สาวเพิ่งสึกจากบวชชี กระหน่ำแทงพ่ออดีตสามีดับ ฉุนโดนด่าที่เอาลูกติดมาฝากเลี้ยง

สาวเพิ่งสึกจากบวชชี กระหน่ำแทงพ่ออดีตสามีดับ ฉุนโดนด่าที่เอาลูกติดมาฝากเลี้ยง

สาวเพิ่งสึกจากบวชชี กระหน่ำแทงพ่ออดีตสามีดับ ฉุนโดนด่าที่เอาลูกติดมาฝากเลี้ยง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวเพิ่งสึกจากบวชชี กระหน่ำแทงพ่ออดีตสามีดับ ฉุนโดนด่าที่เอาลูกติดมาฝากเลี้ยง หลังก่อเหตุหนีไปพร้อมผัวใหม่ที่เพิ่งสึกจากบวชพระ

(5 พ.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.00 น.วานนี้ ร.ต.อ.แสวง สังข์ทอง พนักงานสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร สถานีย่อยวังชมภู สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุคนใช้อาวุธมีดทำร้ายกัน ที่ริมถนนหน้าบ้านเลขที่ 15 หมู่ 12 ต.นายม อ.เมืองเพชรบูรณ์ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บ 1 ราย จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และอาสามูลนิธิร่มโพธิ์เพชรบูรณ์

ที่เกิดเหตุเป็นถนนในหมู่บ้าน พบผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นางจำรัส อายุ 71 ปี ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ติดกับจุดเกิดเหตุ ถูกของมีคมแทงเข้าที่บริเวณซี่โครงซ้าย จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และที่ริมถนนพบร่างของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือ นายประเสริฐ อายุ 71 ปี สามีของผู้บาดเจ็บ ถูกแทงที่บริเวณหน้าอกหลายแผล และที่ท้ายทอยมีแผลฉกรรจ์คล้ายถูกกระแทกกับของแข็ง จึงได้นำศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ส่วนผู้ก่อเหตุคือ น.ส.วิพา อายุ 47 ปี และ นายแสวง อายุ 45 ปี สองสามีภรรยา หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบรุ่นและยี่ห้อหลบหนีไป

นายอดุล อายุ 54 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ผู้ที่ก่อเหตุคือ น.ส.วิพา และ นายแสวง สองสามีภรรยา โดย น.ส.วิพา เป็นอดีตลูกสะใภ้ของนางจำรัส ซึ่งก่อนที่จะมาได้ลูกชายของนางจำรัสเป็นสามี น.ส.วิพา มีลูกติดมาด้วย 1 คน ชื่อนายหนึ่ง ปัจจุบันอายุ 29 ปี แต่มีปัญหาด้านสมอง มีอาการเบลอ ซึ่งก็ไม่ทราบว่ามาจากสาเหตุอะไร

ต่อมาลูกชายนางจำรัส ที่เป็นสามี น.ส.วิพา ได้เสียชีวิตลง น.ส.วิพา ได้ไปมีสามีอีกหลายคน แต่ต่อมาได้บวชเป็นแม่ชี เพื่อรักษาอาการป่วยตามความเชื่อ และได้รู้จักกับนายแสวง ซึ่งขณะนั้นนายแสวงซึ่งเป็นชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้บวชเป็นพระ และได้เดินทางมาจำวัดอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และเมื่อพบกับ น.ส.วิพา จึงได้สึกมาอยู่กินกับ น.ส.วิพา ที่บ้านของ น.ส.วิพา ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.นายม แต่ไม่ทราบว่า น.ส.วิพา ได้สึกจากการเป็นแม่ชีแล้วหรือยัง แต่ยังคงนุ่งห่มผ้าสีน้ำตาลเข้มอยู่

โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อ 3 วันก่อน น.ส.วิพา และนายแสวง ซึ่งอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง ได้นำนายหนึ่งมาฝากให้นางจำรัส อดีตแม่สามีเป็นคนเลี้ยง จึงทำให้นางจำรัสและนายประเสริฐ ไม่พอใจ ต่อว่าไปหลายคำ เพราะนายหนึ่งกินจุกจิกกาแฟวันละ 4 - 5 ซอง อาหารการกินต่างๆ ก็กินเยอะ  ทำให้สองสามีภรรยาไม่พอใจ แต่ น.ส.วิพา ก็ขับรถจักรยานยนต์กลับไป ทิ้งลูกชายไว้ให้นางจำรัสกับนายประเสริฐเลี้ยง กระทั่งเช้าวันเกิดเหตุนายใหญ่ เมืองนา ลูกชายของนางจำรัส ได้ขับรถนำตัวนายหนึ่งไปส่งที่บ้านของ น.ส.วิพา ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 20 กิโลเมตร

กระทั่งช่วงค่ำ น.ส.วิพา กับนายแสวง ได้ขี่รถจักรยานยนต์นำนายหนึ่งกลับมาส่ง พร้อมกับมีการโต้เถียงกับนางจำรัสและนายประเสริฐ มีการท้าทายกัน นายประเสริฐจึงเดินออกจากบ้านตรงไปหาสองผัวเมีย โดยไม่ทันได้ระวังตัว น.ส.วิพาจึงได้ใช้มีดปลายแหลมที่ใช้แกะสลักผลไม้ยาวประมาณ 1 คืบ แทงเข้าไปที่หน้าอกของนายประเสริฐ จนนายประเสริฐล้มลง ท้ายทอยกระแทกพื้นถนน นางวิพาจึงได้กระโดดขึ้นคร่อมจากนั้นได้ใช้มีดจ้วงแทงบริเวณหน้าอกหลายครั้ง นางจำรัสเห็นดังนั้นจึงวิ่งเข้าไปช่วย แต่ก็ถูก น.ส.วิพา แทงเข้าที่บริเวณหน้าท้อง จนได้รับบาดเจ็บ จึงได้ร้องเรียกให้เพื่อนบ้านออกมาช่วย ส่วนสองสามีภรรยาที่ก่อเหตุ ได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เร่งติดตามตัว แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้

นายใหญ่ อายุ 45 ปี ลูกชายของนางจำรัสผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าของวันเกิดเหตุ ตนจะกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ จึงได้ถามนายหนึ่งว่าจะกลับไปหาแม่คือ น.ส.วิพา หรือไม่ ซึ่งนายหนึ่งก็บอกว่าอยากกลับ ตนจึงให้นายหนึ่งนั่งรถติดไปด้วยเพื่อไปส่งบ้าน เสร็จแล้วตนก็เลยเข้ากรุงเทพฯ กระทั่งช่วงค่ำแม่ได้โทรมาบอกตนเองว่า พ่อถูก น.ส.วิพา และสามี รุมแทงจนเสียชีวิต ตนจึงรีบกลับมาที่บ้านอีกครั้ง

สำหรับอาการของนางจำรัส ที่ถูกแทงเข้าที่หน้าท้องปลายมีดไปถูกลำไส้ใหญ่เป็นแผลยาวประมาณ 2 ซม. แพทย์ได้ทำการผ่าตัดและเย็บลำไส้ใหญ่ให้แล้ว ขณะนี้อาการปลอดภัย หากไม่มีอาการแทรกซ้อนอาจจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันพรุ่งนี้ ส่วนศพของนายประเสริฐ นาคบุญ แพทย์ได้ผ่าพิสูจน์เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook