โจรงัดเซฟ 10 ล้าน เล่าวิธีการสุ่มเลือกบ้านเหยื่อ ลงมือคนเดียว เชี่ยวชาญตู้นิรภัยทุกชนิด
โจรงัดเซฟ 10 ล้าน เล่าวิธีการสุ่มเลือกบ้านเหยื่อ ลงมือคนเดียว เชี่ยวชาญการเปิดตู้นิรภัยทุกชนิด ประวัติก่อคดีโชกโชน
จากกรณีคนร้ายบุกเข้าไปงัดตู้เซฟ ห้องนอนชั้น 2 ที่บ้านตั้งอยู่ในซอยรัชดานิเวศน์ 9 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง ได้ทรัพย์สินไปกว่า 10 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา
ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง พร้อมด้วยชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้สืบสวนไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีในย่านรัชดาห้วยขวาง ไปยังจุดต่างๆ ที่คนร้ายเดินทางไป ต้นทราบว่าคนร้ายพักอาศัยอยู่ที่ อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งย่านรัตนาธิเบศร์จังหวัดนนทบุรี ขึ้นไปขอหมายค้นของศาลจังหวัดนนทบุรีและนำกำลังเข้าไปตรวจสอบเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา การตรวจสอบภายในห้องพัก ไม่พบตัวผู้ต้องหา แต่พบของกลางที่ขโมยมา 39 รายการรวมมูลค่าประมาณ 2 ล้าน 1 แสนบาท และอาวุธปืน 1 กระบอก
จากนั้นชุดสืบสวนจึงได้ตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีจนทราบต่อไปว่าผู้ต้องหาไปหลบหนีอยู่ที่คอนโดมิเนียมอีกแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองนนทบุรีวันที่ 7 พฤษภาคม ชุดสืบสวนจึงได้นำกำลังเข้าไปจับกุม นายบรรจง หรือ จี อายุ 37 ปี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์"
เบื้องต้นจากการสอบปากคำ นายบรรจงให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุที่บ้านหลังดังกล่าวเพียงคนเดียว โดยใช้ประสบการณ์และการสุ่มเลือกบ้านที่จะลงมือก่อเหตุเอง จะมีทรัพย์สินมากหรือน้อย ก่อนหาช่องทางเข้าไปลงมือก่อเหตุ นายบรรจงเผยว่าตนเองมีความรู้เกี่ยวกับตู้นิรภัยรูปแบบต่างๆ จึงทราบว่าต้องใช้วิธีการใดจึงสามารถเปิดตู้ได้โดยไม่ต้องใช้ไฟตัดเหล็ก หรืออุปกรณ์ที่ยุ่งยาก ก็สามารถนำสิ่งที่อยู่ในตู้ออกมาได้
นำไปตรวจยึดทรัพย์สินจำนวนที่เหลืออีก 53 รายการรวมมูลค่ากว่า 3 ล้าน 8 แสนบาท ส่วนทรัพย์สินที่เหลือซึ่งส่วนใหญ่เป็นทองคำผู้ต้องหาได้นำไปขายตามสถานที่ต่างๆ ในย่านห้วยขวางบางแสนและห้างสรรพสินค้าย่านงามวงศ์วานแล้วนำเงินมาซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์แล้วนำเงินที่ได้ไปไปเล่นพนันออนไลน์จนหมด โดยยอมรับว่าตัวเองติดการพนันมาก
เบื้องต้นจากการสอบประวัติของผู้ต้องหาพบว่าเพิ่งพ้นโทษจากคดีลักทรัพย์ยกตู้เซฟในพื้นที่ สน.สุทธิสารเมื่อเดือนตุลาคม 2564 และยังมีประวัติการก่อเหตุลักทรัพย์ใน พื้นที่ สภ.พุทธมณฑล เมื่อปี 2551, และสน. สุทธิสารเมื่อปี 2562 คดีชิงทรัพย์ในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง เมื่อปี 2553 นอกจากนี้ยังมีประวัติคดีข่มขืนในพื้นที่ สน. ดินแดง 2 คดีในปี 2553
ขณะที่ผู้เสียหายได้เดินทางมาตรวจสอบทรัพย์สินและดูสภาพของตู้เซฟที่ถูกผู้ต้องหางัดแงะ พร้อมกับเปิดเผยว่า หลังจากกลับมาถึงที่บ้านเห็นสภาพของตู้เซฟและทรัพย์สินที่หายไปก็รู้สึกตกใจอย่างมาก ไม่คิดว่าตู้เซฟที่ตนเองซุกซ่อนไว้ภายในตู้เสื้อผ้าอย่างดีและไม่มีบุคคลภายนอกทราบที่ซ่อนดังกล่าว จะถูกคนร้ายรื้อค้นและงัดแงะเอาทรัพย์สินภายในตู้เซฟไปได้ทั้งหมด จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยติดตามตัวคนร้าย จนกระทั่งทราบว่าชุดสืบสวนสามารถจับกุมคนร้ายได้และยึดทรัพย์สินกลับคืนมาได้ประมาณ 60% ก็รู้สึกดีใจที่ได้ทรัพย์สินคืนมา แต่ทรัพย์สินที่หายไปก็รู้สึกเสียดายเพราะเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจ อาทิ แหวนแต่งงาน และนาฬิกา Rolex ของบิดาที่เสียชีวิตไปแล้ว
ส่วนสาเหตุที่ตนเองไม่ยอมนำทรัพย์สินทั้งหมดไปฝากตู้เซฟของธนาคารไว้ เนื่องจากบิดาเพิ่งเสียชีวิตและอยู่ระหว่างการจัดการทรัพย์มรดกจึงไม่สามารถเปิดตู้เซฟในธนาคารได้ ครั้งนี้ยอมรับว่าตนเองพลาดที่ประมาทและไม่ยอมนำบ้านและทรัพย์สินเข้าโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะถ้าใจไม่คิดว่าคนร้ายจะเข้ามารื้อค้นทรัพย์สินในจุดที่ซ่อนไว้ อีกครั้งภายในบริเวณบ้านไม่ได้มีการติดตั้งสัญญาณเตือนภัยหรือกล้องวงจรปิด ซึ่งทำให้การติดตามคนร้ายเป็นไปได้ยาก ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุการณ์คลื่นก็รู้สึกหวาดกลัวเพราะคนร้ายบุกเข้าไปได้ถึงภายในห้องนอนของตนเองซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถเข้าไปนอนภายในห้องได้เพราะรู้สึกหวาดกลัวและห้องได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ด้าน พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำคนร้ายพบว่าผู้ต้องหาจะใช้วิธีการเลือกบ้านที่ก่อเหตุด้วยการเคาะประตูหรือกดกริ่งเรียกตามช่วงเวลาต่างๆ จึงทำให้ทราบช่วงเวลาที่เหมาะสมในการก่อเหตุ นอกจากนี้ในการตรวจค้นที่พักของผู้ต้องหายังพบแผนที่บ้านที่เตรียมจะเข้าไปก่อเหตุอีก 5-10 หลัง โดยระบุข้อมูลของบ้านแต่ละหลังไว้อย่างชัดเจน
โดยคนร้ายมีประสบการณ์และความรู้ในการก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาเป็นอย่างดีเพราะเคยถูกจับในคดีเดียวกันนี้มาแล้วหลายครั้ง ศูนย์กรณีที่ผู้เสียหายสงสัยว่าเหตุใดคนร้ายจึงทราบที่ซ่อนของตู้เซฟ จากการสอบปากคำผู้ต้องหาไม่ทราบข้อมูลที่ซ่อนของทรัพย์สินมาก่อน เปิดใช้โอกาสที่ผู้เสียหายไม่อยู่บ้านอย่างเต็มที่ อย่างกรณีล่าสุดหากเริ่มจับเวลาตั้งแต่คนร้ายงัดแงะและเข้าไปสำรวจในตัวบ้านใช้เวลานานถึง 44 นาที จากนั้นจึงใช้เวลาในการงัดตู้เซฟอีกประมาณ 30 นาที ซึ่งถือว่าคนร้ายก่อเหตุอย่างใจเย็นจนสามารถได้ทรัพย์สินทั้งหมดไปได้ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าสามารถงัดตู้เซฟได้ทุกชนิดเนื่องจากมีประสบการณ์สูง
ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่าคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียวไม่ได้มีผู้ร่วมขบวนการหรือคนดูต้นทางให้ โดยหลังจากนี้ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานไปขอศาลออกหมายจับบุคคลที่พาผู้ต้องหาหลบหนีหรือให้ที่ซุกซ่อน และดำเนินคดีกับบุคคลที่รับซื้อแลกเปลี่ยนทรัพย์สินของผู้ต้องหา