว่าทนาย ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคนถือวิชาชีพเลย ไปเปิดพจนานุกรมก็ได้ คำว่าทนายคือผู้รับใช้

พี่ศรีโพสต์ว่าทนายขยะเปียกวันนี้ พวกกินปูนร้อนท้อง วัวสันหลังหวะ พวกด้านได้อายอด พวกไอ้ห้อยไอ้โหน พวกปากห้อย?

ศรีสุวรรณ : มันเป็นคำพูดกลางๆ พวกกินปูนร้อนท้อง เป็นคำพังเพยแต่โบราณแล้ว ไม่ได้หมายถึงใครคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ

“ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” อยู่ในสาย แจ้งความเรียบร้อย?

เดชา : เรียบร้อยครับ พรุ่งนี้ก็จะมีการออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาครับ

ไม่มีการขอโทษกัน?

เดชา : ไม่หรอกครับ ถ้าเขาคิดว่าเขาทำถูกก็ให้ไปชี้แจงที่พนักงานสอบสวนนะ แล้วก็ไปชี้แจงที่ศาล ถ้ามั่นใจก็ไปชี้แจงที่พนักงานสอบสวน ปากดีกันทั้งนั้น

ถ้ากระเช้าไปถึงมือล่ะ?

เดชา : ไม่ครับ พวกนี้ปากดีทั้งคู่ ก็ไปบอกพนักงานสอบสวนเอาว่าแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ไม่ได้เอ่ยชื่อใคร อะไรต่างๆ ก็เก่งนักก็ไปพบพนักงานสอบสวนกัน พรุ่งนี้ก็ออกหมายแล้ว

เขาบอกไม่เอ่ยถึงหมายถึงทนายเดชา?

เดชา : ไม่ต้องบอกชื่อหรอกครับ ทนายตั้มฟ้องผม ผมก็ไม่เคยเอ่ยชื่อทนายตั้มเลย โดนไปกี่คดีล่ะ โดนไป 14 กรรม ศาลอาญา การศึกษากฎหมายต้องอ่านให้ครบทุกบรรทัด ไม่ใช่อ่านแค่บรรทัดเดียว เต็มที่เลยครับ ถ้ามั่นใจแบบนี้ดีเลย เต็มเหนี่ยวเลย มีสองอย่าง ไม่ชนะก็แพ้ ถ้าชนะก็ยกไป ถ้าแพ้ก็ติดคุก ดีครับ เห็นด้วยครับ

กลัวพี่ศรีกับพี่แต๊งค์ฟ้องกลับมั้ย?

เดชา : ไม่กลัวหรอก อยากฟ้องก็ฟ้องมา ก็สู้กันไป ต่างคนต่างมีสิทธิ์ครับ ไม่เป็นไร 

คุยกันไม่ได้เลยเหรอ?

เดชา : จะไปคุยกันทำไม ถ้าพูดกับเราแบบนี้ ไปทุกช่องก็เจอแต่สองคนนี้

เห็นว่าพี่โกรธมาก พี่ใช้คำว่าขยะเปียก?

เดชา : ผมคิดว่าผมติดตามกฎหมายนะ ผมเชื่อมั่นตร. ก็ไปใช้บริการตร. ไม่มีอะไร

พี่บอกว่าถ้าเป็นขยะแห้งพอมีประโยชน์ แต่ขยะเปียกนี่ไม่ได้เลย?

เดชา : (หัวเราะ) ปล่อยเขาไปเถอะ

ภาพที่ตร.เอามาแถลง ที่เป็นประเด็น พี่มองยังไง?

เดชา : พอดีผมยุ่งมาก ลงจากสนามบินเพิ่งได้รับสายจากตร.ผู้ใหญ่ในตำรวจภูธรภาค 1 เมื่อกี้เอง ผมคุยได้ 2-3 นาที แล้วติดรายการคุณกับช่อง 9 สั้นๆ นะได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่มา เป็นลักษณะการนำภาพจากกูเกิ้ลมานำเสนอเปรียบเทียบในลักษระรูปรอยของบาดแผล ว่าบาดแผลที่เขาเรียกว่าโค้งๆ

แต่ตร.บอกว่าเป็นบาดแผลเทียบเคียงจากรอยใบพัดเรือเลยนะ?

เดชา : เขาอาจคลาดเคลื่อน มันมีข้อจำกัดของกฎหมาย เมื่อกี้คุยกับตร.แค่ 2-3 นาที กับผู้ใหญ่คนหนึ่ง ขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อ เมื่อกี้นี้เอง มีการเอาภาพจากกูเกิ้ลมาอธิบายให้เข้าใจง่าย มันมีข้อจำกัดทางกฎหมาย ที่ไม่สามารถไปนำภาพการผ่าชันสูตรศพมาเผยแพร่ได้ ใครเอามาเผยแพร่ก็ผิดกฎหมายหมด เขาไม่เอาภาพศพมาเลย เห็นมั้ย ส่วนการพิสูจน์ความผิดผู้ต้องหา มันอยู่ในสำนวนหมดแล้ว พวกนี้ไม่มีผลกระทบต่อรูปคดี เป็นลักษณะเอาภาพมา เหมือนผู้บรรยาย อย่างผมเป็นผู้บรรยายกฎหมายก็เอาภาพมาประกอบบรรยายให้เขาเข้าใจได้ ว่าลักษณะบาดแผลเป็นแบบนี้ แค่นั้นครับ

ถ้าบ่ายสามตร.แถลงแล้วอ่อนไป พี่ศรีจะไปปปช.เลยนะ?

เดชา : ก็ไปสิครับ มีเวลาว่างก็ไป ร้องได้ก็ร้องไป ศรีสุวรรณก็มีหน้าที่ ร้องได้ก็ร้องไป ถ้าร้องเท็จ ตร.ก็สวนกลับแค่นั้น ศรีสุวรรณ ก็โดนเสรีพิศุทธิ์สวนกลับมาแล้วนี่ ต่างคนก็ต่างใช้สิทธิ์ไป ผมไม่ได้ห้ามปรามอะไรคุณศรีสุวรรณ ก็ใช้ไป ถ้าเล่นผม ผมก็เล่นกลับ แค่นั้นเอง จุ๊กกรู๊ !

ชีวิตพี่จะเป็นนกเขาไม่ได้นะ?

เดชา : ตามสบายเลยทั้งสองท่าน ถ้าคิดว่าไม่ผิดสู้ไปเลย

ศรีสุวรรณ : ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับคนประเภทนี้ แต่เมื่อกี้เหมือนเขาอธิบายแทนตร. ซึ่งไม่ใช่หน้าที่เขาต้องมาอธิบายแทนตร. เขาเป็นทนายผู้เสียหาย

แต๊งค์ : ผมก็ไม่กลัวนะ ผมติดคุกหรือเสียค่าปรับยังไง ผมออกมาก็ยังมีพื้นที่ในสังคมให้ทำงานต่อ แต่คนบางคนระวังไม่มีพื้นที่ให้ทำงานต่อ

หลายคนอาจมองว่าต่อสายหาเขาทำไม มันจำเป็นต้องให้เขาโทรเข้ามาเคลียร์กัน ไม่งั้นเดี๋ยวเขากลับไปเล่นงานเราได้อีก?

แต๊งค์ : ดีแล้วพี่ อย่างน้อยเขาเป็นทนายผู้เสียหาย และมีเรื่องแผลเข้ามาอีก อยากเห็นแอ็กชั่นของเขาเหมือนกัน เขาตอบไปในทางของตร.อยู่แล้ว

แต๊งค์สู้เต็มที่?

แต๊งค์ : เรื่องคดีที่เขาฟ้องผม ผมชิล ผมมีวุฒิภาวะมากพอที่จะไม่ต้องมาท้าทายหรือข่มขู่กันไปมา มันดูเป็นเด็กไปหน่อย ตรงนี้ผมคิดว่าผมแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตใจ เราเห็นว่าคดีออกมาเป็นแบบนี้ และเขาเป็นแบบนี้ เรารู้สึกว่าเขาเป็นทนายควรรักษาผลประโยชน์ให้ลูกความ แล้วมันเหมือนเขาไม่มีประโยชน์อะไรเลย ตอนนี้ก็เห็นได้อยู่ว่าสังคมในโซเชียลหรือกระแสคนตอบรับเขาก็เห็นอยู่ อนาคตเขาจะรักษาอาชีพไว้ได้ยังไง

พี่ศรีมองเรื่องนี้ยังไง?

ศรีสุวรรณ : ถ้าเราสดับรับฟังทนายคนนี้มาโดยตลอด เขาออกมไลฟ์สด  ให้สัมภาษณ์ วิพากษ์วิจารณ์คดีนี้อย่างเอาเป็นเอาตาย อย่างเมามัน หลายคนชื่นชมยินดีว่าเขาพูดดี แต่พอเข้ามาเป็นทนายรับผิดชอบคดีแทนทนายกฤษณะเท่านั้นแหละ ทุกอย่างกลับตรงข้ามกับสิ่งที่เขาพูดมาเลย หลายคนก็ตั้งข้อสังเกต ผมก็ติดตามห่างๆ ไม่ได้ติดใจเท่าไหร่หรอก แต่พอหลังๆ ผมก็เอ๊ะ เขาเป็นทนายผู้เสียหายจริงหรือเปล่า ทำไมไม่ตั้งข้อสังเกต หรือแม้แต่มีคนอื่นเข้ามาช่วย อย่างคุณหญิงพรทิพย์ ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งนั้น จะทำให้น้ำหนักคดีแสวงหาข้อมูลข้อเท็จจริง มาช่วย แต่กลับไปเหมือนปฏิเสธ วิพากษ์วิจารณ์เขา ไม่อยากให้เขามายุ่งในคดี มันก็ผิดปกติ อย่างนี้เป็นต้น พอมีประเด็นเกี่ยวพันหน่อย อย่างน้อยคุณแตงโมเขาเป็นบุคคลสาธารณะ เสียชีวิตไปแล้ว อย่างน้อยก็ทำความจริงให้ปรากฏให้ได้ เราเป็นนักกฎหมายก็ต้องทำให้เต็มที่ เมื่อเข้ามาเป็นทนายผู้เสียหายก็ต้องทำเต็มที่ ไม่ใช่ตร.พูดอะไร ใช่แล้วครับ ถูกต้องแล้วครับ แล้วเขาจะมาจ้างให้เป็นทนายผู้เสียหายทำไม ไม่ต้องมีทนายก็ได้ แล้วเห็นบอกจะแจ้งความ โอ้โห ผมได้ยินเวลาถ่ายทอดในโซเชียลมีเดีย พูดไปได้เนอะ ไม่รับกระเช้า เข้าคุกอย่างเดียว คดีนี้ไม่มีอะไรเลย โทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสน ถ้าไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน สมมติว่าผิดจริงนะ อย่างมากก็แค่รอลงอาญา แล้วจะไปเข้าคุกอะไร เขาจะพูดว่าเข้าคุกอย่างเดียวเหมือนข่มขู่กัน

เขาพูดมารู้สึกยังไง?

ศรีสุวรรณ : ไม่มีอะไรเลย ผมบอกเลยว่าผมไม่เคยให้ค่ากับคนประเภทนี้ ไม่อยู่ในสายตา ผมช่วยทำคดีชาวบ้านมา ไม่รู้กฎหมายเสียเมื่อไหร่ คนด่าผมว่าหิวแสง มันยิ่งกว่าผมอีก คนทั่วไปนะ

คุณสมบัติของทนายขยะ ขาดข้อใดข้อหนึ่งก็ไม่ใช่ ชอบด่าคนอื่นหิวแสง แต่ตนเองยิ่งกว่า หมายถึงอะไร?

ศรีสุวรรณ : ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง ทำนองนั้น

ชอบไลฟ์สดอวดเก่งว่าแน่กว่าทนายคนอื่น คืออะไร?

ศรีสุวรรณ : ส่วนใหญ่ออกมาเหมือนเป็นทะแน คดีนี้ต้องอย่างนั้นอย่างนี้

ชอบแย่งคดีทนายคนอื่นมาทำอย่างไม่ละอาย?

ศรีสุวรรณ : เวลาผมรับคดีมาทำ ผมจะถามเลยว่ามีใครทำคดีอยู่หรือยัง เราจะไม่ไปยุ่งเรื่องนี้ เพราะต้องให้เกียรติเพื่อนทนายด้วยกัน และมันเป็นเรื่องผิดมรรยาททนายอย่างแรง

ชอบตอบคำถามข้างๆ คูๆ เถียงคำไม่ตกฟาก?

ศรีสุวรรณ : พี่เคยสัมภาษณ์เขา เห็นมั้ย เคยหยุดนิ่งมั้ย แต่เขาคือใครไม่รู้

ชอบอ้างรู้จักตร.คนใหญ่คนโตไปทั่ว?

ศรีสุวรรณ : โอ้ย ผมรู้จักคนนั้นคนนี้

แต๊งค์ : (หัวเราะ)

ศรีสุวรรณ : เราจะรู้จักใคร เราไม่ต้องไปอวดหรอก ผมเองมายืน ณ จุดนี้ก็รู้จักคนทั้งแผ่นดิน แต่ไม่จำเป็น บางเรื่องไปบอกว่ารู้จักใคร จะทำให้คู่ต่อสู้หรือคนรู้จักเรา ลดความน่าไว้วางใจไปได้

ชอบเถียงไม่แคร์ เพราะมีเอฟซีเยอะเวลาถูกทัวร์ลง?

ศรีสุวรรณ : ก็เห็นชอบพูดแบบนั้นเวลาทัวร์ลง ผมไม่แคร์หรอก ผมมีสมาชิกเป็นแสนเป็นล้าน

ชอบร้องจุ๊กกรู๊ๆ เป็นเนืองนิตย์?

ศรีสุวรรณ : คำว่าจุ๊กกรู๊ พี่อัจฉริยะมาออกรายการเมื่อวานก็บอกแล้ว มีทนายคนหนึ่งที่ประสบอุบัติเหตุบนทางด่วน ก็พูดเรื่องจุ๊กกรู๊ ไม่ใช่เป็นของใครคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ จะมาอ้างว่าเป็นของใครคนใดคนหนึ่งก็ไม่ใช่ ศรีสุวรรณก็ร้องได้ จุ๊กกรู๊ๆ

ถ้าเขาบอกว่าเป็นเขาเอง เขาเลยไปแจ้งความ โดนมั้ย?

ศรีสุวรรณ :   เขาก็ร้อนตัวไปเอง ไม่ได้พูดถึงใคร

คำว่าทนวย จาก น. จริงๆ พี่อยากเขียนเป็น ค. หรือเปล่า?

ศรีสุวรรณ : พี่ก็อย่าไปตีความอะไรที่กว้างขนาดนั้น กินปูนร้อนท้อง เห็นมั้ยล่ะ

พี่เกิดผล สองคนนี้โดนแจ้งความ ดูแล้วเข้ามั้ย?

เกิดผล : ติดอยู่คำเดียว ทนายขยะไม่เคยมีคำจำกัดความ ไม่เคยมีแนวทางคำพิพากษา แต่มุมมองผม ทนายขยะ ผมมองว่าไม่เข้าหมิ่นประมาท อย่างมากก็ดูหมิ่น

ทำไมไม่เข้า?

เกิดผล : คำว่าหมิ่นประมาท ต้องใส่ความว่าคนนั้นเป็นคนเลว ชั่วช้าสามานย์ยังไง ทำให้คนอื่นถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง ถูกรังเกียจ เป็นลักษณะเขาเป็นคนชั่ว ส่วนคำว่าขยะไม่มีคำจำกัดความ ขยะที่มีประโยชน์ นำไปรีไซเคิลก็ทำได้ ขยะที่ทำปุ๋ยก็มี มันไม่มีคำจำกัดความจริงๆ เรื่องนี้มองว่าเป็นการพาดพิงว่าไอ้ขยะ หรือสวะ ก็เป็นเรื่องไม่เหมาะสม แต่ผมว่าไม่เป็นเรื่องการใส่ความว่าเขาเป็นคนเลว คนชั่ว หรือคนไม่ดี

ถ้าดูคำจำกัดความของคำว่าขยะ?

แต๊งค์ : มีกฎหมายข้อนึง ถ้าเราไปด่าเขาว่าไอ้เปรต หรือไอ้ผีห่าซาตาน ซึ่งคนเราไม่สามารถเป็นได้ มันก็ไม่เข้าข้อกฎหมายหมิ่นประมาท มันจะเข้าดูหมิ่น ซึ่งดูหมิ่นจะมีโทษปรับ 1 หมื่น จำคุกไม่เกิน 1 เดือน สุดท้ายก็เหลือปรับหลักพัน ประมาณนี้

มุมพี่คิดเหมือนกันมั้ย ถ้ามองว่าขยะเป็นสิ่งสกปรกได้มั้ย หรือทนายขยะ ทนายที่เขาไม่เอาแล้ว?

เกิดผล : มันไม่ได้อยู่ที่คนฟังคนนั้นนะ สมมติเวลาศาลวินิจฉัย ศาลจะใช้วิญญูชน คนทั่วไปที่อยู่ในสภาวะเดียวกับคนๆ นั้น ได้ฟังคำนี้แล้วเขารู้สึกยังไง ไม่ใช่เอาจากความรู้สึกคนผิดหวัง คนอ่อนแอ คนเสียใจ คนเฮิร์ต คนเสียอารมณ์อยู่ ไปเปรียบเทียบ ถ้าคนทั่วไปฟังว่าขยะคือไม่มีประโยชน์ คุณค่าต่ำ ก็เป็นแค่คำดูหมิ่นซึ่งหน้า หรือดูหมิ่นด้วยการโฆษณา ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ในมุมมองผมไม่เข้าหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา แต่ถ้าจะผิด ก็อาจเป็นการลดคุณค่าของคนลง เช่นคำด่าว่าไอ้เหี้- ไอ้สั-ว์ ไม่สามารถเป็นเหี้- สั-ว์ ด้วยสภาพของมันได้ เพราะคนไม่เป็นเหี้- ไม่เป็นสั-ว์ ไม่เป็นขยะ ไม่เข้าหมิ่นประมาท แต่เป็นการลดคุณค่าของคนลง

สมมติคนด่าว่าไอ้หนุ่ม ไอ้ช้างลาก คำนี้ล่ะ?

เกิดผล : ก็ต้องไปตีความหมาย แต่ก็เคยมีคำพิพากษาคำหยาบคายแบบนี้เหมือนกัน แต่นั่นทำให้เห็นว่าคนนั้นถูกประณาม เหยียดหยามเหมือนคนสำส่อน แต่อันนี้ไม่ไปไกลถึงขนาดนั้น ไม่เหมือนโสเภณีที่ตีความได้เลยว่าหมายถึงอะไร

เรื่องนี้มุมพี่ มองว่าคำว่าทนายขยะยังไม่เข้า?

เกิดผล : ยังไม่เข้าหมิ่นประมาท อย่างมากแค่ดูหมิ่นซึ่งหน้า เป็นคำหยาบคายเท่านั้นเอง

ถ้าโดนจริงๆ โทษก็ไม่หนัก?

