"เสี่ยชัช สายเปย์" เสียท่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเงินหมดบัญชี ยอมรับโง่มาก
"เสี่ยชัช สายเปย์" ยอมรับโง่มาก หลังเสียท่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทั้งไปรษณีย์ปลอม ตำรวจปลอม หลอกเงินหมดบัญชี
(19 พ.ค.65) นายธนสิทธิ์ สุขเกตุ หรือ เสี่ยชัช สายเปย์ เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.นิกร ใบเนียม สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองกำแพงเพชร หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกว่าเป็นพนักงานไปรษณีย์ อยู่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยแจ้งว่ามีพัสดุตกค้างเป็นประเภทเสื้อผ้าและมีสิ่งของผิดกฎหมาย
จากนั้นมีการโอนสายไปยังอีกบุคคลหนึ่งซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีเสียงการพูดคุยกัน โดยแต่ละคนพูดกันในทำนองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศต่างๆ อยู่ภายในห้องเดียวกันและอ้างว่าสังกัดอยู่ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังจากนั้นได้ออกกลอุบายต่างๆ นานา แจ้งกับตนว่ามีขบวนการฟอกเงินเป็นเงิน 80 ล้านบาท โดยใช้บัญชีธนาคารของตนเป็นบัญชีรับโอนเงินที่ผิดกฏหมาย และตนได้ 10 เปอร์เซ็นต์
และทางสำนักงาน ปปง. ต้องการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของตนโดยให้ตนบอกหมายเลขบัญชีธนาคารที่ใช้อยู่ พร้อมทั้งเลขบัตรประจำตัวประชาชน 4 ตัวหลังไปให้ โดยให้แอดไลน์ตามเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งมาแล้วให้ส่งข้อมูลเอกสารต่างๆ ไปให้
ซึ่งตลอดการพูดคุยทางกลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจได้พูดจาข่มขู่ว่าหากไม่ให้ความร่วมมือจะติดตามดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมทั้งส่งรูปภาพที่มีการเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหารายหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าเป็นหัวหน้าขบวนการ และรูปบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจ ระบุชื่อ ร.ต.ต.ไกรสรณ์ พากย์อารีย์ ตำแหน่ง รอง ผบ.หมู่ (สส.) สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และแจ้งว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ซัดทอดมายังตน
ทั้งนี้กลุ่มคนดังกล่าวได้พูดจาหลอกล่อให้ตนแสดงหลักฐานการเงิน โดยให้โอนเงินทั้งหมดที่มีอยู่ในธนาคารไปให้ตรวจสอบ และแจ้งว่าใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 40 นาที หลังตรวจสอบเสร็จจะโอนคืนมาให้ ซึ่งขณะนั้นตนรู้สึกตกใจกลัวเป็นอย่างมาก จึงได้ทำตามที่กลุ่มคนนั้นแจ้งมาทุกอย่าง รวมทั้งโอนเงินที่มีอยู่ในบัญชีธนาคารไปกว่า 4 พันบาท
หลังโอนเงินเสร็จ เมื่อถึงเวลาที่กำหนดตนจึงโทรศัพท์กลับไปสอบถามแต่กลับติดต่อไม่ได้อีกเลย รวมทั้งข้อความในไลน์ที่สนทนากันก็ถูกลบออกไป ตนจึงทราบว่าน่าจะถูกกลุ่มคนดังกล่าวหลอกลวงให้โอนเงินไปอย่างแน่นอน แต่ดีที่ตนแคปข้อความที่โทรศัพท์เอาไว้ได้ และนำเอาหลักฐานต่างๆ ที่มีอยู่มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนในวันนี้
ตนยอมรับว่าตกใจกลัวเป็นอย่างมาก และไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตน ที่ผ่านมาตนไม่มีเวลาดูข่าวที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในสังคมบ้านเราจริงๆ ประกอบกับตนเป็นคนซื่อใครพูดอย่างไรก็คิดไปอย่างนั้น
ตนยอมรับว่าโง่มาก ซึ่งขั้นตอนทุกอย่างเหมือนจริงมาก โดยปลอมเป็นตำรวจแล้วบอกว่าหากไม่ให้ความร่วมมือก็จะมีความผิด และห้ามบอกคนอื่นๆ ซึ่งสุดท้ายก็ให้โอนเงินในบัญชีของตนไป อ้างว่าจะได้ยืนยันว่าในบัญชีของตนมีเงินอยู่เท่านี้จริงๆ ซึ่งบัญชีนี้มีอยู่ 4,566 บาท ตนก็วิ่งไปที่หน้าตู้เอทีเอ็มขอใหัพนักงาน 7-11 และคนที่อยู่ตรงนั้นโอนให้ เพราะตนมองไม่ค่อยเห็น ทำรายการไม่ค่อยถูก สุดท้ายโอนไป 4,500 บาท จากนั้นก็ถ่ายสลิปส่งไลน์ให้มิจฉาชีพ และก็วางสายไป ตนก็โล่งใจที่จบเรื่องสักที โดยตั้งใจว่าจะไม่เล่าให้ใครฟัง สุดท้ายมาถามกับผู้สื่อข่าวก็ได้รู้ว่าตนถูกหลอก และไปแจ้งความที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร