ผัวสุดงง เมียถูกจับเพราะกัญชา 1 ต้น นอนห้องขัง 1 คืน ต้องหายืมเงินประกันตัว

ผัวสุดงง เมียถูกจับเพราะกัญชา 1 ต้น นอนห้องขัง 1 คืน ต้องหายืมเงินประกันตัว

ผัวสุดงง เมียถูกจับเพราะกัญชา 1 ต้น นอนห้องขัง 1 คืน ต้องหายืมเงินประกันตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผัวลองปลูกกัญชา 1 ต้น หวังใช้รักษาโรค-ปรุงอาหาร เมียอยู่บ้านคนเดียวเจอจับ นอนห้องขัง 1 คืน ต้องหายืมเงินไปประกันตัว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (31 พ.ค.) ได้รับร้องเรื่องราวจาก นายชู อายุ 55 ปี ว่า นางพรพิมล อายุ 56 ปี ผู้เป็นภรรยา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จำนวน 2 นาย เข้าทำการจับกุมตัวที่ห้องพัก ม.12 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังจากพบว่ามีการปลูกต้นกัญชา 1 ต้น มีความสูงประมาณ 1 ศอก นำตัวมาดำเนินคดี

โดยมีเพื่อนบ้านได้ถ่ายคลิปวิดีโอขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัวไว้ด้วย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าทำการจับกุมไม่ได้ใส่เครื่องแบบเข้ามาแสดงตัว ซึ่งขณะเข้าทำการจับกุม นางพรพิมล อยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว

นายชู เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเองออกไปขายของภายในสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ปล่อยให้นางพรพิมลอยู่ดูแลบ้านเพียงคนเดียวที่ห้องพัก จนกระทั่งช่วงบ่ายของวันที่ 30 พ.ค.65 ก็ได้มีชายสองคนขับรถกระบะเข้ามา

โดยแจ้งว่าเป็นตำรวจชุดสืบสวนมาตามคดีรถจักรยานยนต์หาย แต่มาพบว่าที่บ้านมีต้นกัญชาปลูกอยู่หน้าบ้านจำนวน 1 ต้น ขนาดความสูงประมาณ 1 ศอก มีใบประมาณ 5-6 ใบ จึงได้ควบคุมตัวนางพรพิมลมาดำเนินคดีที่ สภ.ศรีราชา

ซึ่งเพื่อนข้างห้องเห็นเหตุการณ์จึงมาบันทึกคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน โดยเพื่อนบ้านบอกให้รอตนเองก่อน แต่ชุดจับกุมก็พยายามจะให้นางพรพิมลมาสอบปากคำที่ สภ.ศรีราชา อย่างเดียว หลังจากนั้นตนเองมาที่ สภ.ศรีราชา ก็ได้รับทราบว่าต้องเตรียมเงินประกันไว้ประมาณ 15,000-50,000 บาท

แต่ตนเองไม่มีเงิน จึงไปขอหายืมเงินจากคนรู้จักแต่ก็ยังหาไม่ได้ จนนางพรพิมลต้องถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขังเป็นเวลา 1 คืน แล้ววันนี้จึงจะนำส่งตัวไปที่ศาลจังหวัดชลบุรีต่อไป

นายชู เปิดเผยต่อว่า ต้นกัญชา 1 ต้น ดังกล่าว ตนเองไม่ได้ตั้งใจที่จะปลูกเพื่อเป็นการค้า หรือเพื่อผลประโยชน์เกี่ยวกับยาเสพติด แต่ปลูกไว้เพื่อเป็นยารักษาโรค  ที่เคยอ่านว่ากัญชามีประสิทธิภาพในการช่วยลดความดัน เบาหวานได้ และใช้ปรุงเป็นอาหารได้ ซึ่งตนเองก็ปลูกได้ไม่นานมานี้นี่เอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook