“ธุรกิจให้เช่าสินสอด” บริการรักษาหน้า ในวันวิวาห์ของทุกคน

“ธุรกิจให้เช่าสินสอด” บริการรักษาหน้า ในวันวิวาห์ของทุกคน

“ธุรกิจให้เช่าสินสอด” บริการรักษาหน้า ในวันวิวาห์ของทุกคน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Highlight 

  • การจัดงานแต่งงานต้องใช้เงินเยอะ ทำให้บ่าวสาวหลายคู่อาจไม่เหลือเงินสำหรับนำมาวางเป็นเงินสินสอด ดังนั้น ธุรกิจให้เช่าสินสอดจึงเข้ามาแก้ปัญหานี้ 
  • ธุรกิจให้เช่าสินสอดสามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการเงินและทรัพย์สินจำนวนมากมาวางโชว์ในงานแต่งงานของตัวเอง เพื่อรักษาหน้าตาของพ่อแม่และสร้างความสบายใจให้กับทุกฝ่าย
  • จำเป็นต้องมีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรทุกครั้งที่มีการเช่าสินสอด และสิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือ บ่าวสาวและครอบครัวจำเป็นต้องรับรู้ร่วมกัน 
  • ธุรกิจให้เช่าสินสอด ไม่ได้มีแค่บริการให้เช่าเงินทองสำหรับวางในงานแต่งงานเท่านั้น แต่ยังมีบริการให้เช่าคนไปร่วมงาน ทั้งเพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว หรือพ่อแม่ สำหรับเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวที่ไม่ได้มีพร้อม 

เมื่อพูดถึงงานแต่งงานแบบไทย สิ่งที่มักจะผุดขึ้นมาพร้อมกันก็คือ “การให้สินสอด” ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่มีอิทธิพลต่อสังคมไทยมาอย่างยาวนาน แม้ว่าปัจจุบันการให้สินสอดกับฝั่งผู้ใหญ่ของเจ้าสาวจะไม่ใช่ส่วนประกอบหลักของการเริ่มต้นชีวิตคู่ แต่บ่าวสาวหลายคู่ก็ยังต้องหาสินทรัพย์เงินทองมาวางโชว์ในงานแต่งของตัวเองอยู่ดี นั่นจึงเป็นจุดเรื่มต้นของ “ธุรกิจให้เช่าสินสอด” ธุรกิจแนวใหม่ที่ช่วยกำจัดคำครหาจากป้าข้างบ้าน และสร้างความสบายใจให้กับทุกฝ่ายในงานแต่งงาน ทำไมธุรกิจให้เช่าสินสอดจึงได้รับความนิยมในปัจจุบัน Sanook คุยกับ “ข้างกาย เอรีนาสกุล” เจ้าของบริษัทโรแมนทีส ผู้ให้บริการเช่าสินสอดรายแรกของประเทศไทย 

จุดเริ่มต้นธุรกิจให้เช่าสินสอด

จุดเริ่มต้นของธุรกิจให้เช่าสินสอดของข้างกาย มาจากลูกพี่ลูกน้องที่กำลังจะแต่งงาน และต้องการยืมเงินของเธอไปวางโชว์เป็นสินสอด หลังจากคิดอยู่สักพัก เธอก็ตกลงที่จะให้ยืมเงินห้าแสนบาท เพื่อให้งานแต่งงานของลูกพี่ลูกน้องผ่านไปได้อย่างราบรื่น 

“เราจะไปงานเขาอยู่แล้ว ก็เลยเอาเงินห้าแสนไปให้เขา แค่เอาไปโชว์แค่นั้นเอง พอเสร็จพิธีก็เอากลับไปเก็บ เงินก็ไม่ได้หายไปไหน เราก็เลยคิดว่ามันทำเป็นธุรกิจได้นี่นา ทุกอย่างเช่าซื้อหมด ดอกไม้ อาหาร ชุดเจ้าสาว ชุดเจ้าบ่าว วงดนตรี ทุกอย่างจ่ายเงินหมด แล้วทำไมจะเช่าทองเช่าเงินไม่ได้” ข้างกายเล่า

หลังจากงานแต่งของลูกพี่ลูกน้อง ข้างกายจึงเล็งเห็นช่องทางทำเงินจากการให้คู่บ่าวสาวมาเช่าสินสอดเพื่อนำไปวางโชว์ในงานแต่งงาน แม้คนรอบตัวจะไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจโพสต์ข้อความโฒษณาให้เช่าสินสอดลงในโซเชียลมีเดีย โดยไม่คิดว่าจะได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากกลับมา และกลายมาเป็น “บริษัทโรแมนทีส ให้เช่าสินสอดวันแต่งงานโดยคุณข้างกาย” ซึ่งถือเป็นผู้ให้เช่าสินสอดเจ้าแรกในประเทศไทย 

“ตอนนั้นทำโดยไม่รู้เลยว่าจะกระแสตอบรับจะเป็นยังไง เพราะแค่ลองดู แต่กลับกลายเป็นว่ามันเป็นที่ต้องการของตลาดในตอนนั้น แล้วแค่ชั่วข้ามคืน เราก็มีลูกค้าเลย แต่บอกเลยว่าลูกค้ารายแรก เรากลัวมาก เพราะไม่รู้ว่าเป็นลูกค้าจริงไหม จะหลอกเอาเงินไหม หรือจะหลอกเราไปฆ่าหรือเปล่า เพราะเดี๋ยวนี้เงินห้าร้อยเงินพันก็ฆ่ากันแล้ว อันนี้พูดถึงเงินหลายแสนเป็นล้าน แต่ลูกค้าเขาก็กลัวนะ ต่างคนต่างกลัวกัน เขาก็กลัวเราจะไม่ไปงานเขา เราก็กลัวเขาจะปล้นเรา แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดี” ข้างกายเล่าประสบการณ์ลูกค้าคนแรกให้เราฟัง 

จากเช่าสินสอดสู่เช่าคนไปร่วมงาน 

“มันมีอยู่งานหนึ่ง เขาขอเช่าเงินเราไปห้าแสน หน้าที่ของเราก็คือเอาเงินไปให้เขาที่งาน ที่กลับกลายเป็นว่าในงานแต่งนั้น เป็นฝ่ายเจ้าสาวหมดเลย เขาจัดกันที่หมู่บ้านเจ้าสาว แต่เจ้าบ่าวมาจากไหนไม่รู้ ไม่มีญาติด้วย ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ไม่มีใครเลยสักคน เขาก็ยกมือไหว้ขอให้เราเป็นญาติผู้ใหญ่ให้เขาหน่อย เราที่เอาเงินไปให้ก็จบที่ต้องเป็นญาติเขา อวยพรและสู่ขอเจ้าสาวให้กับเขา” ข้างกายเล่าที่มาที่ไปของบริการให้เช่า “คนไปร่วมงานแต่งงาน” ของบริษัทโรแมนทีส

ข้างกายระบุว่า เจ้าบ่าวเจ้าสาวบางคนก็ไม่ได้มีพร้อม พ่อแม่ของพวกเขาอาจจะจากไปแล้ว ไม่มีญาติผู้ใหญ่ อยู่ตัวคนเดียว หรือบางทีก็อาจจะเป็น “บ้านน้อย” ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง ซึ่งเธอเข้าใจว่าทุกคนล้วนแล้วแต่มีเหตุผลของตัวเอง และบริษัทโรแมนทีสก็จะไม่ถามหาเหตุผลจากลูกค้า แต่สิ่งสำคัญก็คือเจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องรับรู้ร่วมกัน 

เรามีเงิน มีทอง มีบุคลากรที่จะมาเช่าไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว พ่อแม่ อย่างที่บอกไป ก็หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น เราก็เปิดให้เช่าหมดเลย” ข้างกายชี้ 

รักษาความปลอดภัยให้สินสอด 

เรื่องสำคัญของการทำธุรกิจให้เช่าสินสอด คือการรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินที่นำไปให้คู่บ่าวสาวเช่า ซึ่งบริษัทโรแมนทีสก็มีข้อตกลงในการให้เช่าที่รัดกุดและปกป้องเงินของตัวเองอย่างเป็นระบบ โดยเริ่มต้นจากการทำสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร เขียนชัดเจนว่าเช่าเงินเท่าไร วันไหน และต้องคืนเมื่อไร รวมถึงสิ่งสำคัญที่สุดคือเจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องรับรู้ร่วมกัน ทำให้บริษัทโรแมนทีสไม่เคยเจอปัญหาโดนโกงหรือถูกเชิดเงินจากลูกค้าเลย 

“ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจแห่งความลับ เราไม่สามารถเอาภาพของลูกค้า ข้อมูลของลูกค้ามาโพสต์ได้ว่า ขอขอบคุณลูกค้าท่านนี้มาก ๆ ที่มาใช้บริการของเรา เราเอาภาพของเขามาโพสต์ไม่ได้ ดังนั้น ธุรกิจนี้จะรีวิวไม่ได้ ด้วยความที่เราขาดรีวิวตรงนี้ เราก็จะบอกว่า ถ้าผิดขั้นตอน ไม่ทำตามข้อตกลง เราจะเอาภาพมาใช้ในการโฆษณา ภาพในงานว่าคุณมาเช่าเงินฉัน เช่าเงินเท่านี้นะ ขอบคุณลูกค้ามาก แต่ก็ยังเป็นหนี้อยู่ ด้วยความที่ลูกค้าก็กลัวความอับอาย มันก็เลยไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น” เธออธิบาย 

ธุรกิจที่ช่วยแก้ปัญหาให้งานแต่ง 

“เราเกิดเป็นคนไทย เราเข้าใจว่า “เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้” แล้วพ่อแม่เราจะแคร์ป้าข้างบ้านมาก เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะยังไง เราก็อย่าทำให้เขาเสียหน้า ด้วยความที่เราเป็นลูกสาวเขา คนที่จะแต่งเข้ามาก็ต้องให้เกียรติทางบ้านเราด้วย เพราะเราจะถูกประณามมากเลย ถ้าป้าข้างบ้านไม่พอใจกับสินสอดที่เราได้ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่เกี่ยวอะไรด้วย มันคือการรักษาหน้าตา เพื่อให้ทุกคนรอบตัวสบายใจ”​ ข้างกายสะท้อน 

การจัดงานแต่งงานจำเป็นต้องใช้เงินไปกับการจัดการ ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ดอกไม้ วงดนตรี ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว หรือแม้แต่พรีเว็ดดิ้ง ซึ่งข้างกายมองว่า สำหรับมนุษย์เงินเดือนทั่วไป การจัดงานแต่งงานก็แทบจะละลายเงินเก็บของพวกเขาไปเกือบหมดแล้ว ดังนั้น ธุรกิจให้เช่าสินสอดจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่บ่าวสาวจะสามารถมาใช้บริการ และนำเงินไปวางในงานแต่งงานเพื่อรักษาหน้าตาของคนในครอบครัว 

“ถึงแม้มันจะเป็นธรรมเนียมของไทย แต่ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้ทางพ่อแม่เรา เขาก็หัวสมัยใหม่ขึ้นมา แล้วเขารู้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องเอาเงินจากลูก เขาไม่จำเป็นต้องให้ลูกไปเป็นหนี้ เริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยการเป็นหนี้มันก็ไม่ดีอยู่แล้ว ในเมื่อเขาไม่มี อย่างน้อยได้มีเงินมาโชว์ให้ไม่มีคำนินทา แค่นั้นก็พอ เงินเดี๋ยวนี้ไม่ได้หาง่าย ๆ แล้วการวางเงินสินสอดไม่ได้วางกันน้อย ๆ ก็ต้องวางหลักแสนหลักล้าน ถ้าวางน้อยกว่านี้ก็จะโดนนินนา เยอะไม่ว่า แต่น้อยไม่ได้” ข้างกายสรุป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook