“ส.ส.เต้” ตั้ง “บุญถาวร” เป็นที่ปรึกษาคดีแตงโม เตือนคนใส่ร้ายคุณแม่ให้หยุดการกระทำ
“ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์” ประกาศตั้ง “บุญถาวร” เป็นที่ปรึกษากฎหมายคดีแตงโม
หลังจากที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินทารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้ออกมาประกาศรับไม้ต่อในการดูแลคดีของแตงโม โดยตั้งทีมทนายของพรรคฯ เป็นผู้ดูแล และตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงร่วมกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่อาชญากรรม และคณะผู้เชี่ยวชาญ
ล่าสุดนายมงคลกิตติ์ได้ออกมาประกาศแต่งตั้งที่ปรึกษากฎหมายในคดีของแตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ เพิ่มเติมโดยโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “เนื่องจากเริ่มมีขบวนการ ใส่ร้ายวัตถุพยาน ใส่ร้ายแม่แตงโม ผมจึงขอแต่งตั้ง นายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ เป็น ที่ปรึกษากฏหมาย ในคดีแตงโม เพิ่มเติม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
ซึ่งหลังจากนายมงคลกิตติ์ได้ประกาศแต่งตั้งที่ปรึกษากฎหมายคนใหม่ นายบุญถาวรก็ได้ออกมาเคลื่อนไหว โดยได้โพสต์ข้อความกล่าวถึงการทำคดีแตงโมบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ผมเรียนตามตรงนะครับ คดีแตงโมนักกฎหมายที่ไม่ได้เป็นที่ปรึกษากฏหมายหรือมีส่วนได้เสียกับคดีแตงโมหยุดเถอะครับอย่าไปวิพากษ์วิจารณ์คดีแตงโมและการทำงานของคนที่มีหน้าที่และมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงเลย คุณแม่แตงโมและทีมงานเขาจะทำอะไรหรือไปว่าจ้างใครหรือเชิญบุคคลใดทำงานหรือช่วยเหลือทางคดีมันเป็นสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย..!
นักกฎหมายที่ดีเขาไม่เอาตัวบทกฎหมายมาข่มขู่หรือมาสอนกันหรอกครับ(ผมเคยทำผิดพลาดมาแล้ว) คุณแม่แตงโมเขามีสิทธิ์ที่จะใช้สิทธิและหน้าที่ตามกฏหมายที่รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฏหมายสูงสุดให้การรับรองคุ้มครองสิทธิ์ในการทำหน้าที่ในฐานะทายาทโดยธรรมที่จะฟ้องคดีต่อศาล
คำฟ้องที่ยื่นฟ้องจะเป็นความจริงหรือความเท็จหรือไม่มันก็เป็นสิทธิ์ของคุณแม่และทีมงานของคุณแม่ตามกฏหมายที่สามารถกระทำได้&คุณเป็นทนายความต้องมีจรรยาบรรณและมีมรรยาททางสังคมและต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของพระราชาบัญญัติทนายความและข้อบังคับว่าด้วยมรรยาททนายความโดยเคร่งครัด การออกมาวิพากษ์วิจารณ์คุณแม่และคณะบุคคลหรือคณะทำงานของคุณแม่แตงโมเพื่ออะไร”หิวแสงหรือรับงานหรือรับจ้าง” มาวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นหรือเพราะว่าด้วยเหตุผลประการใด..
สภาทนายความฯ สามารถหยิบยกข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสื่อมวลชนมาพิจารณาและมีมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้องค์กรเสียหายได้และสามารถกระทำได้ภายใต้การควบคุมของกฏหมาย(จัดระเบียบเลยครับ)
ผมเป็นนักการเมืองและนักกฎหมายก็พยายามที่จะจรรโลงสังคมและพยายามอยู่ในกรอบและจรรยาบรรณของวิชาชีพตนเอง ณ ปัจจุบัน ผมยุติการแสดงออกหรือแสดงความคิดเห็นในคดีแตงโม นับแต่เวลานี้(เว้นแต่มีการแต่งตั้งให้สามารถกระทำได้)
ด้วยความปรารถนาดี”