กต.หารืออัยการสูงสุดเอาผิดบุคคลเปิดเผยเอกสารลับ
กระทรวงการต่างประเทศหารืออัยการสูงสุด เอาผิดบุคคลเปิดเผยเอกสารลับ พร้อมเตรียมตั้งคณะกรรมการสอบข้าราชการในกระทรวงหาต้นตอเอกสารรั่ว
นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ระบุนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทำเอกสารลับถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อแจ้งแนวทางการดำเนินการกับปัญหาความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณความรุนแรงว่า ได้รับรายงานว่าเอกสารที่นายจตุพรเปิดเผยเป็นหนังสือชั้นความลับของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นรายงานการวิเคราะห์ความสัมพันธ์กับกัมพูชา อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถพูดถึงรายละเอียดของเอกสารได้ เนื่องจากเป็นชั้นความลับ แต่ทราบว่าเอกสารดังกล่าวได้มีการเผยแพร่ไปในหลายหน่วยงาน รวมถึงสื่อมวลชนด้วย ดังนั้นจึงไม่อยากให้มีการแพร่ขยายต่อไปอีก เนื่องจากมี พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารว่าด้วยความลับทางราชการ พ.ศ. 2540 อยู่ เพราะไม่ทราบว่าหากมีการเผยแพร่แล้วจะมีความผิดอย่างไรหรือไม่ ทั้งนี้จะมีการหารือกับอัยการสูงสุดว่าจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างไรบ้าง
เมื่อถามว่านายจตุพรอ้างว่าได้เอกสารดังกล่าวมาจากข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ จะตรวจสอบอย่างไร นายธานี กล่าวว่า ทางกระทรวงอยู่ระหว่างพิจารณาตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยมีข้าราชการในกระทรวงระดับบริหารเป็นคณะกรรมการ ส่วนความผิดกับผู้ที่นำไปเปิดเผยจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องรอผลการสอบสวนก่อน ทั้งนี้ การสอบเรื่องดังกล่าวคงเป็นเฉพาะในกระทรวง ไม่สามารถไปตรวจสอบในหน่วยงานอื่น ๆ ได้ ต้องยอมรับว่าเอกสารดังกล่าวได้ไปถึงในหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะหน่วยงานด้านความมั่นคง ต้องให้แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบในการตรวจสอบเอง
ส่วนกรณีที่สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เปิดเผยข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของ นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ซึ่งพบว่ามีการโทรหากันระหว่างนายคำรบ และนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยจริง ไม่ได้เป็นการจัดฉากสร้างเรื่องขึ้น นายธานี กล่าวว่า กระทรวงไม่มีข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลของฝ่ายกัมพูชา อย่างไรก็ตาม เห็นว่าข้อมูลดังกล่าวคล้ายเป็นใบเสร็จเรียกเก็บเงิน แต่ไม่ได้มีข้อมูลอะไรบ่งบอก ทั้งนี้ ไม่ขอแสดงความเห็นกรณีบทสัมภาษณ์ของสมเด็จฮุน เซน ล่าสุดที่ออกมาตอบโต้กรณีนายศิวรักษ์ พร้อมกันนี้ยืนยันด้วยว่า นายกษิตได้โทร.หานายคำรบเพียงแค่ครั้งเดียว หลังจากทราบว่านายคำรบเป็นผู้ไม่พึงปรารถนา เป็นการให้กำลังใจเท่านั้น ไม่ได้โทร.หาเพื่อสั่งการใดๆ