เปิดใจลูกชาย พาแม่ออกมาจากสำนัก "พระบิดา" เอะใจเพราะกลับบ้านทุกรอบมีแต่ตุ่มพุพอง

เปิดใจลูกชาย พาแม่ออกมาจากสำนัก "พระบิดา" เอะใจเพราะกลับบ้านทุกรอบมีแต่ตุ่มพุพอง

เปิดใจลูกชาย พาแม่ออกมาจากสำนัก "พระบิดา" เอะใจเพราะกลับบ้านทุกรอบมีแต่ตุ่มพุพอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดใจลูกชายพาแม่วัย 80 ปี ออกมาจากสำนักฤๅษีที่อ้างตัวเป็นพระบิดาทุกศาสนา นำของเสียจากร่างกายให้ชาวบ้านกินอ้างว่ารักษาได้สารพัดโรค เบื้องต้นแม่ปลอดภัยแต่จิตใจยังห่วงสำนักฤๅษีอยากกลับไปอีก ลูกๆต้องไม่ให้เห็นข่าวไปสักพัก ขณะที่แม่เล่าให้ฟังว่าได้กินน้ำลายและเสมหะของพระบิดา แต่ไม่ได้เล่าว่ากินน้ำเหลืองจากศพ

วันนี้ (9 พ.ค. 2565) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้าน ใน ต.วังเพิ่ม อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น  ซึ่งเป็นบ้านของ นางน้อย อายุ 80 ปี  หนึ่งในลูกศิษย์ของฤๅษีทวี หนันลา อายุ 74 ปี ที่อ้างว่าเป็นพระบิดาทุกศาสนา เจ้าของสำนักปฏิบัติธรรมในพื้นที่ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ซึ่งถูกควบคุมตัวไปสอบสวนตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา และได้พบกับ นายชัย แดนคำสาร อายุ 52 ปี ลูกชายของนางน้อย กำลังนั่งดูข่าวแม่ตัวเองที่ได้พาออกมาจากสำนักฤๅษีดังกล่าว

นายชัย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงประมาณปลายปี 2563 จนถึงปี 2564 แม่ไปเยี่ยมหลานชาย ที่ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ  จึงทราบว่า หลานชาย รวมถึงพ่อตาและแม่ยายนั้น เป็นลูกศิษย์ของพระบิดา ที่สำนักปฏิบัติธรรมมาหลายปีแล้ว  หลานชายจึงชวนแม่น้อยเข้าไปเยี่ยมชมที่สำนักปฏิบัติธรรม เมื่อแม่น้อยเข้าไปชมแล้วก็กลับมาเล่าให้ลูกๆฟังว่า ไปเจอพ่อของพระเยซูมา จนเกิดความเลื่อมใสศรัทธา อยากไปปฏิบัติธรรมที่สำนักดังกล่าว

เดิมทีแม่น้อยนับถือศาสนาคริสต์ เมื่อไปที่สำนักปฏิบัติธรรมประหลาดมาก็เริ่มมีความอยากไปบ่อยขึ้น เหมือนกับเกิดความเลื่อมใสไปแล้ว ช่วงแรกๆไปพักที่สำนักปฏิบัติธรรมประหลาดคราวละ 7-10 วัน ระยะหลังๆไปอยู่นานเป็นเดือน เมื่อแม่น้อยกลับมาที่บ้าน จะเห็นคราบขี้โคลนติดตามร่างกาย และมีตุ่มพุพองขึ้นตามแขนขา ทำให้ลูกๆก็ไม่อยากให้ไปอีก  แต่สุดท้ายลูกก็ต้องยอม เพราะมันคือความสุขของแม่ 

ล่าสุดแม่น้อยอยากกลับไปอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมอีก พี่สาวจึงตัดสินใจขับรถไปส่ง พร้อมทั้งสังเกตุความเป็นอยู่ในบริเวณสำนักปฏิบัติธรรม ก็พบว่ามีแต่ความสกปรก  ไม่มีการถือศีลหรือปฏิบัติธรรมแต่อย่างใด  จึงชวนแม่น้อยกลับบ้าน แต่แม่น้อยไม่ยอมกลับยืนยันจะอยู่ต่อ  พี่สาวจึงกลับมาปรึกษาพี่น้องและร้องขอความช่วยเหลือจากหมอปลา  เพื่อช่วยเหลือพาตัวแม่ออกมาจนเป็นข่าวดังกล่าว

นายชัย กล่าวอีกว่า กรณีการกินอุจจาระ กินปัสสาวะ น้ำลาย เสมหะ หรือขี้ไคลของชายที่อ้างว่าเป็นพระบิดา เพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บนั้น จากการพูดคุยกับแม่น้อย ทราบว่าแม่น้อยเคยกินแต่น้ำลาย เสมหะ

ส่วนเรื่องการเก็บศพคนตายเอาน้ำเหลืองมาปรุงเป็นสมุนไพร รักษาโรคนั้น ไม่เคยได้ยินแม่น้อยพูดถึง แม่น้อยพูดเพียงว่า ในสำนักปฏิบัติธรรมนั้น มีการเก็บศพคนตายเอาไว้  แต่ทุกคนที่เป็นลูกศิษย์ที่เข้าไปอยู่ในสำนักปฏิบัติธรรม ไม่มีใครที่ไม่เชื่อถือ หรือไม่เลื่อมใสพระบิดา ทุกคนเคารพนับถือทั้งหมด  เพราะไม่มีการเรียกเก็บเงินหรือให้บริจาคเงินทองของใช้แต่อย่างใด เพียงแค่ช่วยกัน ทำน้ำพริก ทำขนมคบเคี้ยว ทำข้าวเกรียบส่งขาย ก็มีเงินซื้ออาหารกินครบ 3 มื้อ

หลังจากหมอปลาพร้อมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเข้าตรวจค้นและช่วยเหลือแม่น้อยออกมาได้ คุมตัวพระบิดาไปสอบสวน ลูกๆก็รู้สึกโล่งใจ และไม่ให้แม่น้อยดูข่าวที่เกิดขึ้นในสำนักปฏิบัติธรรม  เพราะดูออกว่าแม่ยังมีความห่วงใยในสำนักปฏิบัติธรรมและเชื่อว่ายังอยากจะไปอีก จึงบอกแม่ไปว่า เจ้าหน้าที่บุกทลายหมดแล้ว ไม่มีพระบิดา ไม่มีสำนักปฏิบัติธรรมแล้ว  และให้แม่น้อยนอนพักผ่อน โดยลูกหลานญาติพี่น้องช่วยกันดูแล แม่น้อยเป็นอย่างดี

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ ของ เปิดใจลูกชาย พาแม่ออกมาจากสำนัก "พระบิดา" เอะใจเพราะกลับบ้านทุกรอบมีแต่ตุ่มพุพอง

เปิดใจลูกชาย พาแม่ออกมาจากสำนักพระบิดา
เปิดใจลูกชาย พาแม่ออกมาจากสำนักพระบิดา
เปิดใจลูกชาย พาแม่ออกมาจากสำนักพระบิดา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook