หนุ่มผวาสาวแฟนเก่าตามรังควาน ทุบรถ-กรีดเขียนคำหยาบ ดักรอทำร้ายหน้าบริษัท

หนุ่มผวาสาวแฟนเก่าตามรังควาน ทุบรถ-กรีดเขียนคำหยาบ ดักรอทำร้ายหน้าบริษัท

หนุ่มผวาสาวแฟนเก่าตามรังควาน ทุบรถ-กรีดเขียนคำหยาบ ดักรอทำร้ายหน้าบริษัท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มผวาสาวแฟนเก่าตามรังควาน ทุบรถ เจาะยาง กรีดเขียนคำหยาบรอบคัน ซ้ำยังมาดักรอทำร้ายหน้าบริษัท

จากรณี นายศักดิ์สิทธิ์ อายุ 37 ปี ชาว ต.โพนสูง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ได้โพสต์คลิประบุว่า ถูกแฟนเก่าที่เลิกรากันไปแล้วตามรังควาน โดยระบุข้อความในโพสต์ ว่า

“สวัสดีครับ คือรถผมโดนทุบครับเหตุเกิดวันที่23/4/65 แม่โทรมาหาว่ากระจกรถโดนทุบด้านข้างคนขับ และ ด้านหลังรถ จึงได้ไปแจ้งความเป็นไว้หลักฐาน และต่อมาได้ขอดูกล้องวงจรปิดคนก่อเหตุมาทุบรถช่วง 11:00 น. รู้ตัวคนทุบคือคนที่เคยคุยด้วย แต่ผมไม่ได้คุยต่อ เบื้องต้นเข้าไปคุยว่าทุบทำไม ทำลายทรัพย์สินทำไม เขาบอกเอาคืนและไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ และจะติดคุกเอาว่างั้น ทางผมเลยจะปล่อยเป็นทางเต้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกไปแล้ว1ครั้ง แต่ยังไม่มีนัดไกล่เกลี่ยกันเลย วันที่ 4/5/65 ช่วงเวลา 00:41 น. คนก่อเหตุคนเดิมได้เข้ามาใช้ของมีคมมากรีดที่หน้ากระโปรงรถ และด้านหลังประตูด้านขวามือและเข้าไปใช้อาวุธกรีดที่เบาะข้างคนขับขาด และได้ทำการเจาะยางรถยนต์ฝั่งคนขับ แล้วขี่หนีไป

วันที่ 7/5/65 คนก่อเหตุคนเดิมได้มาดักซุ่มรอที่หน้าบริษัทช่วงเลิกงาน 17:30น. พร้อมพกขวดและมีดหวังจะมาทำร้ายผม และได้มีการแย่งอาวุธมีดออกจากตัว ส่วนขวดเหล้าได้มีการโยนใส่ผม แต่ไม่โดนเบื้องต้นได้เรียกเพื่อนพนักงานมาช่วยจับ และโทรแจ้ง191 เบื้องต้นโดนปรับ1,000 บาท แล้วปล่อยตัวออกมา ยอมรับเลยครับตอนนี้ครอบครัวผมอยู่อย่างหวาดระแวง ช่วยผมด้วยครับ รถผมก็ยังผ่อนไม่หมดต้องหาเงินมาซ่อมเอง"

(15 พ.ค.65) เมื่อเวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายศักดิ์สิทธิ์ เหาะเหิน หรือ ตั้ม ผู้เสียหาย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง พร้อมกับนำตรวจสอบร่องรอยการถูกทุบรถยนต์เก๋ง พร้อมกับเล่าว่า ครั้งแรกเหตุเกิดที่โรงจอดรถในโรงแรมมีชื่อแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี เมื่อเวลา 11 .00 น. วันที่ 23 เมษายน 2565 ผู้ก่อเหตุคืออดีตแฟนที่คบกันประมาณ 3 เดือน หลังรู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊ก คือ น.ส.ภา อายุ 38 ปี ชาว อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ก่อเหตุใช้ก้อนหินทุบกระจกหลังรถ และกระจกประตูหน้าด้านซ้ายของตนแตก จึงนำภาพกล้องวงจรปิดของโรงแรมมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเจราไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหายกัน แต่ผู้ก่อเหตุก็ไม่ยอมมาพบตำรวจ แม้ว่าทางตำรวจจะออกไปแล้วก็ตาม แล้วเรื่องก็เงียบไป

ต่อมาเวลา 00.41 น.วันที่ 4 พฤษภาคม 2565 ผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์มาที่จอดรถที่เดิม ใช้มีดพกกรีดกระโปรงห้องเครื่องหน้ารถ และประตูรถด้านหลังฝั่งซ้าย เป็นข้อความหยาบคาย และกรีดเบาะรถด้านหน้าฝั่งซ้ายจนขาด แถมยังใช้มีดพกเจาะยางรถด้านหน้าฝั่งคนขับจนแตกรั่ว รวมมูลค่าความเสียหาย 2 ครั้ง ประมาณ 1.3 แสนบาท จึงนำคลิปกล้องวงจรปิดเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.ณัฐกานต์ ดาวฤกษ์ รอง สว.สอบสวน  สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ก่อนนำรถเข้าศูนย์ เพื่อประเมินราคาซ่อม

หลังจากนั้นเมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 7 พฤษภาคม 2565 ผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์มาดักรอที่หน้าที่ทำงาน ถือขวดเหล้าขาวและมีดพก ปรี่เข้ามาจะทำร้ายตน ขว้างปาขวดเหล้าขาวใส่ตนแต่ไม่ถูก ก่อนที่เพื่อนร่วมงานเข้ามาห้าม และโทรแจ้งตำรวจควบคุมตัวไปที่ สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีในข้อหา “พกพาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” และตำรวจได้ปรับเงินผู้ก่อเหตุเป็นจำนวนเงิน 1 พันบาท พร้อมกับว่ากล่าวตักเตือนผู้ก่อเหตุก่อนปล่อยตัวไป ตนกลัวจะไม่ได้ความปลอดภัย และไม่ได้รับความเป็นธรรม ซ้ำผู้ก่อเหตุยังส่งข้อความมาข่มขู่แฟนใหม่ของตน รวมทั้งเพื่อนสนิทในเฟซบุ๊กของตนด้วย ที่เป็นสาเหตุให้เลิกรากัน จึงส่งคลิปเหตุการณ์ทั้ง 2 ครั้ง ไปให้แอดมินเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น 2 ช่วงเย็นวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

นายศักดิ์สิทธิ์ เปิดเผยว่า สองครั้งที่รถของตนโดนทุบกระจก กรีดสีและเจาะยาง ที่โรงจอดรถของโรงแรม เนื่องจากพ่อและแม่ของตนทำงานอยู่ที่นั่น รวมทั้งตนและครอบครัวก็พักอาศัยอยู่ที่นั่นเช่นกัน สาเหตุเนื่องจากครอบครัวตนไม่ชอบอดีตแฟนเก่า ด้วยคำพูดและกิริยาทางทางของเขา จึงตัดสินใจไม่คุยกันต่อหรือเลิกรากันเงียบหายไปเลย เพราะไปด้วยกันไม่ได้ ตนจึงต้องเลือกครอบครัว ในส่วนตัวตนคิดว่าเขาไม่น่าจะทำอย่างนี้ เพราะได้เลิกรากันไปแล้ว และน่ามาคุยกันจบกันไปด้วยดีจะดีกว่า อีกอย่างทรัพย์สินที่เขาทุบทำลายก็เป็นทรัพย์สินของตนด้วย และทรัพย์สินไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย เหมือนกับทำลายจิตใจและหยามน้ำใจเรา

ครั้งแรกตนได้แจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อขอเจรจาไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหาย ครั้งที่สองมาแจ้งความอีก แต่ตำรวจบอกว่าตนได้แจ้งความไว้แล้วก่อนหน้านี้ จึงไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี แนะนะให้ตนแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ให้แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน จึงย้อนกลับมาแจ้งความอีกครั้ง ซึ่งตำรวจก็รับแจ้งไว้เป็นคดีความเรียบร้อยแล้ว พยายามเจรจาพูดคุยกับเขา แต่เขาก็ไม่ยอมชดใช้ และยังบอกกับตนเองอีกว่าจะยอมติดคุกชดใช้ค่าเสียหายแทน ฝากถึงคนก่อเหตุหากได้ดูคลิปแล้ว ให้ออกมารับผิดชอบในสิ่งที่กระทำลงไป จะได้มีที่ยืนอยู่ในสังคม หากไม่ยอมชดใช้ก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะรถคันนี้เป็นรถคัวแรกของตนที่ซื้อผ่อนส่งมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเองทั้งสิ้น

น.ส.บี อายุ 37 ปี  แฟนใหม่ของนายศักดิ์สิทธิ์  บอกว่า ตนถูกอดีตแฟนเก่าของนายศักดิ์สิทธิ์ มาคุกคาม ด้วยการแชทเข้ามาในเฟซบุ๊ก ต่อว่าใช้คำไม่สุภาพ เหมือนลักษณะจะข่มขืน ด้วย จึงได้ทำการบล็อกเอาไว้ กล่าวหาว่าตนเป็นเมียน้อย ที่จริงแล้ว นายศักดิ์สิทธิ์ เลิกกับเขาแล้วถึงมาคบกับตน ทำให้งงเหมือนกัน ที่โดนต่อว่า เพราะไม่รู้จักกับแฟนเก่าของนายศักดิ์สิทธิ์มาก่อนเลย หากไม่หยุดคุกคามก็จะไปแจ้งความดำเนินคดี เรื่องที่จะมาทะเลาะแย่งผู้ชาย ตนคงไม่เอาด้วย แต่ขอมาให้รับผิดชอบกับสิ่งที่ตนเองกระทำลงไปด้วย

 ต่อมาเมื่อเวลา 13 .00 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบริเวณ สี่แยกหนองสำโรง ถ.เลี่ยงเมือง ต.บ้านเลื่อม อ.เมืองอุดรธานี เพื่อขอสัมภาษณ์ น.ส.เอ แฟนเก่าของนายศักดิ์สิทธิ์ กำลังนั่งกินข้าวกลางวันอยู่ข้างร้าน พร้อมกับเล่นโทรศัพท์ไปด้วย เมื่อผู้สื่อสอบถามข้อมูลกับ น.ส.เอ แต่ปฏิเสธและไม่ยอมให้ข้อมูลชี้แจงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นใดๆ ทั้งสิ้น พูดเพียงสั้นๆว่าให้นักข่าวไปถามคนทำเอง

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook