นายกฯ ศรีลังกา ลาออก! หลังเจอประท้วงขับไล่อย่างหนักจากวิกฤตเศรษฐกิจ
"มหินทรา ราชปักษา" นายกรัฐมนตรีศรีลังกา ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 9 พ.ค.) หลังเผชิญการประท้วงอย่างหนักต่อเนื่องในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาจากวิกฤตเศรษฐกิจ
ทางการศรีลังกาแถลงว่า นายกฯ ราชปักษา ยื่นใบลาออกกับประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ผู้เป็นน้องชายของตนเอง หลังจากที่ผู้นำทั้งสองตกเป็นเป้าหมายของการประท้วงให้ลงจากตำแหน่ง สืบเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจรุนแรงในศรีลังกา
ขณะเดียวกัน เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลกับผู้ประท้วง บริเวณด้านนอกสำนักงานประธานาธิบดีในกรุงโคลัมโบ ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 200 คน โดยตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาและหัวฉีดน้ำแรงดันสูงในการสลายการชุมนุม และมีการประกาศมาตรการเคอร์ฟิวเพื่อควบคุมการประท้วง
ผู้ประท้วงพากันเดินขบวนทั่วศรีลังกาเป็นเวลาต่อเนื่องหลายสัปดาห์ เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้ซึ่งนำไปสู่การขาดแคลนสินค้าจำเป็นต่างๆ และไฟฟ้าถูกตัดต่อเนื่อง
ปัจจุบัน ศรีลังกามีหนี้ต่างประเทศที่ถึงกำหนดชำระภายในปีนี้ราว 4,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึงหนี้พันธบัตรที่ต้องจ่ายคืนในเดือนกรกฎาคมนี้มูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรัฐบาลศรีลังกาพยายามกู้ยืมเงินจากแหล่งต่างๆ มาชดใช้หนี้ เช่น ไอเอ็มเอฟ ธนาคารโลก และอินเดีย
ทั้งนี้ อิทธิพลทางการเมืองของตระกูลราชปักษา ส่วนหนึ่งมาจากบทบาทของนายกรัฐมนตรีมหินทรา ราชปักษา เมื่อครั้งที่เขาเคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีศรีลังกา ช่วงปี 2009 จากผลงานที่เขายุติสงครามกลางเมืองจากความขัดแย้งด้านชาติพันธุ์ที่กินเวลานานถึง 25 ปีได้สำเร็จ
แต่ในขณะนี้ หลายฝ่ายเริ่มแสดงความกังวลว่า การกุมอำนาจทางการเมืองของตระกูลราชปักษาในกระทรวงสำคัญต่างๆ อาจกระทบกับความเป็นอิสระในการบริหารประเทศ และทำให้รัฐบาลไม่สามารถจัดการกับวิกฤตต่างๆ ที่ถาโถมศรีลังกาในเวลานี้ได้
ก่อนหน้านี้มีสมาชิกครอบครัวอีก 5 คนในตระกูลราชปักษาที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ รวมทั้ง "บาซิล ราชปักษา" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง น้องชายของประธานาธิบดี ซึ่งต่อมาถูกปลดจากตำแหน่ง และ "นามาล ราชปักษา" ผู้เป็นหลานชายประธานาธิบดี ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกีฬาของศรีลังกาเช่นกัน