สาวแฉหมอหื่นลวนลามในห้องตรวจ สั่งให้ถอดกางเกงฉีดยา ก่อนเอาอวัยเพศมาถูข้างหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 พ.ค.) ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งออกมาโพสต์ข้อความแฉพฤติกรรมหมอหื่น หลังถูกหมอรายดังกล่าว ซึ่งประจำคลินิกแห่งหนึ่ง ลวนลามตอนที่อยู่กันตามลำพังในห้องตรวจ โดยระบุว่ามีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ติดต่อมาหาผู้โพสต์ ว่าโดนพฤติกรรมแบบเดียวกัน ข้อความทั้งหมดระบุว่า
เราเพิ่งโดนหมอที่คลินิกหนึ่งลวนลามมาค่ะ เราไปรักษาทอนซิลอักเสบ โดยเราขอฉีดยา ทั้งห้องมีแค่เรากับหมอ 2 คน เขาให้เราถอดกางเกง ให้เรานอนตะแคงหันก้นออกให้หมอ และบอกให้เราขยับตัวไปตรงขอบเตียงเยอะมาก ขณะฉีดก็มีการเอาตัวมาพิงเรา และเอาอวัยวะเพศมาถูไปมาตรงก้นเราค่ะ
นอกจากนี้เธอยังได้เล่าเรื่องราวเหตุการณ์โดยละเอียดในเฟซบุ๊ก ระบุว่า
เราเป็นทอนซิลอักเสบ เราเป็นบ่อยๆมาตลอดหลายปีจนชิน ซึ่งปกติเราจะไปรักษาที่โรงพยาบาลประจำ แต่เมื่อวาน (3 พฤษภาคม 2565) เราเลิกงานเย็น ที่โรงพยาบาลประจำของเรา หมอกลับไปหมดแล้ว ต้องทำการนัดเป็นวันอื่นแทน แต่เราเจ็บคอมากๆ จนไม่ไหว กลืนน้ำลาย กินข้าวแทบไม่ได้ เลยอยากฉีดยา เนื่องจากเราเคยฉีดแล้วมันจะหายเจ็บคอภายในวันเดียว รอบนี้เลยอยากรับการฉีดยา เพราะอยู่ในช่วงวันทำงานเลยอยากให้อาการเจ็บคอหายไวๆ เลยไปที่คลินิกนึงแถวบ้านค่ะ ซึ่งเราเคยไปอยู่ 2-3 ครั้ง เพื่อไปทำใบรับรองแพทย์ที่นี่ แต่ไม่เคยรับการรักษาใดๆ พอเราไปก็หมอก็ออกมาถามอาการเราหน้าคลินิก เพราะอาการเราคล้ายโควิด เลยต้องตรวจเพื่อความชัวร์ ก่อนให้เข้าข้างใน หมอก็ตรวจ ATK ให้เรา หมอบอกว่าถ้าขีดเดียวก็เข้ามาฉีดได้ สรุปเราไม่เป็น เลยได้เข้าไปข้างใน
ทั้งคลินิกมีแค่พนักงานผู้หญิงตรงเคาท์เตอร์ด้านหน้า และหมอผู้ชายคนนี้ หมอบอกให้เราเข้าไปนอนรอบนเตียง เราก็เข้าไปขึ้นเตียง พอหมอเตรียมยาเสร็จก็เข้ามา หมอบอกให้เราถอดกางเกง เราเลยงงๆ และถามว่าทำไมต้องถอด ต้องฉีดตรงก้นหรอคะ หมอบอกว่าใช่ เราก็งอแงๆไป ว่าน่ากลัว ปกติไม่ได้ฉีดก้นนะ แล้วเราก็ถอดกางเกงลงมาต่ำกว่าก้น เพราะเราไม่รู้จริงๆว่าเข็มจะต้องปักตรงบริเวณไหน หมอบอกให้ถอดเราก็ถอด หมอถามว่าปกติไม่ได้ฉีดตรงนี้หรอ เราก็บอกไปว่าปกติฉีดตรงข้อพับแขน ไม่เคยฉีดตรงนี้เลย หมอก็บอกเราว่า แสดงว่าปกติอาการหนักนะ เพราะฉีดเข้าเส้นเลือดมันแรงกว่า แล้วก็ถามอาการเราไปเรื่อยๆ เหมือนซักอาการตามปกติ
หมอบอกให้เรานอนตะแคง หันก้นมาฝั่งหมอ เราก็นอนตะแคงหันหน้าเข้ากำแพง หมอบอกให้เราเขยิบมาใกล้ๆอีก เพราะเรานอนอยู่กลางเตียง เราก็เขยิบออกมาคิดว่าหมอจะได้สะดวกขึ้น หมอ บอกให้เราเขยิบมาอีกๆ จนก้นเราอยู่ตรงขอบเตียง แทบจะยื่นออกมานอกขอบเตียงไปหน่อยๆ ด้วยซ้ำ แต่ตอนนั้นเราก็ไม่ได้เอะใจอะไรเลย หมอก็เลิกเสื้อเราขึ้นแล้วเริ่มฉีด เราถ่ายวิดีโอตอนแรกๆ ไว้ได้เพราะแค่จะส่งให้เพื่อนดูเฉยๆ แต่พอเราเห็นว่า หมอต้องเดินยานาน เราก็เกรงใจ แล้ววางโทรศัพท์ เลิกถ่าย
ตอนที่ถ่ายเราไม่เอะใจอะไรเลยสักนิดเดียว ถึงแม้ว่าหมอจะมาจับๆ นวดๆ กดๆ ตรงเอวเราแบบที่เห็นในคลิป เราก็คิดว่า คงเป็นการคลึงตัวยาหรืออะไรรึเปล่า คือเราไม่รู้อะไรเลยจริงๆ คิดว่าคือการรักษาของหมอตามปกติจน พอเราวางโทรศัพท์ลง หมอก็เริ่มมายืนพิงก้นเรา ตอนนั้นเรายังไม่คิดอะไร คิดว่าหมอคงเมื่อยแล้วมายืนพิงเตียง แล้วบังเอิญมาโดนตัวเรา จนกระทั่งหมอเริ่มขยับเอวซ้ายขวาไปมาเหมือนมาถูๆ ตรงก้นเรา แล้วดันตัวมาพิงเรา เราเริ่มแปลกๆแล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ใจ จนรู้สึกได้ว่าหมอเอาอวัยวะเพศมาถูเราไปมา จนมันแข็งขึ้นเรื่อยๆ ตอนนั้นในหัวเรางงไปหมด ว่าใช่รึเปล่า เราโดนลวนลามหรอ มันเกิดอะไรขึ้นในหัวมันเรียบเรียงไม่ถูก โวยดีไหม แต่เข็มก็ยังปักคาสะโพกเราอยู่ คือเรานอนตัวแข็งไปเลย ยังคงอึ้งๆกับเหตุการณ์ตอนนั้น
ระหว่างที่หมอยืนฉีดเขาก็ถามเราชวนเราคุยตลอด เราเลยงงๆ แต่ก็ต้องคอยตอบคำถามหมอเรื่อยๆ ตลอดการเดินยา จนหมอฉีดยาเสร็จ ดึงเข็มออก อยู่ๆหมอก็เอามือมาจับๆบีบๆเท้าเราเลย ทั้งๆที่เรานอนตะแคงหันหลังให้หมออยู่ และยังไม่ใส่กางเกง (เราเพิ่งโดนมดกัดที่เท้ามาแล้วแพ้หนัก เท้าเราบวมและแดงมากๆ แม่เราแจ้งอาการกับหมอก่อนที่จะเข้ามาในคลินิก) หมอก็มาบีบๆนวดๆตรงเท้าที่บวมอยู่นานมาก ถามอาการเราซำ้ไปซ้ำมา ตรงนี้เจ็บไหม ตรงนี้ล่ะ แล้วชวนคุยว่าปกติแพ้มดหรอ คือถามเราไม่หยุด บีบๆนวดๆอยู่อย่างนั้น ทั้งๆที่เราก็บอกอาการไปละเอียดหมดแล้ว จนหมอปล่อยเท้าเรา แล้วก็ไปนั่งเขียนใบสั่งยาที่โต๊ะ เราลุกมาใส่กางเกง นั่งเบลอว่าจะวีนดีไหม สุดท้ายเราก็ไม่ได้ทำอะไร เรารอจ่ายยาชำระเงินจนเสร็จ อึ้งไปหมด พิมพ์บอกเพื่อนกับเรื่องราวที่เจอไปด้วย เราออกมาเล่าให้พ่อแม่ฟัง แล้วเอาคลิปให้ดู แต่เราก็รู้สึกว่าทำอะไรมันไม่ได้อยู่ดี ที่บ้านเราก็บอกว่ารู้สึกหลักฐานไม่มากพอ ถ้าหมอจะแถ เราก็ทำอะไรไม่ได้ ข้างในคลินิกไม่มีกล้องวงจรปิดเลย เรามองดูรอบๆแล้ว
เราเจ็บใจและร้องไห้หนักมากๆกับเหตุการณ์นี้ คือในชีวิตเราเจอโรคจิตมารอบนี้รอบที่ 3 แล้ว และยิ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้มันทำให้เรายิ่งงงๆ ว่าใช่รึเปล่า หรือเราคิดไปเอง หรือหมอจะแค่รักษาไปตามปกติ คือมันไม่เหมือนกับโรคจิตโต้งๆแบบที่เคยเจอมา ส่วนใครที่คิดว่าทำไมเราไม่โวยไปตั้งแต่ตอนนั้นเลย คือเราเป็นคนแบบนี้จริงๆ นี่ก็คือสิ่งที่เรายังเจ็บใจตัวเองอยู่ตลอดจนทุกวันนี้
ขนาดปีที่แล้วเราเจอโรคจิตนั่งช่วยตัวเองตรงหน้าเรา เราก็ไม่กล้าร้องโวยวายด่ามัน หรือแม้แต่จะหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปมัน เราแทบจะกลัวมันด้วยซ้ำ เราจะตัวแข็งทื่อตลอดเวลาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ในหัวมันงงไปหมด รู้สึกขยะแขยง และจะอ้วก
ขนาดเราดำเนินคดีแจ้งความไปแล้ว แต่ก็ทำอะไรมันไม่ได้ เพราะไม่มีหลักฐานอะไรเลย มีแค่คำจากปากของเรา มันก็เหมือนว่าเราไปหมิ่นประมาทเขา ถ้าเขาปฏิเสธ เราก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี แล้วก็จะมาเสียใจทีหลังตลอดว่าทำไมเราถึงไม่กล้าทำแบบนั้นไม่กล้าโวยแบบนี้
แต่เราก็ไม่อยากจะโทษตัวเอง คือเราผิดหรอ มันก็ไม่ใช่ คนก็แค่จะมารับการรักษา หมอบอกให้เราทำอะไรเราก็พร้อมทำ บางคนคงคิดว่าเราโง่หรอ ถอดกางเกงอะไรขนาดนั้น เออ ก็ปกติกูโดนฉีดข้อพับ ก็หมอบอกให้เราถอดกางเกง เราก็แค่คิดว่านี่คือการรักษาของเขา เข็มจะปักตรงไหนกูยังไม่รู้เลย ก็ถอดไปเพื่อให้หมอทำงานสะดวก คือถ้าหมอมันบริสุทธิ์ใจจริงๆ เจอคนไข้เด๋อๆจะถอดกางลงมาแบบกูขนาดนี้ เขาก็ควรบอกแล้วไหม ยังไงหมอก็รู้ว่าต้องลงเข็มตรงไหน ก็แค่บอกเรามา ว่าหนู ไม่ต้องถอดขนาดนั้น แค่รูดซิบ แง้มกางเกงนะ อะไรก็ว่าไป มันควรจะเป็นแบบนั้น เพราะตรงที่เราโดนฉีด คืออยู่เหนือขอบกางเกงในด้วยซ้ำ
ตอนแรกที่เราจะเล่า เรากะจะระบุโลเคชั่นหรือละแวก แต่จะไม่เจาะจงร้านหรือตัวหมออยู่แล้ว แต่ตอนนี้เราคงไม่จำเป็นต้องบอกแล้ว เพราะหลังจากที่เราได้ลงสตอรี่ มีคนที่เราไม่เคยรู้จักหรือพูดคุยกันมาก่อน ทักมาถามเราว่าใช่คลินิกนี้ไหม และพูดสถานที่ออกมาได้ถูกเป๊ะ ทั้งๆที่เราไม่เคยได้เกริ่นถึงตัวหมอ โลเคชั่น หรือคลินิกแห่งนี้เลย เราลงแค่นั้นเลยตามที่ทุกคนเห็นในสตอรี่
เขาได้ทักมาบอกว่าเขาก็เจอเหตุการณ์คล้ายๆเราแบบนี้เหมือนกัน และมากกว่า1ครั้ง เพราะในตอนแรกตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนเราเหมือนกัน เราได้พูดคุยกันซึ่งคอนเฟิร์มว่าหมอคนเดียวกันแน่ๆ และเหตุการณ์ที่โดนก็แนวๆเดียวกัน เลยเชื่อว่าหมอคนนี้เคยทำมาหลายครั้งแล้วแน่ๆ เพราะเหตุการณ์ตอนนั้นเขาได้บอกเราว่า เขาเจอเมื่อตอนปี62-63 ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะมีใครอีกหลายคนที่ต้องตกเป็นเหยื่ออีก
ขนาดเราอายุก็25แล้ว เรายังงงๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลองคิดว่าถ้าเป็นเด็กที่ยังไม่รู้ประสีประสา ไม่รู้ว่าตัวเองโดนกระทำอะไรอยู่ เด็กๆก็คงคิดว่าหมอแค่ตรวจอาการทั่วไป คือไม่อยากจะคิดว่าแม่..จะเ-ี้ยขนาดไหน
ถ้าใครอ่านมาจนจบ แล้วเจอเหตุการณ์คล้ายๆกันลองพิมพ์มาบอกข้อมูลเราได้นะ เพราะถ้าเป็นที่เดียวกันเราเชื่อว่าหมอคนนี้คงทำจนเป็นนิสัยไปแล้ว ยิ่งถ้าได้ข้อมูลที่เยอะขึ้นกว่านี้เราเชื่อว่ามันจะต้องทำอะไรได้บ้าง