เจ้าอาวาสวัดจุฬามณี ปัดเส้นใหญ่ จ่ายเงินผู้ว่าฯ เดือนละ 2 ล้าน ค่าอำนวยความสะดวก

เจ้าอาวาสวัดจุฬามณี ปัดเส้นใหญ่ จ่ายเงินให้ผู้ว่าฯ เดือนละ 2 ล้าน ค่าอำนวยความสะดวก เตรียมเปิดวัดให้คนมากราบไหว้ 14 พฤษภาคมนี้

จากกรณีที่มีข่าวลือว่า วัดจุฬามณี ต้องจ่ายเงินให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามเดือนละ 2 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าอำนวยความสะดวกนั้น ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบพระครูโสภิตวิริยาภรณ์ หรือ อาจารย์อิฐฏ์ เจ้าอาวาสวัดจุฬามณี เพื่อสอบถามถึงข่าวลือดังกล่าว ซึ่งเจ้าอาวาสจุฬามณีได้พาผู้สื่อข่าวเดินดูสถานที่ก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์สำหรับอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่กำลังก่อสร้างไปแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จกลางเดือนพฤษภาคมนี้ และจะเปิดวัดให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดรวมทั้งท้าวเวสสุวรรณโณ ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้

พระครูโสภิตวิริยาภรณ์ กล่าวว่า ข่าวลือว่าวัดจุฬามณีต้องจ่ายเงินให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามเดือนละ 2 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าอำนวยความสะดวกนั้น ไม่เป็นความจริง ไม่เคยต้องจ่ายเงินให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือแม้แต่หน่วยงานต่างๆ แต่อย่างใด มีแต่ส่วนราชการจะเข้ามาอำนวยความสะดวก และสอบถามถึงความจำเป็นต้องใช้ที่ราชการสามารถสนับสนุนได้ นอกจากนี้การเงินในวัดจะต้องมีกรรมการเป็นพระสงฆ์ 2 รูป คือ เจ้าอาวาส 1 รูป พระสงฆ์ 1 รูป และไวยาวัจกรอีก 3 คน เป็นผู้ดูแล จะเบิกจ่ายแต่ละครั้งต้องเซ็นพร้อมกันเท่านั้น

ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีกระแสข่าวที่วัดจุฬามณีเส้นใหญ่ ไม่ยอมปิดวัด ปล่อยให้มีประชาชนหลายหมื่นคนเข้ามาไหว้ท้าวเวสสุวรรณ หวั่นเกรงว่าจะเกิดคลัสเตอร์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 นั้น เรื่องนี้ทางวัดยืนยันว่าไม่มีเส้นสายใดๆ แต่อาศัยคุณธรรมและการกระทำที่ผ่านมา เป็นเครื่องการันตรีความโปร่งใส ซึ่งที่จริงแล้วทางวัดต้องการเปิดวัด เพราะสงสารชาวบ้านที่ทำมาหากิน อาตมาเกิดที่อัมพวา รู้จักบุญคุณของชาวอัมพวาที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก จึงต้องการที่จะตอบแทนคุณแผ่นดิน ในช่วงเปิดวัดจึงได้ให้ชาวบ้านในพื้นที่มาขายของในวัดฟรีไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่มีข้อแม้ว่าญาติพี่น้องเจ้าอาวาสห้ามเข้ามาขายของในวัด เดี๋ยวจะหาว่าญาติวัดมาทำมาหากินในวัดนี้

เมื่อมีประชาชนเดินทางมาเยอะ ทำให้เศรษฐกิจดีทั้งทางตรง คือ ชาวบ้านที่มาค้าขายทั้งในวัดที่เต็มพิกัด และบริเวณรอบๆ วัดไปจนถึงริมถนนต่างๆ ค้าขายได้ดีขึ้นมีรายได้เพิ่มมากขึ้น รวมไปทั้งทางอ้อม คือ โรงแรม รีสอร์ต ที่พักต่างๆ ก็มีนักท่องเที่ยวมาจองพักกันจำนวนมาก อีกทั้งแหล่งผลิตสินค้าต่างๆ ก็ได้ผลพลอยมีรายได้จากการขายสินค้าให้กับผู้ค้ามาขายที่วัดจุฬามณีเพิ่มมากขึ้นด้วย

นอกจากนี้ยังขอให้ผู้ที่จะมาแก้บนเปลี่ยนจากประทัดเป็นข้าวสาร เพื่อทางวัดจะได้นำไปแจกจ่ายผู้ที่จำเป็น ล่าสุดถวายเจ้าคณะภาค 15 ไป 10 ตัน มอบให้โรงเรียนต่างๆ และผู้ยากไร้ทั้งในและนอกจังหวัดสมุทรสงครามด้วย

อย่างไรก็ตามส่วยสาเหตุที่ปิดวัดจุฬามณีนั้น ก็เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 รุนแรงมาก วัดจึงประกาศปิดวัดวันที่ 8 กุมภาพันธ์ และ เปิดวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ขณะนั้นมีการระบาดรุนแรงขึ้น ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมรองผู้ว่าฯ และนายอำเภออัมพวา เข้ามาหารือ ประกอบกับช่วงนั้นเมรุเก่าที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าท้าวเวสสุวรรณโณ กำลังจะพัง จึงเห็นตรงกันให้ปิดวัดจุฬามณีตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เพื่อรื้อเมรุเก่าป้องกันปล่องเมรุพังลงมาเป็นอันตรายกับประชาชนที่เข้าวัดจุฬามณีวันละหลายหมื่นคน

นอกจากนี้ยังบริหารจัดการภายในวัด เช่น กำจัดขยะวันละ 5 ตัน เคลียร์พื้นที่ต่างๆ รื้อเมรุทำเป็นลานเอนกประสงค์ และ สร้างอาคารเอนกประสงค์ อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะเสร็จเร็วๆ นี้ และทางวัดจะเปิดวัดให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดรวมทั้งท้าวเวสสุวรรณโณ ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้