ย้อนรอย 3 คดีสุดไวรัล ผลงานเด็ด "หมอปลา" เปิดโปงเจ้าอาวาส-ศูนย์บำบัด-พระบิดา

ย้อนรอย 3 คดีสุดไวรัล ผลงานเด็ด "หมอปลา" เปิดโปงเจ้าอาวาส-ศูนย์บำบัด-พระบิดา

ย้อนรอย 3 คดีสุดไวรัล ผลงานเด็ด "หมอปลา" เปิดโปงเจ้าอาวาส-ศูนย์บำบัด-พระบิดา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เชื่อว่านาทีนี้คนไทยคงแทบไม่มีใครไม่รู้จักหรือเคยได้ยินชื่อ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี แม้จะมีชื่อเสียงมาจากการปราบผี สื่อวิญญาณ แต่ในระยะหลังได้สร้างความสั่นสะเทือนในสังคม ด้วยการเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลในวงการสงฆ์ วัด ลัทธิ หรือความเชื่อผิดๆ รวมทั้งช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์จากการถูกทำร้ายทารุณไม่ว่าจะทางร่างกายหรือจิตใจ รวมทั้ง รับคนที่ตกทุกข์ได้ยากมาดูแลที่บ้านด้วยโดยไม่คิดค่าตอบแทน 

สำหรับ หมอปลา มีชื่อจริงว่า นายจีระพันธ์ เพชรขาว ชื่อเล่นว่า ปลา เป็นชาวเพชรบุรี เกิดวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2521 หมอปลาเป็นลูกชายคนที่ 4 จากบรรดาพี่น้องทั้งหมด 6 คน จบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 

3 ผลงานโดดเด่นของ "หมอปลา" ที่สร้างความฮือฮาในสังคม 

เปิดโปง "พระบิดา" ลัทธิประหลาด สาวกกินอุจจาระ-ปัสสาวะ-ขี้ไคล 

เป็นคดีที่สังคมกำลังวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลัง หมอปลา นำทีมงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ นำกำลังเข้าตรวจสอบลัทธิ "พระบิดา" หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีชายสูงวัยตั้งตนเป็นเจ้าสำนัก อ้างตัวเป็นพระบิดาของทุกศาสนา อยู่ในพื้นที่ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ สอนให้ลูกศิษย์ดื่มปัสสาวะ กินเสมหะ กินอุจจาระ รวมถึงคราบไคลจากร่างกาย อ้างว่าเป็นยารักษาโรค จากการตรวจสอบในสำนัก ยังพบเจอศพมากถึง 11 ศพ คนในสำนักอ้างว่า เป็นร่างผู้เสียชีวิตที่รอการขึ้นสวรรค์ แต่ไม่สามารถนำใบยืนยันการเสียชีวิต มาให้เจ้าหน้าที่ดูได้ 5 ราย

นายทวี หรือ พระบิดา เจ้าสำนักฤาษีประหลาด ถูกตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา คือบุกรุกป่า ,บุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ และพรบ.ควบคุมโรค จากการไม่สวมหน้ากากอนามัย ซึ่ง 3 ข้อหานี้ ให้การรับสารภาพ ประเด็นที่จะดำเนินคดีเพิ่มเติม คือ กระบวนการรักษาอาการเจ็บป่วย ส่วนคดีเกี่ยวเนื่องกับศพ อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ แม้จะมีใบมรณบัตรรับรอง แต่แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า จะจัดการศพด้วยการเผา แต่กลับมาเก็บไว้ที่สำนักฤาษี เช่นเดียวกับเบาะแสว่า มีการหลอกลวงเอาทรัพย์สินจากลูกศิษย์ที่ศรัทธา ต้องสอบสวนขยายผลต่อไป

ทลายศูนย์บำบัดยาวัดดังหรือนรกบนดิน กินอยู่แออัด จนมีคนตาย 3 ศพ

ย้อนไปเมื่อเดือน ก.ค. 64 หมอปลา ได้รับการร้องเรียนเรื่องศูนย์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด มีขั้นตอนการบำบัดและรักษาไม่ถูกต้อง ไม่ถูกสุขลักษณะ มีการทำร้ายทรมานร่างกายและจิตใจ โดยการให้อดอาหาร ทำร้ายทุบตี  นอกจากนี้ยังพบว่า มีการเรียกรับเงินในการเข้ารับการบำบัดและเรียกเก็บค่าใช้จ่ายรายเดือน รวมทั้งหากต้องการออกจากศูนย์มีการบังคับเรียกเก็บเงินหลักหมื่น 

ศูนย์บำบัดดังกล่าวอยู่ภายใน วัดท่าพุราษฎร์บำรุง อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งหมอปลามีหลักฐานยืนยันว่าสถานบำบัดแห่งนี้ มีการทำร้ายร่างกายผู้เข้ารับการบำบัด มีการกักขังผู้เข้ารับการบำบัดไว้ในโรงนอนที่มีความแออัด และมีห้องน้ำเพียง 2 ห้อง โดยผู้เข้ารับการบำบัดอาศัยอยู่ภายในเรือนนอนถึง 216 คน จนถูกขนานนามว่า นรกบนดิน

หากผู้เข้ารับการบำบัดรายใดไม่อยากอยู่ในเรือนนอน ก็จะต้องยินยอมบวชเป็นพระสงฆ์ เพื่อจะได้ไปอาศัยอยู่ในกุฏิของพระสงฆ์ แต่ในการจะบวชพระนั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเองอีก 20,000 บาท แลกกับการจะได้บวชเป็นพระและไม่ต้องอยู่ในเรือนนอน

บุกกุฏิ "เจ้าอาวาสที่คาดผม" จนกลายเป็นไวรัล สุดพีคเจอสีกาแอบใต้บันได

เมื่อวันที่ 9 ก.พ.65 ที่ผ่านมา หมอปลา นำทัพกองทัพสื่อมวลชนเดินทางไปที่กุฏิเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่ง ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าพบสีกาเข้าไปในกุฏิเจ้าอาวาสตั้งแต่ช่วง 16.00 น. และยังไม่กลับออกมา โดยมีชาวบ้านในพื้นที่กว่าร้อยคนเดินทางมาร่วมพิสูจน์ความจริงในครั้งนี้  

พระสมุห์ อายุ 65  ปี เจ้าอาวาส ได้พาหมอปลาและสื่อมวลชนค้นดูในกุฏิเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่มีผู้หญิงหลบซ่อนตัวในกุฏิตามที่ถูกกล่าวหา แต่กองทัพสื่อมวลชนก็ตาไวเหลือบไปเห็นยางรัดผมสีดำของสุภาพสตรี ตกอยู่บนที่นอนของเจ้าอาวาส สื่อมวลชนจึงได้สอบถามว่าเป็นของใคร ตัวเจ้าอาวาสรีบชี้แจงว่ายางรัดผมดังกล่าว เป็นของตนที่เอาไว้รัดศีรษะแก้ปวดหัว ก่อนที่จะแสดงวิธีการรัดศีรษะให้ดู  จนกลายเป็นไวรัลที่ชาวเน็ตนำไปล้อเลียนและวิพากษ์วิจารณ์

นอกจากนี้ ที่ชั้นล่างของกุฏิ กลับได้พบเสื้อชั้นในของผู้หญิงสีฟ้า ตกอยู่ที่พื้นใต้บันไดทางขึ้นชั้นสอง ใกล้กับราวไม้ที่มีผ้าจีวรวางคลุมอยู่ เมื่อผู้สื่อข่าวเปิดผ้าจีวรออกกลับได้พบว่ามีหญิงสาวนั่งขดตัวกอดเสื้อผ้า อยู่ในสภาพที่ไม่สวมใส่ชุดชั้นในแอบซ่อนตัวในจุดดังกล่าว และยังพบเหล้าและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซุกซ่อนอยู่ในกุฏิอีกจำนวนมากด้วย 

ซึ่งนอกจากเคสเจ้าอาวาสที่คาดผมนี้แล้ว หมอปลา ก็ได้มีการบุกวัดเพื่อตรวจสอบและเปิดโปงพระสงฆ์อีกหลายรูปหลายวัด จนมีประเด็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก ถึงกับขึ้นป้ายห้ามหมอปลาเข้าวัด ก่อนจะนำไปสู่การขุดคุ้ยพฤติกรรมไม่เหมาะสมของเจ้าอาวาส

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook