สืบ1ล่อซื้อจับแก๊งค้ายาไอซ์ชาวอิหร่าน
สืบ 1 ล่อซื้อยาไอซ์ 1 กก.เกือบ2ล้านบาท จากแก๊งชาวอิหร่าน นัดส่งของโรงแรมย่านมักกะสัน ถึงเวลานัดหมายแก๊งค้ายาไหวตัวทัน เทยาไอซ์ทิ้งชักโครกทำลายหลักฐาน ตำรวจรวบทันควัน 3 ราย สารภาพส่งขายลูกค้าย่านพัทยา กทม.
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 17 ธันวาคม พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบก.น.1 พ.ต.ท.ศุภกฤช เดือนแจ้งรัมย์ รองผบก.น.3 ช่วยราชการ ผกก.สส.บก.น.1 หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.1 แถลงผลจับกุม นายบิสฮอล หรือ จอน กูรุล (MR.BISHAL GURUNG) อายุ 28 ปี สัญชาติเนปาล อาชีพไกด์นำเที่ยว อยู่ในประเทศไทยมา 8 ปีแล้ว นายฮาหมัด ซานกานิสบิ๊กฮาส (MR.AHMAD ZANGANESBIGHASH) อายุ 25 ปี สัญชาติอิหร่าน และนายฮาบาส โรฮานิสซาฟา (MR.ABASS ROHANISAFA) อายุ 38 ปี สัญชาติอิหร่าน พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 4 ถุงรวมน้ำหนัก 1 กก. แต่ยาไอซ์จำนวนดังกล่าวผู้ต้องหาได้เทลงชักโครกภายในห้อง 342 ชั้น 3 โรงแรมปริ้น เลขที่ 1537/1 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. ขณะชุดจับกุมเข้าชาร์จตัวผู้ต้องหา
นอกจากนี้ยังมีเงินของกลางที่ใช้ล่อซื้อจำนวน 1600,000 บาท เงินสกุลต่างประเทศดอลล่าสหรัฐ เงินริกกิตมาเลเซีย เงินรียาร์ดของอิหร่านของผู้ต้องหา รวมกับเงินของกลางที่ล่อซื้อทั้งหมดกว่า 2 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวให้ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ดำเนินคดีขยายผลต่อไป
พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากชุดปราบปรามยาเสพติดบก.น.1 รับแจ้งจากสายลับว่ามีแก๊งค้ายาไอซ์ชาวอิหร่าน ลักลอบจำหน่ายยาไอซ์ในพื้นที่มานานแล้วจึงได้วางผนทำการล่อซื้อ โดยตกลงที่จะซื้อยาไอซ์ 3 กก. แต่ตอนแรกยังตกลงกันไม่ได้ กระทั่งมีนายบิสฮอล เข้ามาติดต่อกับสายลับจนสามารถตกลงราคาซื้อขายกันได้จำนวน 3 กก.ราคา 4800,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้แฝงตัวเข้าไปพักในโรงแรมช่วงกลางดึกวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่นัดหมายส่งของ โดยนัดหมายส่งของกลางภายในเวลา 15.00 น.วันนี้ (17 ธ.ค.) แต่การล่อซื้อได้คลาดเคลื่อนไปจากเวลาเดิม เนื่องจากแก๊งค้ายาต้องการทดลองขายให้กับผู้ซื้อรายใหม่เพียง 1 กก.เท่านั้นในราคา 1600,000 บาท
พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวอีกว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดล่อซื้อได้เปิดห้องพักเลขที่ 434 แล้ววางกำลังชุดจับกุมและชุดสนับสนุนหลายสิบคนไว้ในโรงแรมดังกล่าว และเปิดห้องพักเพิ่มอีก 3 ห้องเพื่อเฝ้าติดตามพฤติกรรมคนร้าย โดยให้ชุดจับกุมปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่รปภ. และเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดของโรงแรม เมื่อถึงเวลานัดหมายที่ตกลงกันไว้เวลาประมาณ 19.00 น.วันนี้ (17 ธ.ค.) โดยให้ไปรับของที่ห้อง 342 ชั้น 3 ของโรงแรมได้เพียง 2 คนเท่านั้น แต่กลุ่มผู้ค้ายาไหวตัวทัน เนื่องจากสังเกตเห็นกลุ่มเจ้าหน้าที่มาเกิน 2 คน จึงได้เตรียมพร้อมโดยแบ่งหน้าที่ให้นายบิสฮอล เป็นคนรับเงินที่มาล่อซื้อ ส่วนนายฮาบาส เตรียมยาไอซ์ ไว้ที่ชักโครก เมื่อตำรวจจู่โจมเข้าจับกุมนายฮาบาส ก็รีบเทยาไอซ์ 1 กก.ลงชักโครกแล้วกดน้ำทำลายหลักฐานทันที ทำให้ของกลางที่ล่อซื้อเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนใหญ่ละลายไปกับน้ำ เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมผู้ต้อหา 3 คนมาดำเนินคดี
พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าส่วนใหญ่ก็จะนำยาไอซ์ไปขายให้กับกลุ่มผู้ค้ารายใหญ่ในไทย ที่อยู่พัทยา และกทม. โดยจะต้องสั่งซื้อล๊อตใหญ่ไม่ต่ำกว่า 1 กก. ซึ่งทำมาหลายครั้งแล้วโดยมีหัวหน้าแก๊งเป็นชาวปากีสถาน เป็นคนสั่งการ ส่วนยาไอซ์ ที่ตำรวจล่อซื้อรับมาจากเพื่อนที่พัทยา อีกทอด อย่างไรก็ตามยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา โดยเชื่อว่าเครือข่ายชาวอิหร่านน่าจะมีเครือข่ายใหญ่ลักลอบขนยาไอซ์ เข้ามาในไทยหลายสิบกิโลกรัม ซึ่งจะทำการสอบสวนขยายผลต่อไป