สาวโพสต์คลิปอุทาหรณ์ ไม้กั้นทางเข้าคอนโดฟาดหัว ทำตีลังการ่วงตกจาก จยย.

สาวโพสต์คลิปอุทาหรณ์ เจอไม้กั้นทางเข้าคอนโดฟาดหัวอย่างแรง ตีลังกาตกจากรถมอเตอร์ไซค์ รปภ.วิ่งออกมาดูไม้กั้นก่อนกลับเข้าป้อม

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Quanlada Thanaprn ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์เจอไม้กั้นทางเข้าคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านสาธุประดิษฐ์ ตกลงมาตีหัวเธออย่างแรง จนตัวเธอเองตีลังกาตกจากรถจักรยานยนต์ ไหล่และหัวกระแทกพื้น

ซึ่งสิ่งที่ทำให้เธอติดใจ เพราะหลังเกิดเหตุ รปภ. เดินออกมาดูไม้กั้น ก่อนกลับเข้าป้อมยามไปโดยไม่ได้ช่วยเหลืออะไร ขณะที่นิติคอนโดก็ใช้เวลา 10 นาที กว่าจะออกมาสอบถามเหตุการณ์ และไม่มีการเรียกรถพาไปส่ง รพ. จนเธอต้องสอบถามเอาเองว่าเจ็บขนาดนี้ต้องไปเรียกรถเองหรือ

นอกจากนี้ หลังจากไปโรงพยาบาลเธอต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเองทุกอย่างโดยใช้ประกันส่วนตัว และยังไม่ได้รับคำขอโทษอย่างเป็นทางการ และการแสดงความรับผิดชอบใดๆ 

 

ผู้โพสต์ ระบุว่า "แจ้งไว้เป็นอุทาหรณ์นะคะ กับการโดนไม้กั้นประตูฟาดจนตกจากรถ เราเกิดอุบัติเหตุเมื่อเช้าที่หน้าคอนโด

เหตุการณ์คือเราเรียก Grab เพื่อไปทำงานปกติ ตอนกำลังออกจากคอนโด รถของเราต่อท้ายมอเตอร์ไซค์คันข้างหน้าเพื่อรอออกจากคอนโด พอมอเตอร์ไซค์คันหน้าออกไป ระหว่างที่ไม้กั้นเปิดอยู่ พี่รปภ.ก็แจ้งว่า "ออกไปได้เลย" ซึ่งพี่คนขับของเราถามย้ำว่า ออกได้เลยหรอ ทางรปภ.ก็ยืนยันว่า "ใช่"

หลังจากนั้นก็ตามคลิปค่ะ ไม้กั้นตกลงมาตีเราจนตีลังกาตกจากมอเตอร์ไซค์ สภาพคือไหล่และหัวกระแทกพื้น ณ ตอนนั้นเรานั่งอยู่ตรงที่เกิดเหตุประมาณ 5 นาที รปภ.ที่ป้อมวิ่งออกมาดูไม้กั้นและกลับเข้าป้อมไปโดยไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเราเลย

หลังจากนั้นมีพี่ผู้หญิงที่เดินมาจากคอนโดพอดี และพี่คนขับมอเตอร์ไซค์คันก่อนหน้าเข้ามาถามเรา และช่วยเราลุกขึ้นมาจากตรงนั้น ผ่านไปเป็น 10 นาที ทีมนิติถึงออกมาแบบงงๆ เดินมาถาม เป็นไงบ้างคะ เจ็บตรงไหนมั้ย เข้าไปนั่งพักตรงล็อบบี้มั้ย

เดี๋ยวนะะะะะ เราเจ็บขนาดนี้ เราต้องลากสังขารเดินกลับไปล็อบบี้หรอ ตอนนั้นคือสติแตก โทรหาแม่ร้องไห้แล้ว และเราเพิ่งผ่าตัดที่ท้องมาเดือนก่อนแผลด้านนอกปกติ แต่ข้างในเราจุกมากตอนที่ล้ม

เราต้องเป็นคนเอ่ยปากถามนิติเองว่าจะไป รพ.ค่ะ ต้องให้ออกไปเรียกรถเองเหรอ เค้าถึงออกไปเรียกแท็กซี่ให้เรา คืองงมากว่าเราที่เป็นคนบาดเจ็บ จากการที่คนของคุณบกพร่องในหน้าที่ ต้องจัดการทุกอย่างเองหมด ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเราใช้ประกันส่วนตัว

ตอนนี้ยังไม่มีการขอโทษอย่างเป็นทางการ และแสดงความรับผิดชอบใดๆ มีแค่พาไปรพ.เพราะแม่เราเป็นคนบอกให้พาไป และพอถึงรพ.ก็แจ้งว่าจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ แต่เรายื่นประกันไปพร้อมกับบัตร ณ วันนี้เลยไม่มีส่วนต่างอะไร

นึกภาพไม่ออกเลยว่า ถ้าพี่ Grab บิดรถแรงกว่านี้สภาพเราจะเป็นยังไง จะเจ็บตัวแค่ไหน ต้องลางานหรือขาดรายได้อีกเท่าไหร่ ถึงตอนนี้ยังไม่หายตกใจ มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลยจริงๆ"