“ทนายเดชา” เผย อัยการไม่ได้ตีกลับสำนวนคดีแตงโม แต่สอบเพิ่มเพื่อให้รัดกุม
ทนายเดชา เผย อัยการไม่ได้ตีกลับสำนวนคดีแตงโม แต่เป็นการให้ไปสอบเพิ่มเพื่อให้รัดกุมแน่นหนายิ่งขึ้น ชี้ไม่เหนือความคาดหมาย ไม่ตำหนิตำรวจ เชื่อเรื่องขโมยศพไม่จริง -ยังไม่เลื่อนฌาปนกิจแตงโม
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม เปิดสำนักงานแถลงข่าวกรณีอัยการจังหวัดนนทบุรีสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มเติม 20 ประเด็น ยืนยันว่าไม่ใช่การตีกลับสำนวนคดีตามที่มีการนำเสนอข่าว แต่เป็นการให้สอบเพิ่มเพื่อให้สำนวนมีความรัดกุมแน่นหนายิ่งขึ้น
พร้อมยอมรับว่าการสั่งให้สอบเพิ่มกว่า 20 ประเด็นนั้นถือว่าเป็นจำนวนที่มาก แต่เพราะมีประเด็นที่ยังคงเป็นที่สงสัยมาก ส่วนสาเหตุให้สอบเพิ่มเพราะทางอัยการเห็นว่าสำนวนยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งในทางกฎหมายเรียกว่าข้อที่ไม่สมบูรณ์ จึงต้องมีการสอบเพิ่ม เช่น ตำแหน่งที่ตกเรือ บาดแผลและการทำลายหลักฐานว่าทำลายอย่างไรตลอดจนเรื่องพยานหลักฐานต่างๆ เป็นต้น
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทางอัยการต้องการให้มีความชัดเจน เพื่อเวลาสั่งฟ้องจะได้มีหลักฐานที่มัดแน่น ดิ้นแล้วไม่หลุด แต่เชื่อว่าประเด็นที่ให้สอบเพิ่มไม่ใช่สาระสำคัญจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงจากคดีประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเป็นการฆาตกรรมได้
พร้อมขอบคุณทางอัยการที่เข้ามาถ่วงดุลในการตรวจสอบทำคดี เชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะสามารถเอาคนผิดมาลงโทษได้แน่นอน พร้อมย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายของตนเองเพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีข้อจำกัดในการทำงานแต่ก็ทำเต็มที่แล้วซึ่งตนเองไม่ได้ตำหนิการทำงานของตำรวจแต่เข้าใจมากกว่าเพราะตำรวจก็สังคมตั้งคำถามเยอะมาก
ทนายเดชา กล่าวถึงประเด็นที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เรื่องการขโมยศพแตงโมมาตบแต่งบาดแผลว่า ตนไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เคยดูแต่ในหนัง แต่ถ้ามีการขโมยศพจริงก็นำหลักฐานมาแจ้งความและฝากถึงนายอัจฉริยะ เรือด้วยว่าถ้ามีหลักฐานอะไรก็ส่งให้ตนดีกว่า อย่าเอาไปลงในโซเชียล
ในวันเดียวกันนี้ ทนายเดชา ได้เซ็นเอกสารมอบอำนาจให้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับ นายอัจฉริยะในข้อหาหมิ่นประมาทกรณีไปออกรายการโทรทัศน์นกล่าวหาว่าตนเองขับรถเถื่อนและปลอมป้ายทะเบียนรถด้วย อย่างไรก็ตาม ทนายเดชา กล่าวว่าทางคุณแม่แตงโมเองได้ขอบคุณทางอัยการที่สั่งสอบเพิ่มเพื่อให้เรื่องนี้กระจ่างชัดเจน โดยยังยืนยันว่าจะมีพิธีฌาปนกิจศพแตงโมตามกำหนดการเดิมในวันที่ 24 พ.ค. นี้