ถามจริงกับแคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม.: วิโรจน์ ลักขณาอดิศร
การหาเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าราชการ กทม. พรรคก้าวไกล หมายเลข 1 คือการปักธงทางความคิดที่เขาจะใช้เวลาในการพูดคุยและแลกเปลี่ยนประเด็นทางการเมืองกับประชาชนในช่วงการลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้ง
ทีมข่าว Sanook News ลงพื้นที่ตามวิโรจน์ ลงพื้นที่เขตคลองสานช่วยผู้สมัคร ส.ก. ทรงวุฒิ จันทร์อำนวยโชค หมายเลข 6 หาเสียงในชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน และสัมภาษณ์พิเศษในประเด็นต่างๆ ซึ่งวิโรจน์ก็ย้ำว่าสโลแกน "พร้อมชนเพื่อคนกรุงเทพฯ" ของพรรคก้าวไกลเป็นแนวทางการทำงานและหาเสียงที่ชัดเจน แต่จะเลือกแค่ผู้ว่าฯ กทม. อย่างเดียว เข้าไปทำงานลำบาก ต้องมี ส.ก. ที่คอยสนับสนุนอนุมัติงบและเห็นชอบกับนโยบาย กทม. ของผู้ว่าฯ กทม. ด้วย
แต่ด้วยความที่สโลแกนหาเสียงชัดเจน ตรงไปตรงมา ก็อาจจะทำให้มีทั้งคนรักและคนเกลียดในเวลาเดียวกัน วิโรจน์ ยอมรับว่ามีคนไม่ชอบอยู่แล้วเป็นธรรมดา แต่มันสะท้อนให้เห็นว่า ตัวเองเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ที่มีจุดยืน กล้าที่จะถูกเกลียด และกล้าที่จะอธิบายให้กับประชาชนได้เข้าใจอย่างโปร่งใส เขายืนยันว่าจะไม่ยอมเป็นผู้ว่าที่ซุกปัญหาไว้ใต้พรม แล้วมองแค่ความสวยงามจากเปลือกภายนอก แบบนั้นมันไม่ถูกต้อง
"ถ้าเกิดแบบว่าคุณเป็นผู้ว่าที่ทำตัวหล่อๆ เท่ๆ ลอยตัวอยู่เหนือปัญหา นั่นก็ไม่กล้าแตะ นี่ก็ไม่กล้าแตะ น้ำท่วมปาก หลับตาข้างเดียว แล้วก็บริหารภายใต้ความกระอักระอ่วนที่ต้องยอมภายใต้คนบางกลุ่มเอารัดเอาเปรียบประชาชน แล้วนับวันเครือข่ายนี้มันขยายตัว ความเหลื่อมล้ำมันก็เพิ่ม ถูกไหม?"
วิโรจน์ ยังขยายความอีกว่า เขาไม่กลัวความขัดแย้งกับสิ่งที่มันไม่ถูกต้อง เขาจะไม่ยอมเป็นผู้ว่าที่ไปประสานงานกับสิ่งที่มันไม่ถูกต้อง หรือไปกราบกรานนายทุนที่เอารัดเอาเปรียบคนกรุงเทพฯ พร้อมกับถามกลับว่าคนกรุงเทพต้องการผู้อย่างนั้นจริงๆ เหรอ?
และหากได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. สิ่งแรกที่จะทำคือขจัดความอยุติธรรมที่มีอยู่เยอะแยะไปหมดใน กทม. เหมือนการให้คนตัวใหญ่ตีตั๋วเด็ก เอารัดเอาเปรียบเงินภาษีของประชาชนคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขยะ เรื่องการระบายน้ำที่ควรจะเอางบประมาณมาขุดลอกท่อและคลอง แต่กลับเอาไปทำอุโมงค์ยักษ์ประเคนภาษีให้นายทุน และเรื่องการจัดสรรและภาษีที่ดิน ซึ่งเราต้องแก้ปัญหาที่โครงสร้างและไม่ประณีประนอมกับความไม่เป็นธรรมต่างๆ ดังนั้นที่ตัวเองเสนอให้เปิดสนามหลวงเป็นพื้นที่สาธารณะ เป็นสัญญะของการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์ เริ่มจากสนามหลวงและปรับพื้นที่ราชการให้เป็นพื้นที่สาธารณะที่เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่มในทุกๆ เขต สวนที่สวยงามต้องไม่ใช่ความสวยงามที่ไม่มีคน ไม่ใช่ผลักคนออกจากพื้นที่สาธารณะ
เมื่อถามวิโรจน์ว่า แล้วตอนนี้ที่ลาออกจาก ส.ส. มาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ถ้าสอบตก ไม่ชนะการเลือกตั้งจะทำอะไรต่อไป? วิโรจน์ ตอบอย่างชัดเจนว่า อย่างน้อย ข้อดีของการลงผู้ว่าครั้งนี้คือได้ปักธงทางความคิดไว้แล้วว่ากรุงเทพฯ ต้องแก้ไขที่โครงสร้าง อีกอย่างคือตัวเองก็ไม่ใช่คนที่แพ้แล้วเลิก ยังต้องทำงานกับพรรคก้าวไกลต่อไป แต่ถ้าถามว่าอาชีพที่อยากทำหลังเลิกทำงานการเมือง คือ อยากขายก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ เพราะเป็นคนชอบทานเย็นตาโฟ และมีสูตรเด็ดจากอาม่า อากง
ส่วนถ้าให้เลือกเป็นซูเปอร์ฮีโร่ 1 ตัว วิโรจน์อยากเป็นนินจานารูโตะ เพราะตคัวละครมีชีวิตที่น่าสนใจ จากคนที่ถูกเกลียดในหมู่บ้าน เพราะว่ามีจิ้งจอกเก้าหางอยู่ในตัว เขาพิสูจน์ตัวเองและฝึกฝน จนเขากลายเป็นความหวังของคนในหมู่บ้านในที่สุด
ในช่วงท้าย วิโรจน์ กล่าวว่า ถ้าอยากให้กรุงเทพฯ ได้รับการแก้ไขที่รากของปัญหา แล้วเปลี่ยนแปลงเลย เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล ไม่วนเวียนกับปัญหาเดิมๆ ก็เลือกวิโรจน์เป็นผู้ว่าฯ กาหมายเลข 1 และ ส.ก.ของพรรคก้าวไกลทุกเขต