เคาะแล้ว! มติ กมธ.กฎหมายลูก เลือกสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แบบหาร 100

เคาะแล้ว! มติ กมธ.กฎหมายลูก เลือกสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แบบหาร 100

เคาะแล้ว! มติ กมธ.กฎหมายลูก เลือกสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แบบหาร 100
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่..) พ.ศ. .... รัฐสภา มีมติเลือกใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แบบหาร 100 เตรียมส่งรัฐสภาโหวตชี้ขาดต่อไป

วันนี้ (12 พ.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่..) พ.ศ. .... รัฐสภา แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ว่า ที่ประชุมมีการลงมติ กรณีการพิจารณาจำนวน ส.ส. บัญชีรายชื่อ โดยกรรมาธิการมีมติเห็นด้วย 32 เสียง ไม่เห็นด้วย 11 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง ให้ใช้สูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยการนำจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน มาหารเฉลี่ยผลคะแนนการเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับ เพื่อหาจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมือง โดยไม่มีการกำหนดจำนวน ส.ส.ที่แต่ละพรรคการเมืองพึงมี ซึ่งกรรมาธิการฯ เสียงข้างน้อยที่เห็นต่าง ได้สงวนคำแปรญัตติไว้ เพื่อไปพิจารณาต่ออีกครั้งในวาระ 2-3 ในที่ประชุมใหญ่รัฐสภา

ทั้งนี้ มีรายงานว่า กรรมาธิการฯ ที่สงวนคำแปรญัตติให้นำจำนวน ส.ส.ทั้งสภา 500 คน มาหารเฉลี่ย ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ตามระบบการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ ได้แก่ นายระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมาธิการฯ ในสัดส่วนพรรคเสรีรวมไทย และสมาชิกวุฒิสภา จำนวนหนึ่ง

ขณะเดียวกัน คณะกรรมาธิการฯ ได้กำหนดขั้นตอนการนับคะแนนการเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักร ที่เปิดช่องให้กระทรวงการต่างประเทศโดยสถานเอกอัครราชทูตที่มีความพร้อมสามารถนับผลคะแนนการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรได้ เพื่อแก้ไขปัญหาการส่งบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรกลับมานับคะแนนที่สำนักงาน กกต. ไม่ทันเวลา จนทำให้เกิดบัตรเสียเหมือนการเลือกตั้งในปี 2562 ที่บัตรเลือกตั้งของประเทศนิวซีแลนด์มาถึงประเทศไทยไม่ทัน

ทั้งนี้ ในการนับคะแนนตามหน่วยเลือกตั้งต่างๆ คณะกรรมาธิการฯ ยังกำหนดแนวทางการปฏิบัติของคณะกรรมการประจำหน่วยแต่ละหน่วยให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่ออนุญาตให้ประชาชนหรือผู้สังเกตการณ์เลือกตั้ง สามารถบันทึกภาพ บันทึกเสียง หรือถ่ายทอดสดผ่านช่องทางใดๆ ระหว่างการนับคะแนนได้ แต่จะต้องไม่เป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย เพื่อความโปร่งใสของการเลือกตั้ง และเมื่อกรรมการประจำหน่วยนับคะแนนเสร็จสิ้นแล้ว จะต้องส่งผลคะแนนไปยัง กกต.จังหวัด เพื่อประกาศผลคะแนนผ่านช่องทางอิเลคทรอนิกส์ เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้ เนื่องจากในอดีตการหาผลคะแนนรายหน่วยเลือกตั้งเป็นไปได้ยาก มีขั้นตอนมาก ไม่ชัดเจน ดังนั้น คณะกรรมาธิการฯ จึงกำหนดให้ต้องมีการประกาศผลในจังหวัด ภายใน 72 ชั่วโมงหลังการเลือกตั้ง

สำหรับความคืบหน้าของการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวนั้น นายสมชัย ระบุว่า ในสัปดาห์นี้จะเสร็จสิ้นในส่วนของเนื้อหา และสัปดาห์หน้าในวันพุธที่ 18 พ.ค. จะเชิญผู้แปรญัตติเข้ามาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯ เพื่อรับฟังความเห็น ก่อนจะดำเนินการสรุปและส่งให้ประธานรัฐสภาต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook