สุดฉาว! บุกทลายขบวนการค้ากามเด็ก พบนักการเมือง-ครู-หมอ-ทหาร ใช้บริการอื้อ

สุดฉาว! บุกทลายขบวนการค้ากามเด็ก พบนักการเมือง-ครู-หมอ-ทหาร ใช้บริการอื้อ

สุดฉาว! บุกทลายขบวนการค้ากามเด็ก พบนักการเมือง-ครู-หมอ-ทหาร ใช้บริการอื้อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"บิ๊กโจ๊ก" นำทีมขยายผลจับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์บังคับค้าประเวณีเด็ก พร้อมจับกุมแม่เล้าและผู้ใช้บริการเพิ่ม 12 ราย พบเจ้าหน้าที่รัฐระดับรองอธิบดีและครูพี่เลี้ยงพยายามเกลี้ยกล่อมพยานให้ช่วยเหลือผู้ต้องหาด้วย

จากกรณีที่เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศพดส.ตร. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และ สภ.ขุนทะเล ได้ร่วมกันจับกุมดำเนินคดีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ามนุษย์ซึ่งนำเด็กมาแสวงหาประโยชน์ทางเพศจำนวน 5 ราย และยังสามารถดำเนินคดีกับผู้ใช้บริการอีก 11 ราย รวมทั้งสิ้น 16 ราย ซึ่งคดีดังกล่าวพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลแล้ว แต่อาจยังมีผู้เสียหายที่ถูกบังคับค้าประเวณีเพิ่มเติมอีก นั้น

ในการนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศพดส.ตร., พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร., พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.๘/ผอ.ศพดส.ภ.8, พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8/รอง ผอ.ศพดส.ภ.8, พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8, พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ให้ดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายเพิ่มเติม และจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเร่งด่วน

จากกรณีดังกล่าว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และ สภ.ขุนทะเล พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ พม. และ NGO ร่วมกันบูรณาการข้อมูลจนสามารถช่วยเหลือเหยื่อเครือข่ายค้ามนุษย์ที่ถูกบังคับค้าประเวณีได้เพิ่มอีก 3 ราย ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลเหยื่อร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพแล้ว ได้นำข้อมูลดังกล่าวไปขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับเครือข่ายค้ามนุษย์เพิ่มเติมได้อีก 5 ราย และยังสามารถดำเนินคดีกับผู้ใช้บริการทางเพศอีก 13 ราย รวมทั้งสิ้น 18 ราย จึงได้ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นคำร้องขอหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวทั้งหมด เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี

ต่อมา เมื่อวานนี้ (4 พ.ค. 65) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศพดส.ตร. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และ สภ.ขุนทะเล เข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวได้ทั้งหมด 10 ราย อายัดเรือนจำ 2 ราย ยังคงติดตามตัวอีก 6 ราย โดยผู้ต้องหาที่มีอายุมากสุด อายุ 79 ปี มีตำแหน่งเป็นประธานสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งหนึ่งใน จ.สุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ ยังมีรองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ในพื้นที่ อ.พุนพิน, ข้าราชการครู, นายแพทย์ ทหาร และลูกอดีตนักการเมือง

โดยในส่วนของผู้ร่วมเครือข่ายค้ามนุษย์จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน

  • ร่วมกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ในการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี โดยกระทำแก่บุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี
  • ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี แม้ผู้นั้นจะไม่ยินยอมก็ตาม
  • โดยทุจริตร่วมกันรับไว้ เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไป ซึ่งบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
  • ร่วมกันพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร
  • ร่วมกันเป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม

โดยมีอัตราโทษสูงสุดจำคุกตั้งแต่ 8 ปีถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 8 แสนบาทถึง 2 ล้านบาท

และผู้ใช้บริการทางเพศจะถูกดำเนินคดีฐาน

  • กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
  • กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
  • พรากหรือร่วมกันพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร
  • พาหรือร่วมกันพาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม
  • ร่วมกันชักจูง ส่งเสริม ยินยอม หรือกระทำด้วยประการใดให้เด็กกระทำผิดและกระทำชำเราเพื่อสำเร็จความใคร่ของตนเองหรือผู้อื่นแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ในสถานการค้าประเวณี

ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ จากการสืบสวนพบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐและครูพี่เลี้ยงภายในบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี พยายามแทรกแซงการดำเนินการตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งยังพยายามข่มขู่พยานเพื่อไม่ให้มีการให้ข้อมูลในการขยายผลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทราบต่อมาว่า คือ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ ตําแหน่ง พี่เลี้ยง และรองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่พยายามแทรกแซงกระบวนการดังกล่าวในฐานความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ข่มขืนใจ เจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่ หรือให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย และ ขัดขวางการสืบสวน สอบสวน การฟ้องร้อง หรือการดำเนินคดีความผิดฐานค้ามนุษย์ เพื่อมิให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย" ตามกฎหมายโดยเด็ดขาด

ทั้งนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า "ในคดีดังกล่าว ยังคงมีผู้เสียหายที่ถูกบังคับค้าประเวณีเพิ่มอีก ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการขยายผลดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งตัวเครือข่ายบังคับค้าประเวณี และตัวผู้ใช้บริการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือเจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือเหยื่อเพื่อให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ เพื่อเป็นการลดปัญหาการนำเด็กและเยาวชนมาบังคับค้าประเวณีให้หมดไปจากสังคม"

ปลัด พม. สั่งกรมกิจการเด็กฯ รายงานข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด

วันนี้ (5 พ.ค.) นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เปิดเผยว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมผู้ต้องหาซื้อบริการทางเพศเยาวชนหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ในพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี  โดยได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา 10 ราย อีกทั้งมีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี และผู้บริหารกระทรวง พม. รวม 2 ราย ในความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ข่มขืนใจ เจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่ หรือให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กาลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย และขัดขวางการสืบสวน สอบสวน การฟ้องร้อง หรือการดำเนินคดีความผิดฐานค้ามนุษย์ เพื่อมิให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย" นั้น

ในเบื้องต้น ตนได้ทราบข่าวดังกล่าวตามที่ปรากฏผ่านสื่อต่างๆ และได้สั่งการให้กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ซึ่งดูแลบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี รายงานข้อเท็จจริงมาโดยเร็วที่สุด เพื่อที่กระทรวง พม. จะได้พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยละเอียด เพื่อให้เกิดความถูกต้อง ชัดเจน และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ ของ สุดฉาว! บุกทลายขบวนการค้ากามเด็ก พบนักการเมือง-ครู-หมอ-ทหาร ใช้บริการอื้อ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook