เข็ดกับเผด็จการ 8 ปีพาบ้านเมืองพัง! จอนนี่ ขอพิสูจน์ตัวเองฟื้นประชาธิปไตย

เข็ดกับเผด็จการ 8 ปีพาบ้านเมืองพัง! จอนนี่ ขอพิสูจน์ตัวเองฟื้นประชาธิปไตย

เข็ดกับเผด็จการ 8 ปีพาบ้านเมืองพัง! จอนนี่ ขอพิสูจน์ตัวเองฟื้นประชาธิปไตย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากพรรคไทยสร้างไทย เปิดตัว "จอนนี่ แอนโฟเน่" นักแสดง มาร่วมงานการเมืองในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตมีนบุรี-คันนายาว มีหลายกระแสถามถึงจุดยืนทางการเมืองของเขา เพราะช่วงปี 2557 ก็เคยมีภาพจอนนี่ไปร่วมชุมนุม กปปส. และตอนนี้มาสวมเสื้อพรรคที่ประกกาศต่อต้านรัฐประหารและเผด็จการ

จอนนี่ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับทีมข่าว Sanook News ว่าในช่วงนั้น เขาได้ออกไปใช้สิทธิของประชาชนในการร่วมชุมนุมเพื่อคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เมื่อร่างกฎหมายฉบับนี้ตกไป ก็ไม่ได้ไปร่วม Shut Down กรุงเทพฯ เพื่อคัดค้านการเลือกตั้งแต่อย่างใด ตรงกันข้าม ตลอด 7-8 ปีมานี้ กลับได้เรียนรู้และเห็นความจริงแล้วว่าการยึดอำนาจรัฐประหารไม่ใช่ทางออกของประเทศ ประชาธิปไตยที่ประชาชนมีส่วนร่วมเท่านั้น ที่จะเป็นทางรอดของประเทศอย่างแท้จริง

เขาเปิดเผยว่า เมื่อก่อนมองว่าการเมืองเป็นสิ่งที่ไกลตัว เราไม่ชอบการเมืองเพราะที่ผ่านมา นักการเมืองที่เห็นส่วนใหญ่ไม่ได้ "ทำงานการเมือง" แต่ "เล่นการเมือง" เราเป็นคนตรงไปตรงมา ถ้าต้องมาอยู่ในวงการนี้อาจไม่ใช่ที่ของเรา แต่ปัจจัยต่างๆ ที่บีบเข้ามาจนมีการรัฐประหารยึดอำนาจ ตามมาด้วยผู้มีอำนาจ "เล่นการเมือง" จนบ้านเมืองเละเทะ จนรู้สึกว่าบ้านเมืองไปต่อไม่ได้ ประกอบกับตัวเองก็มีลูกอยู่ 3 คน รู้สึกว่าแล้วเราจะทิ้งประเทศแบบนี้ไว้ให้ลูกเหรอ? เราจะแก่ตายอยู่ในประเทศแบบนี้เหรอ? ก็เลยตระหนักได้ว่าการเมืองไม่ใช่เรื่องไกลตัว ถ้าเราปล่อยไว้แบบนี้ ไม่เข้ามาทำอะไรสักอย่าง เราอยากได้ประเทศที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี และอยู่ในประเทศที่เราภูมิใจ คนรุ่นใหม่ไม่อยากอยู่ในประเทศไทย เพราะเขาไม่มีความภูมิใจ เราต่างรู้กันว่าอะไรที่ไม่ดี อะไรที่ทำให้เด็กไม่ภูมิใจ มันจึงถึงเวลาแล้วที่ต้องเข้ามา "ทำงานการเมือง" เพื่อพัฒนาประเทศเพื่อให้กลับมาเป็นความภูมิใจของประชาชนอีกครั้ง

แต่สาเหตุที่เลือกมาอยู่พรรคไทยสร้างไทย เพราะว่าหลายพรรคการเมืองมักจะมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่ไม่ซ้ายก็ขวา แล้วก็นำมาซึ่งความขัดแย้ง บ้านเมืองไปต่อไม่ได้ แต่ด้วยความที่ตัวเองรู้จักกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย มาหลายปี มีโอกาสได้พูดคุยถึงปัญหาของประชาชน และพบปะกับสมาชิกพรรคที่มีหลากหลายสี เปรียบเหมือนประเทศไทยขนาดย่อยที่ไม่ได้มีแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่อยู่กันด้วยความหลากหลายความคิด วัย และอาชีพ แต่หาจุดร่วมอยู่ด้วยกันได้ ทำงานเพื่อบ้านเมืองด้วยกันได้ ตัวเองก็เคยได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมืองกับคนรุ่นใหม่ๆ ในพรรค ทำให้เห็นว่าประเทศไทยควรมีพื้นที่ให้คนที่มาจากต่างสีได้นั่งคุยกัน ทำความเข้าใจกัน แล้วสุดท้ายก็ได้เจอจุดร่วม ว่าทำไมเราคิดแบบนี้ ทำไมเขาคิดแบบนั้น สุดท้ายมันตกผลึกมาเป็นนโยบายและทิศทางของพรรคที่มาทำงานร่วมกัน เหมือนสัญลักษณ์ของพรรคที่มีเรขาคณิตหลากหลายสีในโลโก้เดียวกัน

อย่างไรก็ตาม การแสดงจุดยืนต่อต้านรัฐประหาร ไม่ใช่เพียงแค่คำพูด แต่จอนนี่ต้องการพิสูจน์ตัวเองด้วยการลงมาทำงานการเมือง ซึ่งหลังจากได้ลงพื้นที่ทำงานมาแล้วประมาณ 3-4 เดือน ยิ่งได้เห็นถึงความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสของพี่น้องประชาชน จึงมีความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นเศรษฐกิจด้วยนโยบาย Creative Economy ของพรรคไทยสร้างไทย ที่จะใช้ Soft Power ทำเศรษฐกิจสร้างสรรค์และสร้างรายได้ให้กับคนไทย เช่น ศิลปะ วัฒนธรรม หนัง ละคร ภาพยนตร์ ศิลปิน เพลง รวมถึงอาหารไทย ให้กลายเป็นสินค้าส่งออก ด้วยการใช้ประสบการณ์ในวงการบันเทิงตลอด 36 ปีมาดำเนินนโยบายนี้ให้เกิดขึ้นได้จริง โดยเริ่มจาก กทม. เป็นเมืองต้นแบบ ภายใต้การบริหารงานของ น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่า กทม. หมายเลข 11 และการสนับสนุนของพรรคไทยสร้างไทย

"ตลอดเวลา 7-8 ปีได้พิสูจน์แล้วว่าการยึดอำนาจและรัฐประหาร ไปไม่ได้ เศรษฐกิจ การพัฒนา และความสงบเกิดขึ้นไม่ได้จริงตามที่เขาพูดเอาไว้ มุมมองความคิดทางการเมืองของผมตกผลึกแล้วว่าประชาธิปไตยเท่านั้นที่จะพาบ้านเมืองไปสู่การพัฒนาได้ ผมจึงกระโดดเข้ามาร่วมทีมกับพรรคไทยสร้างไทยและพัฒนาประชาธิปไตยเต็มใบไปด้วยกัน" จอนนี่ กล่าว

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ เข็ดกับเผด็จการ 8 ปีพาบ้านเมืองพัง! จอนนี่ ขอพิสูจน์ตัวเองฟื้นประชาธิปไตย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook