"อัจฉริยะ" หอบหลักฐานร้อง DSI รับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ เชื่อเหตุฆาตกรรมอำพราง
“อัจฉริยะ” มอบหลักฐานชุดใหญ่ให้ DSI พิจารณารับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ มั่นใจดาราสาวถูกฆาตกรรมอำพราง
วันนี้ (18 พ.ค.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมในคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ "แตงโม นิดา" โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เป็นผู้รับ เพื่อขอให้ดีเอสไอรับคดีการเสียชีวิตของแตงโมเป็นคดีพิเศษ
หลังจากเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายอัจฉริยะ พร้อมด้วยชุดประดาน้ำทีมกู้ภัยหมูป่า พร้อมอุปกรณ์ดำน้ำ ลงพื้นที่บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1 จ.นนทบุรี เพื่อลงน้ำงมหาวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของแตงโม นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า วันนี้มาให้ข้อมูลตามที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอนัดหมายเอาไว้ พร้อมทั้งส่งมอบวัตถุพยานที่เป็นนิติวิทยาศาสตร์สำคัญ จำนวน 20 ชุด และพยานบุคคลจำนวน 13 ปาก โดยอ้างว่ามีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พบเรือสปีดโบ๊ท จำนวน 2 ลำ ร่วมก่อเหตุในคดีแตงโม
ทั้งนี้ นายอัจฉริยะ อ้างว่า เรืออีก 1 ลำ น่าจะถูกนำไปขายทอดตลาดแล้ว แต่ยังอยู่ในประเทศ และเชื่อว่าตำรวจน่าจะรู้ข้อมูลนี้ดี รวมทั้งยังปักใจเชื่อว่า "แซน วิศาพัช" ให้การเท็จ โดยมั่นใจว่าคดีนี้เป็นการฆาตกรรมอำพราง แบบไม่มีการวางแผนล่วงหน้า แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นเฉพาะหน้า ขณะเดียวกันยังคงเชื่อว่าบาดแผลใหญ่ข้างขวาด้านใน เกิดจากของมีคมไม่ใช่ใบพัดเรือ
รวมทั้งยังย้ำในข้อสังเกตเดิมเกี่ยวกับทรายที่พบในมือและโคลนในปอดของร่างแตงโม ซึ่งหลักฐานเหล่านี้มีทั้งพยานบุคคลที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ และพยานหลักฐานที่เป็นนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อให้พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษประกอบการพิจารณารับคดีนี้
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ยังตั้งข้อสังเกตว่า ตำรวจได้สอบกรณีแตงโมมีประวัติการรักษาโรคซึมเศร้า และตำรวจได้พบยารักษาโรคซึมเศร้าในร่างของแตงโมด้วยหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้พบสารประเภทยานอนหลับในเลือดของผู้ต้องหาคนหนึ่งในคดีนี้ เพราะหากตำรวจไม่มีการสอบประเด็นนี้ อาจเป็นไปได้ว่ามีการวางยาแตงโม และมีการสร้างพยานหลักฐานขึ้นมา เพื่อนำไปสู่จุดเริ่มต้นของการฆาตกรรมแตงโมได้ ส่วนกรณีมีเอกสารส่งไปที่บ้านพักของอัยการในคดีและระบุอักษรย่อ อ. นั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ตนเองอย่างแน่นอน เพราะตนไม่ทำอะไรแบบนั้น
ทางด้าน พ.ต.ต.วรณัน เปิดเผยว่า เบื้องต้นดีเอสไอจะรวมรวบข้อเท็จจริงและสอบปากคำพยานบุคคลที่มีการอ้างมา แต่จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ คงไม่สามารถก้าวล่วงความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษได้ ส่วนกรณีหากอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องคดีประมาท แต่นายอัจฉริยะมาร้องเนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีฆาตกรรมอำพรางนั้น เห็นว่าตรงนี้เป็นเรื่องข้อกฎหมายที่จะต้องมีการหารือกันในกรณีที่ดีเอสไอเห็นต่างจากพนักงานสอบสวนหรือตำรวจ