เกิดผล : โทษไม่มีอะไรเลย ผมมองว่าลหุโทษด้วยซ้ำ สมมติถ้าตร.มองเป็นลหุโทษ ก็เปรียบเทียบไป ห้าร้อย พันนึง ก็จบ

ศรีสุวรรณ : มันไม่เข้าอยู่แล้ว ผมเป็นนักฎหมาย เวลาพูดหรือประดิษฐ์คำอะไรต้องดูซ้ายขวาดูหน้าดูหลัง เขียนไปไม่ได้ระบุชื่อซะหน่อย กินปูนร้อนท้องไปได้

แต๊งค์บอกว่าต่อให้วันนึงมีเรื่องคดีความหมิ่นประมาท แต่ก็มีที่ยืนในสังคม แต่อีกมุมอาจไม่มีก็ได้?

แต๊งค์ : เราออกมาพูดก็เพื่อประโยชน์ต่อรูปคดี แต่เราไม่ได้มีอำนาจที่จะเข้าไปเกี่ยวกับคดี ตรงนี้เราออกมาวิพากษ์วิจารณ์บริสุทธิ์ใจจริงๆ เราอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น อยากช่วยคุณแม่คุณแตงโมให้ได้รับความเป็นธรรม

ศรีสุวรรณ : งานนี้มันสะท้อนถึงกระบวนการยุติธรรมของประเทศเลยนะ ไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง เรื่องคดีคุณแตงโม ส่วนคดีผมกับแต๊งค์ ทนายที่รักไปแจ้งความทำไม ถ้าคุณคิดว่าคุณแน่จริง คุณเก่งกฎหมาย ทำไมไม่ร่างฟ้องแล้วไปยื่นฟ้องเอง ทำไมไปทำภาระให้เกิดกับตร.ที่สน.รัตนาธิเบศร์ทำไม ไปแจ้งความตร.เขาก็เป็นภาระ เอาคดีพวกนี้ไปให้ตร.ทำ คุณเป็นทนายอยู่แล้วก็ไปฟ้องเอง ถ้าศาลยกฟ้องเมื่อไหร่ ผมจะได้ฟ้องกลับในทันทีไง แบบนี้ไม่แน่จริงนี่หว่า

แต๊งค์ : จริงๆ เรื่องนี้เป็นแค่น้ำจิ้ม เราควรกลับไปโฟกัสที่ตัวคดี เรื่องคดีของผมกับทนายเด สื่อไม่ต้องโฟกัสก็ได้ เดี๋ยวผมอัปเดตเอง ไปโฟกัสที่คดีแตงโมดีกว่า

ศรีสุวรรณ : จะเรียกว่าเสือ-ก็แล้วแต่ แต่เราในฐานะคนไทย ต้องแสวงหาความยุติธรรมให้สังคม

โซเชียลบอกว่าวันนี้รักพี่ศรี ให้อภัย 200 เปอร์เซ็นต์?

ศรีสุวรรณ : ศรีสุวรรณ ก็คือศรีสุวรรณ ผมทำหน้าที่ของผมแบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว ก็ขอบคุณเอฟซี ขอบคุณทุกท่าน ที่อาจเคยตำหนิติเตียนมาก่อนหน้านี้ ก็ไม่เป็นไร ไม่ว่ากัน ผมรับได้อยู่แล้ว แต่อย่างน้อยถ้าเราแสวงหาความจริงร่วมกัน อยู่ภายใต้กฎหมายร่วมกัน ผมก็ยินดีรับใช้ทุกคนตลอดไป

อัลบั้มภาพ 16 ภาพ

อัลบั้มภาพ 16 ภาพ ของ "แต๊งค์-พี่ศรี" แลกหมัด "ทนายเดชา" ฟาดกันแรง! ปากดี ระวังไม่มีพื้นที่ให้ทำงาน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook