"ชัยวุฒิ" ไม่ยอม! เรียกร้องบอร์ดยาสูบฯ ทบทวนมติแบนบุหรี่ไฟฟ้า แนะเปิดเสรีนำเข้า

"ชัยวุฒิ" ไม่ยอม! เรียกร้องบอร์ดยาสูบฯ ทบทวนมติแบนบุหรี่ไฟฟ้า แนะเปิดเสรีนำเข้า

"ชัยวุฒิ" ไม่ยอม! เรียกร้องบอร์ดยาสูบฯ ทบทวนมติแบนบุหรี่ไฟฟ้า แนะเปิดเสรีนำเข้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“ชัยวุฒิ” รมว.ดีอีเอส ส่งหนังสือถึงคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ (คผยช.) เรียกร้องทบทวนมติแบนบุหรี่ไฟฟ้า เผยไม่สอดคล้องกับบริบทปัญหา แนะเปิดนำเข้าเสรี เก็บภาษีให้ถูกกฏหมาย สกัดเส้นทางการลักลอบขายออนไลน์

วันนี้ (29 เม.ย.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า จากที่คณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติในการประชุมเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้มีมติห้ามนำเข้าและขายบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบในประเทศไทย ซึ่งจริงๆ ก็มีกฎหมายห้ามอยู่แล้ว ขณะนี้คณะกรรมการก็มีมติแบนบุหรี่ไฟฟ้า ห้ามนำเข้าห้ามจำหน่ายในประเทศด้วยเหตุผลที่ป้องกันไม่ให้เยาวชนหรือพี่น้องประชาชนเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งทางกระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคมได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด พร้อมกับมีหน้าที่ในการส่งเสริมให้ประชาชนได้ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และดิจิทัลในการใช้ชีวิต ในการทำธุรกิจ และพบว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการขายออนไลน์จำนวนมาก

กระทรวงดีอีเอสได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ปัญหาการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ พบว่ามีการใช้อย่างแพร่หลายมากเพราะประชาชนจำนวนหนึ่งมีความเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่มวนหรือบุหรี่จริง และมีผลการศึกษาจากต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ในยุโรปหลายประเทศ รวมทั้งประเทศที่เจริญแล้วกว่า 70 ประเทศ ศึกษาและยอมรับให้มีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในประเทศนั้นได้ ซึ่งก็กลายเป็นสร้างปัญหา สร้างเงื่อนไขที่ทำให้การลักลอบการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านระบบออนไลน์อย่างแพร่หลาย ซึ่งกระทรวงฯ ก็ไม่สามารถปิดกั้นได้ มีการลักลอบ มีการเรียกร้องเงินใต้โต๊ะเป็นผลประโยชน์มหาศาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หากทำให้ถูกกฎหมายและเก็บภาษีให้ถูกต้อง

นี่จึงเป็นประเด็นแรกที่ รมว.ดิจิทัลฯ ได้ทำหนังสือคัดค้านไป

อีกประเด็นก็คือ นายชัยวุฒิ ระบุว่า ตนคิดว่าคณะกรรมการยาสูบแบนบุหรี่ไฟฟ้าโดยอาจไม่ได้ฟังความเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องหรือข้อมูลทางวิชาการเป็นมติที่ไม่ชอบ ควรจะมีการศึกษาอย่างรอบด้าน รับฟังความเห็นของผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย นำข้อมูลวิชาการของประเทศที่เปิดให้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าได้ เอามาร่วมพิจารณาด้วยในการศึกษา หากห้าม 100% คงไม่ใช่ทางออกของบริบทในสังคม แล้วก็ทำให้ประชาชนที่อยากจะมีทางเลือกในการใช้บุหรี่ไฟฟ้า ที่มีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน ก็ไปจำกัดสิทธิของประชาชนกลุ่มดังกล่าวด้วย

เพราะวันนี้หลายประเทศยอมรับแล้วว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่จริง มีสารพิษน้อยกว่า ซึ่งอันนี้จะไปจำกัดสิทธิ จำกัดทางเลือกของพี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถหยุดสูบบุหรี่ได้ แล้วที่สำคัญจะไปอ้างว่าป้องกันเยาวชนและคนรุ่นใหม่เข้ามาสุบบุหรี่ คิดว่าไม่ถูกต้อง เพราะปัจจุบันเยาวชนคนรุ่นใหม่ ถ้าอยากสูบบุหรี่ก็ไปซื้อบุหรี่จริงอยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่ได้ห้ามอะไรอยู่ดี จริงๆ ควรจะทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกต้องและก็เข้าไปอยู่ในระบบอยู่ในเกณฑ์เดียวกับบุหรี่จริง มีการควบคุมการโฆษณา ห้ามโฆษณา ห้ามจำหน่ายออนไลน์ อาจจะดีกว่าการที่ผลักให้ไปอยู่ใต้ดินที่ผิดกฎหมายและก็ลักลอบขายออนไลน์กันทั่วไปในปัจจุบัน

ซึ่งอันนี้ระบบของเราไม่สามารถปิดกั้นหรือเทกดาวน์ได้ทั้งหมด วิธีเดียวที่ดีที่สุดก็คือ รับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้อง เปิดโอกาสให้บุหรี่ไฟฟ้าได้เข้ามามีความส่วนแสดงความคิดเห็นให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับคณะกรรมการ หาทางออกร่วมกันที่ทำให้บุหรี่ไฟฟ้าสามารถมีที่ยืนในสังคมไทย เพื่อภาครัฐจะได้ควบคุมและใช้ประโยชน์ ดีกว่าไปผลักไปสร้างปัญหาอื่นๆ ตามมา

ดังนั้น จึงได้ทำหนังสือไปถึงคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ เพื่อให้ทบทวนมติการห้ามจำหน่าย และห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมด

“จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในปี 2564 พบว่า ประเทศไทยมีผู้บริโภคยาสูบกว่า 10 ล้านคน และมากกว่าร้อยละ 52 ไม่มีความคิดที่จะเลิกบุหรี่ ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็ควรที่จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นกลางเรื่องผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการบริโภค และสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ เด็กและเยาวชนก็ควรได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์สำหรับพวกเขา” นายชัยวุฒิ กล่าว

พร้อมทั้งเสนอแนะเพิ่มเติมว่า ควรมีกฎหมายที่กำหนดอายุขั้นต่ำในการซื้อขาย และกฎหมายที่ควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ยาสูบอื่นๆ เพื่อให้ผู้บริโภคที่ยังไม่มีความคิดจะเลิกบริโภคยาสูบสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์เหล่านี้ และอาจลดปริมาณสารพิษที่เกิดขึ้นในอากาศ รวมทั้งบุหรี่ไฟฟ้าจะมีมาตรฐานที่ควบคุมได้เช่นเดียวกันกับประเทศอื่นทั่วโลก

นอกจากนี้ นโยบายการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าที่เหมาะสม จำเป็นต้องพิจารณาผลประโยชน์ในภาพรวม ได้แก่ ประโยชน์ที่ผู้สูบบุหรี่จะเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่อันตรายน้อยกว่า ประโยชน์ในการปกป้องผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ รวมไปถึงการป้องกันการเข้าถึงของเด็กและเยาวชน และประโยชน์ของผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ ที่ไม่ต้องรับสารพิษต่างๆ จากการเผาไหม้

นายชัยวุฒิ กล่าวย้ำว่า การพิจารณานโยบายเรื่องการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเหมาะสมกับบริบทและความเป็นจริง ซึ่งตั้งอยู่บนหลักฐานการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งนวัตกรรมสมัยใหม่ มีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยลดอันตรายในด้านสุขภาพให้กับผู้บริโภคยาสูบ และประชาชนโดยทั่วไป ขณะเดียวกันก็ยังสามารถปกป้องคุ้มครองเยาวชนไม่ให้เข้าถึงสินค้าเหล่านี้ด้วยเช่นกัน

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ "ชัยวุฒิ" ไม่ยอม! เรียกร้องบอร์ดยาสูบฯ ทบทวนมติแบนบุหรี่ไฟฟ้า แนะเปิดเสรีนำเข้า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook