หนุ่มขับเก๋งพุ่งตกแม่น้ำสวี ทุบกระจกหนีรอดตายหวุดหวิด ไทยมุงไม่พลาดจดเลขทะเบียน

หนุ่มขับเก๋งพุ่งตกแม่น้ำสวี ทุบกระจกหนีรอดตายหวุดหวิด ไทยมุงไม่พลาดจดเลขทะเบียน

หนุ่มขับเก๋งพุ่งตกแม่น้ำสวี ทุบกระจกหนีรอดตายหวุดหวิด ไทยมุงไม่พลาดจดเลขทะเบียน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มขับเก๋งพุ่งตกแม่น้ำสวีจมทั้งคัน ทุบกระจกหนีรอดตายหวุดหวิด ยืนยันไม่ได้เมา ไทยมุงไม่พลาดจดเลขทะเบียนลุ้นหวยงวดนี้

(15 พ.ค. 65) เมื่อเวลา 11.00 น. ศูนย์วิทยุกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ได้รับการประสานของกำลังชุดปะดาน้ำ เข้าช่วยเหลือกู้รถยนต์เก๋ง ที่เกิดอุบัติเหตุพุ่งตกลงในแม่น้ำสวี อ.สวี จ.ชุมพร จึงสั่งการให้หน่วยกู้ชีพ กู้ภัยทางน้ำ ของมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ร่วมกับ ชุดกู้ภัยทางน้ำของเทศบาลตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร จัดกำลังพร้อมอุปกรณ์เข้าทำการช่วยเหลือ

โดยที่เกิดเหตุอยู่บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำสวี พบบรรดาไทยมุงจำนวนมาก มายืนออรออยู่ริมทั้งสองฝั่งของแม่น้ำสวี และบางรายหลังทราบข่าวได้ขับรถมาจอดบนสะพาน เพื่อดูการทำงานของ เจ้าหน้าที่กู้ภัย และชุดปะดาน้ำ กู้รถยนต์เก๋งขึ้นมา เพื่อลุ้นหมายเลขทะเบียนของรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว ว่าหมายเลขอะไรเพื่อจะนำไปเสี่ยงโชคซื้อหวยในวันพรุ่งนี้ ทำให้บนสะพานต้องเสียช่องจราจรด้านซ้ายไป 1 ช่อง หน่วยกู้ภัย จึงต้องนำเครื่องกั้น มากันรถที่สัญจรไปมาเพื่อความปลอดภัยของบรรดาไทยมุงที่มารอลุ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางชุดปะดาน้ำ ได้ลงควานหารถยนต์อยู่สักพัก เนื่องจากไม่รู้พิกัดที่แน่นอน จนในที่สุดพบรถยนต์คันดังกล่าวจมอยู่กลางน้ำ ห่างจากฝั่งประมาณ 30 เมตร ในสภาพจมหงายท้อง จึงได้ใช้รถยก จำนวน 2 คัน ช่วยกันวิลรถขึ้นได้ โดยใช้เวลากว่า 4 ชม. ท่ามกลางใจสั่นระทึกของคอหวย ที่รอลุ้น ก่อนจะมีเสียงเฮลั่นในพื้นที่ หลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย นำป้ายทะเบียน 954 กรุงเทพมหานคร ขึ้นรถมายกโชว์ ให้บรรดาไทยมุงได้จดเลข ได้ถ่ายรูป เพื่อนำไปเสี่ยงโชคลุ้นรางวัลก่อนตรวจหวยในวันพรุ่งนี้ งวดวันที่ 16 พฤษภาคม ต่อไป

สำหรับสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ นายสมศักดิ์ อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นญาติของเจ้ารถคันดังกล่าว และเดินทางมาเป็นธุระจัดการกู้รถในครั้งนี้ เปิดเผยว่า รถยนต์นั้นเป็นของหลานภรรยา ยี่ห้อนิสสัน สีขาว รุ่นทีด้า หมายเลขทะเบียน 954 กรุงเทพมหานคร ส่วนคนที่ขับรถคือนายกอล์ฟ ซึ่งรู้เพียงชื่อเล่น เป็นคนกรุงเทพฯ ที่มาร่วมงานศพยายของหลานภรรยา โดยเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 4 ทุ่มเศษ นายกอล์ฟ ได้นั่งดื่มสุราอยู่ในงานจะเมามากหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ที่รู้คือระหว่างที่นั่งดื่มสุราอยู่ ได้มีคนในงานได้เอาทุเรียนมาปอก แต่ด้วยทุเรียนมีกลิ่น ทำให้นายกอล์ฟ รู้สึกเหม็นและมึนหัว จึงขอตัวไปนอนพักที่ห้องพัก

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นายกอล์ฟ หายไปสักพัก แล้วก็ใช้โทรศัพท์คนอื่นโทรมาหาหลานชาย และบอกว่า ขับรถตกน้ำ และได้ทุบกระจกออกมาได้ และมีชาวบ้านได้ช่วยเหลือนำขึ้นฝั่ง จึงได้มาดูที่เกิดเหตุ แต่ด้วยความมืด ไม่สามารถจะกู้รถขึ้นมาได้ จึงได้ประสานหน่วยกู้ภัยมาช่วยกู้ในวันนี้

ด้าน น.ส.เสาวลักษณ์ อายุ 19 ปี เปิดเผยว่า เมื่อคืนประมาณ 3 ทุ่มเศษ ตนเองพร้อมพ่อและแม่ นั่งดูโทรทัศน์อยู่ภายในบ้าน อยู่ๆ ก็ได้เสียงเบรก 1 ครั้ง แล้วก็มีเสียงดังตูมใหญ่ดังตามมา ตนเองพร้อมพ่อและแม่ จึงได้เปิดประตูบ้านออกมา แล้วเดินมาดู ก็พบแสงไฟสะท้อนอยู่ในน้ำ จึงเชื่อว่ามีรถยนต์พุ่งตกลงในน้ำแน่นอน จึงได้ใช้ไฟฉายสอดส่องไปจุดที่รถตก ก็สังเกตเห็นคนลอยคอเกาะกิ่งไม้ อยู่ในน้ำข้างตอม่อสะพาน จึงเรียกเพื่อนบ้านให้มาช่วย

ในขณะนายสายันต์ อายุ 60 ปี กล่าวว่า หลังจากที่ทุกคนวิ่งงออกมาเพื่อช่วยคนขับ ซึ่งลอยคออยู่ในน้ำ ตนเองได้เอาเชือกผูกแกลลอนน้ำมัน วิ่งไปบนสะพาน แล้วหย่อนเชือก มาพร้อมตะโกนให้คนขับ ได้จับเชือกไว้ แล้วลากขึ้นมาบนฝั่งได้อย่างปลอดภัย ในสภาพอ่อนแรงและเป็นตะคริว โดยคนขับไม่ได้รับบาดเจ็บแต่ประการใด และคนขับยังบอกว่าได้ทุบกระจกออกมา   

   

ต่อมา นายไพโรจน์ อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์เก๋งพุ่งตกแม่น้ำสวี ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุพร้อมกับเพื่อน ในสภาพยังมึนเมา โดยมือยังถือขวดเบียร์ ที่ดื่มไปแล้วเกือบครึ่งขวด และเดินดูสภาพรถที่กู้ขึ้นมาได้ในสภาพยับเยิน กันชนหน้าหลุดลอยไปไกลเกือบ 100 เมตร กระโปรงหน้าเปิด กระจกประตูด้านฝั่งซ้ายลดลงมาครึ่งบาน ประตูหลังรถเปิด ไม่นานก็เดินมายังกลุ่มที่ช่วยเหลือตนเองเมื่อคืนพร้อมยกมือกราบไหว้ และกล่าวขอบคุณทุกคน

นายไพโรจน์ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองได้ออกจากที่พัก เพื่อจะกลับไปที่งานศพ แต่บังเอิญขับเลยจุดยูเทิร์น เล็กน้อยแต่ไม่กล้าจอดและถอยเพราะกลัวจะถูกเจ้าถิ่นต่อว่า เลยขับต่อเพื่อจะมากลับรถใต้สะพาน แต่ด้วยความไม่ชินทาง เห็นแท่งปูนกันขอบทางเปิดก็นึกว่าต้องเข้าไปใช้ช่องกลับรถอีกช่อง แต่กลับไม่ใช่ รถกลับพุ่งและตกลงในแม่น้ำดังกล่าว ยืนยันตนเองไม่ได้เมา (นะ)

นายไพโรจน์ กล่าวว่า พอรู้ว่ารถพุ่งตกลงในน้ำแล้ว ก็รีบกดกระจก แต่เปิดได้ครึ่งเดียว ตนเองจึงได้พยายามหนีตาย มุดกระจกอย่างทุลักทุเลจนออกมาได้ และลอยคอมาเกาะกิ่งไม้ ซึ่งตะคริวเริ่มจะจับที่แขนขา พอเหลือบเห็นมีคนฉายแสงไฟมาทางแม่น้ำ จึงรวบรวมกำลังตะโกนขอความช่วยเหลือ และนับว่าเป็นความโชคของตนที่ชาวบ้านได้มาเห็นและมาช่วยจนตนเองรอดดังปาฏิหาริย์  ส่วนพระที่ห้อยติดคอตลอดนั้น เป็นท้าวเวสสุวรรณ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook