ตำรวจทางหลวงตีนโหด โดดถีบสาวสองแฟนของลูกชายเจ็บซ้ำ หลังลูกเตะดั้งหัก
สาวประเภทสองเข้าแจ้งความ หลังถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกาย-ปามือถือพัง แถมถูกพ่อฝ่ายชายที่เป็นตำรวจทางหลวงกระโดดถีบซ้ำ
จากกรณีเฟซบุ๊กแฟนเพจ เจ๊ม้อย v+ ได้โพสต์คลิปวิดีโอและแชร์ข้อความว่า "#อ้างตำรวจทางหลวงเข้ามาทำร้าย กระโดดถีบมา ส่วนแฟนหนุ่มเตะยอดหน้าจนจมูกเสียรูป ผู้ชายไม่ควรทำร้ายผู้หญิงไม่ว่ากรณีใดๆ ควรออกมาชี้แจ้งให้สังคมรู้ถึงข้อเท็จจริงด้วยค่ะ #เชียงใหม่
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ หนูได้ไปเที่ยวสังสรรค์ที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งกับเพื่อนจนร้านปิด แล้วมีสายเรียกเข้าทางโทรศัพท์ให้ไปรับ "แฟน" อยู่ที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง (แถวสันติธรรม) และได้ไปเจอ "ผู้ชายอยู่กับผู้หญิงคนอื่น" จนมีปากเสียงและทะเลาะกันเนื่องจากผู้ชายเมาแต่มีพลเมืองดีห้ามไว้
จนเรื่องผ่านไป หนูกับแฟนได้ขับรถกลับมาที่หอพักและตลอดนั้น ทางหนูได้ถามถึงสาเหตุที่แฟนแอบมาเที่ยวแล้วไม่ได้บอก จนเมาขาดสติและด้วยความที่แฟนเมาและไม่ยอมพูดอะไรเลย หนูใจร้อนตีแฟนไป 1 ที จนทำให้แฟนอาจจะหงุดหงิด เลยมาทำร้ายร่างกายหนู เตะเข้าไปตรงบริเวณใบหน้า จนเลือดออกและหนูก็ได้มีการป้องกันตัว และสู้คืนแล้วก็ยังมาทำลายทรัพย์สินโทรศัพท์มือถือ จนพังเสียหาย
พอทะเลาะกันเสร็จ หนูมีการเรียกร้องให้ชดใช้และรับผิดชอบในส่วนที่ทำลายทรัพย์สิน แล้วแฟนก็ได้แนะนำให้โทรหาพ่อของแฟนซึ่งเป็นตำรวจ ให้พ่อมาคุยและไกลเกลี่ย ต่อมาพ่อได้มารอที่หน้า ม.ราชภัฎ หนูได้ซ้อนท้ายรถแฟนไปหาพ่อของแฟน
พอไปถึงเจอหน้าพ่อ หนูได้บอกพ่อแฟนว่า #พ่อคะ ลูกพ่อทำลายข้าวของของหนู หนูขอไกล่เกลี่ยได้ไหมคะ ถ้าไม่ได้ไปเคลียร์ที่โรงพักก็ได้ค่ะ #หลังจากนั้นพ่อของแฟนได้มาทำร้ายหนูตามในคลิปเลยค่ะ และมีการข่มขู่ฆ่า ทำให้หนูขวัญเสียสะเทือนใจกับเหตุการณ์นี้มากค่ะ และที่หนูออกมาพูดครั้งนี้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมและมาเตือนสติคนหลายๆ คน ที่ได้ดูคลิปนี้ขอบคุณค่ะ"
ซึ่งในคลิปภาพจะเป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดมีการทำร้ายร่างกายกัน ลักษณะของคลิปช่วงแรกเป็นคลิปที่ลักษณะของชายหญิงทะเลาะกันสองคนมีการลงไม้ลงมือกัน ส่วนช่วงท้ายจะเป็นอีกแห่งที่มีชายสองคนขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา ก่อนที่จะมีชายคนหนึ่งถีบผู้เสียหายจนล้มกลิ้งไปกับพื้น
ล่าสุด วานนี้ (4 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ว่า ได้เกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น. มี นายธีรพัฒน์ ผู้เสียหาย ได้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค. เวลาประมาณ 01.26 น. เหตุเกิด ณ หอพักแห่งหนึ่ง ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ถูกนายพรหมนิทิตย์ อายุ 19 ปี ซึ่งได้คบหากับผู้เสียหายเป็นแฟนกันประมาณ 7 เดือน ทำร้ายร่างกาย สาเหตุมาจากเรื่องหึงหวงส่วนตัว
โดยในระหว่างทะเลาะกัน นายพรหมนิทิตย์ได้มีการเขวี้ยงโทรศัพท์ iPhone 12 Pro Max ราคาประมาณ 40,000 ของผู้เสียหาย เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย หลังจากที่เกิดเหตุนายพรหมนิทิตย์ได้โทรบอก นายอุทิตย์ ผู้เป็นพ่อ อายุ 46 ปี รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าเป็นตำรวจทางหลวง เพื่อจะมาชดใช้ให้ค่าโทรศัพท์
ต่อมาวันที่ 3 พ.ค. เวลาประมาณ 01.40 น. ณ หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายพรหมนิทิตย์และนายอุทิตย์ ผู้เป็นพ่อ ได้เดินทางมาพบผู้เสียหาย จากนั้นได้มีการเจรจาค่าเสียหาย แต่พอผู้เสียหายได้แจ้งกับนายอุทิตย์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น นายอุทิตย์กลับไม่รับฟัง และได้กระโดดถีบผู้เสียหาย และขู่ต่างๆ นานา
จากนั้นผู้เสียหายได้มาพบตำรวจ และมาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน พร้อมกับตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลลานนา และเมื่อวันที่ 4 พ.ค. พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำ ผู้เสียหายเพิ่มเติม ทำการออกหมายเรียกนายพรหมนิทิตย์และนายอุทิตย์ และรอผลการชันสูตรบาดแผลจากแพทย์ เพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้งสอง ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
จากการสอบปากคำของตำรวจยังทราบอีกว่า ผู้เสียหายนั้นได้ไปตามหานายพรหมนิทิตย์ ซึ่งเป็นแฟน ที่ไปเที่ยวสถานบันเทิงและเกิดการหึงหวงกัน จากนั้นก็ได้กลับมาเคลียร์กันและมีการทำร้ายสาวประเภทสอง และขว้างโทรศัพท์ไอโฟนเสียหาย
และผู้ต้องหาได้โทรศัพท์บอกพ่อกับแม่ให้มาหา อ้างว่าพ่อจะมาจ่ายค่าเสียหาย เมื่อผู้เป็นพ่อมาถึงก็ถีบสาวประเภทสองจนตกรถจักรยานยนต์ และพาลูกกลับทันที กระทั่งตำรวจสายตรวจมาพบและนำมาแจ้งความและส่ง รพ.
พ.ต.อ.กิตตพิงษ์ ได้เปิดเผยว่า คดีนี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไร หลักฐานชัดเจน และได้ออกหมายเรียกไปแล้ว คาดว่าในวันที่ 5 พ.ค. นี้ ผู้ต้องหาจะมาพบกับพนักงานสอบสวน
นอกจากนี้ ทางตำรวจ สภ.ช้างเผือก ยังได้ประสานไปยังผู้บังคับบัญชาของตำรวจทางหลวงอีกทางหนึ่ง เพื่อแจ้งให้กับตำรวจทางหลวงที่ถีบสาวประเภทสองมาพบพนักงานสอบสวนด้วย ทางพนักงานสอบสวนรอผลแพทย์อย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป