แม่เหยื่อสายสื่อสารพันคอ สติแตกหลังลูกตาย เดินไกลกว่า 50 กม. ยืนรำหน้าค่ายทหาร

แม่เหยื่อสายสื่อสารพันคอ สติแตกหลังลูกตาย เดินไกลกว่า 50 กม. ยืนรำหน้าค่ายทหาร

แม่เหยื่อสายสื่อสารพันคอ สติแตกหลังลูกตาย เดินไกลกว่า 50 กม. ยืนรำหน้าค่ายทหาร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม่เหยื่อสายสื่อสารพันคอ สติแตกหลังลูกชายตาย ไม่กิน ไม่นอน อารมณ์เกรี้ยวกราด เดินไกลกว่า 50 กม. ยืนรำหน้าค่ายทหาร

วันนี้ (9 พ.ค.65) หลังจากที่มีอุบัติเหตุกรณี นายบุญเกิด อายุ 40 ปี โดนสายสื่อสารเกี่ยวคอทำให้รถจักรยานยนต์ล้มกะโหลกร้าวอาการสาหัส ที่หน้าโรงพยาบาลลำดวน อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ เหตุเกิดคืนวันที่ 29 เมษายน 2565 บนถนนทางหลวงหมายเลข 2077 แล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ โดยได้ฌาปนกิจศพเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 แล้วมีชาวบ้านหลายคนเห็นความเฮี้ยนของวิญญาณนายบุญเกิดขี่รถจักรยานยนต์คู่ใจเข้าไปที่บ้านหลายครั้ง คาดว่าน่าจะยังมีห่วงเพราะผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัว และยังมีลูกที่ต้องดูแล 3 คน 

ล่าสุด นางอ่อน อายุ 63 ปี แม่ของนายบุญเกิดผู้เสียชีวิต แต่งตัวด้วยชุดสีขาว ได้เดินออกจากบ้าน และอยู่นอกบ้านบริเวณทุ่งนา ตลอดทั้งคืนวันที่ 8 พ.ค.65 ที่ผ่านมา โดยไม่ทานข้าวทานน้ำ ขณะที่ลูกสะใภ้และญาติพี่น้องต้องมานั่งเฝ้านอนเฝ้าตลอดทั้งคืน ก่อนที่ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เดินเท้าไปจากบ้าน กว่า 50 กิโลเมตร จนถึงตัวจังหวัดสุรินทร์ ในช่วงเวลา 08.00 น.ของวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 แล้วมาร่ายรำเหมือนลักษณะรำไหว้ครู อยู่ข้างทางหน้าค่ายทหาร มณฑลทหารบกที่ 25 จังหวัดสุรินทร์ โดยญาติๆ ระบุว่าน่าจะเสียใจมากและกระทบกระเทือนจิตใจมาก เลยยังทำใจไม่ได้ที่เสียลูกชายไปอย่างกะทันหันและเป็นลูกคนเดียว ก็เลยทำให้สติแตก ทำให้คนที่ผ่านไปผ่านมาพบเห็นต่างก็สงสารและรู้สึกเวทนาเป็นอย่างมาก และในช่วงสายเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ ได้พาตัวนางอ่อนแม่ของผู้ที่เสียชีวิตไปที่โรงพยาบาลจังหวัดสุรินทร์ด้วยอาการที่อ่อนเพลีย ทำการรักษาต่อไป

นางพรธิรา อายุ 42 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า แต่ก่อนแม่แกก็สุขภาพดีไม่มีโรคภัยไข้เจ็บอะไรเลย ตั้งแต่ลูกชายแกเสีย แกก็มีอาการซึมเศร้าไม่ค่อยกินข้าวอารมณ์ดุร้ายชอบอาละวาด แล้วแม่แกก็แต่งชุดขาวเดินออกจากบ้านจากอำเภอลำดวนจนถึงในตัวจังหวัดประมาณ 50 กิโลเมตร แล้วก็ไปรำอยู่หน้าค่ายทหารจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพเพื่อนำตัวไปรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลจังหวัดสุรินทร์ ทางโรงพยาบาลระบุว่าให้แอดมิดอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะว่าร่างกายอ่อนเพลียแล้วมีอาการซึมเศร้าอย่างมาก

ส่วนการเจรจากับตัวแทนบริษัทสายสื่อสารต้นเหตุเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่บ้านของผู้ตาย ยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องการชดเชยค่าเสียหายแต่อย่างใด เพราะภรรยาผู้ตายได้เรียกค่าชดเชยค่าเสียหายต่างๆ อาทิ ค่าเลี้ยงดูลูกๆ ค่าเทอมค่าเล่าเรียนในอนาคต ค่าขาดประโยชน์ต่างๆ ทั้งจากธุรกิจรถตู้เหมา และรายได้อื่นๆ ที่ผู้ตายหาได้ในช่วงมีชีวิต และแม่ของสามีที่ต้องมาเสียสติ เป็นเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งทางบริษัทจะนำเข้าที่ประชุมอีกครั้ง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook