ร้านดอกไม้ปลดแล้ว ป้ายไม่สนับสนุนชาวพุทธร่วมเพศกับพระ เผยผู้ใหญ่ไม่อนุญาต

ร้านดอกไม้ปลดแล้ว ป้ายไม่สนับสนุนชาวพุทธร่วมเพศกับพระ เผยผู้ใหญ่ไม่อนุญาต

ร้านดอกไม้ปลดแล้ว ป้ายไม่สนับสนุนชาวพุทธร่วมเพศกับพระ เผยผู้ใหญ่ไม่อนุญาต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ร้านดอกไม้ขึ้นป้ายต่อต้านชาวพุทธมีเซ็กซ์กับพระ หลังเสพข่าวอดีตพระกาโตะกับสีกาตองแล้วหดหู่ ล่าสุดต้องปลดป้าย เพราะผู้ใหญ่ขอร้อง

กรณีโลกโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพร้านขายดอกไม้แห่งหนึ่ง ใน อ.ร่อนพิบูลย์ มีการติดป้ายหน้าร้าน พร้อมระบุข้อความ "ร้านพะยอมดอกไม้สด ไม่ขอสนับสนุนให้พุทธศาสนิกชน เย็xกับพระ บาป" จนมีการแชร์ต่อพร้อมแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบเจ้าของร้าน นายอริสมันต์ สิทธิดำรง อายุ 50 ปี ร้านพะยอมดอกไม้สด ชาวบ้านหมู่ 5 ต.ควนเกย อ.ร่อนพิบูลย์ เผยว่า ตนติดตามข่าวฉาวของอดีตพระกาโตะ และสีกาตองอย่างต่อเนื่อง กระทั่งทั้งอดีตพระและสีกาตองออกมายอมรับผิด ตนยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความหดหู่ใจเป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกหดหู่มากขึ้น เพราะมีภาพคลิปปรากฏว่าทั้งอดีตพระกาโตะและสีกาตอง ได้รับการต้อนรับ ขอเซลฟี่ ถ่ายภาพ และไปออกรายการทีวี

ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่เหมาะสม เพราะจะเป็นการสร้าง ส่งเสริมค่านิยมที่ผิด อาจส่งผลต่อลูกหลานในอนาคต เช่น หากทั้งอดีตพระกาโตะ และสีกาตอง ได้รับสนับสนุนส่งเสริมจนดัง เดินสายออกทีวี ออกรายการโทรทัศน์ แล้วเราจะสอนลูกหลานได้อย่างไรว่า บุคคลทั้งสอง เคยกระทำผิด ทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย แต่กลับโด่งดังเหมือนดารา กลัวว่าจะเกิดค่านิยมที่ผิดในอนาคต

นายอริสมันต์ เผยอีกว่า ขอเป็นส่วนหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งในฐานะชาวพุทธ ออกมาเรียกร้องถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงคิดข้อความป้ายแล้วติดที่หน้าร้านวันนี้ เพื่อต้องการสื่อให้ผู้ที่ผ่านไปมาหน้าร้าน ได้เห็นและสร้างความตระหนักในการรักษาพระพุทธศาสนาของคนไทย หากมีเจ้าหน้าที่สั่งให้ตนถอดป้ายดังกล่าวออก ตนยืนยันว่าไม่ถอด เพราะถือเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลที่จะแสดงความคิดเห็น ที่สำคัญข้อความดังกล่าวเป็นการสื่อสารที่ชัดเจนในแบบฉบับคนใต้

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เจ้าของร้านดอกไม้ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ขออนุญาตปลดป้ายลงคะ ทางผู้ใหญ่ไม่อนุญาต #ถ้าไม่เกรงใจเจ๊เจี๊ยบไว้สัก 2 วัน”

ก่อนที่จะมีการไลฟ์เฟซบุ๊กชี้แจงว่า ตอนนี้มีผู้ใหญ่มาขอร้องให้ปลดป้ายลง เป็นผู้ใหญ่ที่นับถือ เค้าบอกว่าเราประสบความสำเร็จแล้วที่สร้างแรงกระเพื่อมให้สังคม ให้สังคมได้เห็นว่าการกระทำบางสิ่งบางอย่างมันผิดศีลธรรม คนที่เป็นพระก็ไม่สามารถปฏิบัติอย่างนี้ได้ ถึงจะติดได้เพียง 1 วัน แต่ก็ประสบความสำเร็จแล้ว ตอนนี้สังคมก็จะได้ตระหนักว่าทำแบบนี้มันผิดศีลธรรม มันบาป

จริงๆ คิดว่าจะติดสัก 3 วัน แต่ผู้ใหญ่บอกว่าเราอาจจะใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพ ไม่แน่ใจว่าคำๆ นี้ถ้านำมาขึ้นป้ายจะผิดกฎหมายหรือไม่ แต่ดีใจที่ดูจากหลายเพจมีคนไม่เห็นด้วย ว่าการกระทำของบุคคลทั้งสอง เราจะเอามาชื่นชมเชิดหน้าชูตา มาออกตามสื่อมันไม่ได้ ถ้าเอาผู้หญิงไปออกอีเวนต์ ออกสื่อ เมื่อไหร่ที่ลูกหลานเราเห็น แล้วถามว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ได้ออกรายการ ได้เล่นหนัง เล่นละคร คุณจะตอบเค้าเหรอว่า อ๋อ เพราะมีอะไรกับพระที่สันเขื่อน ถ้าเกิดพฤติกรรมเลียนแบบขึ้นมาว่า ทำแบบนี้แล้วได้ทั้งเงินจากพระ แล้วยังมีคนมาจ้างไปรีวิวสินค้า เล่นละคร ออกงานอีเวนต์ แล้วมันใช่เหรอ

เราคนไทยคิดว่ารับไม่ได้และไม่สามารถตอบคำถามลูกหลานได้ นั่นคือสิ่งที่ตั้งใจทำ ถึงใครจะว่าหิวแสงก็ไม่ใช่ธุระ เพราะตนทำมาหากินได้กำไรวันละร้อยสองร้อยก็อยู่ได้ โดยไม่ต้องหาเงินด้วยการทำผิดจารีตประเพณีและศีลธรรม 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook