แมคโดนัลด์ ประกาศถอนตัวออกจากรัสเซีย ขายทิ้งร้านสาขา 850 แห่ง

แมคโดนัลด์ ประกาศถอนตัวออกจากรัสเซีย พร้อมขายธุรกิจของตนที่เปิดทำการมากว่า 3 ทศวรรษ ด้วยสาเหตุจากภาวะสงครามในยูเครนโดยการรุกรานของกองทัพมอสโกตั้งแต่เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครชิคาโกแห่งนี้ประกาศในวันจันทร์ว่า บริษัทจะขายร้านสาขาของตนจำนวน 850 แห่งในรัสเซียทิ้ง โดยมีแผนจะหาผู้ซื้อที่สนใจมารับช่วงการว่าจ้างพนักงาน 62,000 คนต่อ พร้อมยืนยันว่า ตนจะจ่ายค่าจ้างให้พนักงานทั้งหมดต่อไปจนกว่าจะบรรลุข้อตกลงการขายกิจการ

คริส เคมป์ชินสกี ประธานและซีอีโอของบริษัท ระบุในจดหมายที่ส่งถึงพนักงานว่า แม้จะมีบางฝ่ายแย้งว่า การดำเนินธุรกิจจำหน่ายอาหารและทำการว่าจ้างพนักงานซึ่งเป็นพลเรือนจำนวนหลายหมื่นคนนั้น คือ สิ่งที่บริษัทควรกระทำ แต่ “เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะเพิกเฉยต่อวิกฤตมนุษยธรรมที่เกิดขึ้นจากภาวะสงครามในยูเครน”

ทั้งนี้ แมคโดนัลด์ ระบุว่า นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัทที่ตัดสินใจละทิ้งตลาดที่มีขนาดใหญ่ เช่น รัสเซีย โดยมีแผนจะค่อย ๆ รื้อถอนสัญลักษณ์ golden arch หรือ สัญลักษณ์เส้นโค้ง 2 เส้น ที่เป็นเหมือนตัวอักษร “เอ็ม” (M) และสัญลักษณ์อื่น ๆ ที่ผูกติดกับชื่อบริษัทในเร็ว ๆ นี้

อย่างไรก็ตาม แมคโดนัลด์ ยืนยันว่า จะยังคงเก็บเครื่องหมายการค้าของตนในรัสเซียไว้และอาจจะต้องใช้อำนาจกฎหมายบังคับใช้การคุ้มครองต่อไป หากสถานการณ์มีความจำเป็น

แม็กซิม ซิตช์ ศาสตราจารย์ด้านการจัดการและองค์กร จากมหาวิทยาลัยแห่งมิชิแกน ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงมอสโกเมื่อครั้งที่แมคโดนัลด์เปิดร้านสาขาแรก และยังจำกระแสความตื่นเต้นในครั้งนั้นได้ กล่าวว่า การปิดตัวของแฟรนไชส์ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการคลี่คลายของสงครามเย็นระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพโซเวียต “เป็นเรื่องน่าเจ็บปวด ที่จะต้องเห็นพัฒนาการด้านบวกของระบอบประชาธิปไตยหายวับไปเพราะสงครามอันโหดร้ายป่าเถื่อนในยูเครน”

ที่ผ่านมา ธุรกิจสัญชาติตะวันตกหลายแห่งพยายามหาทางออกจากสถานการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้นเพราะรัสเซียมาโดยตลอด โดยบางแห่งประกาศพักการดำเนินธุรกิจชั่วคราว ขณะที่บางแห่งตัดสินใจประกาศปิดกิจการหลังชาติตะวันตกดำเนินมาตรการลงโทษต่อรัสเซีย และบางแห่งยังคงเดินหน้าทำธุรกิจต่อ แต่ก็ต้องเผชิญกับแรงกระแทกมากมายไปด้วย

บริษัทรถยนต์ เรโนลต์ (Renault) จากฝรั่งเศส ประกาศในวันจันทร์ว่า ตนจะขายหุ้นส่วนใหญ่ที่ตนถืออยู่ในบริษัทรถยนต์ อาฟโตวาซ (Avtovaz) ของรัสเซีย และโรงงานของตนในกรุงมอสโกให้กับรัฐบาลรัสเซีย ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง เรโนลต์ จะเป็นธุรกิจต่างชาติขนาดใหญ่แห่งแรกที่ทำการแปรรูปกลับมาเป็นของรัฐ นับตั้งแต่เกิดสงครามในยูเครนมา