"ประยุทธ์" ซัดจำนำข้าว! รัฐบาลจ่ายหนี้แล้ว 7.8 แสนล้าน ย้ำต้องให้เบ็ดพร้อมปลา

"ประยุทธ์" ซัดจำนำข้าว! รัฐบาลจ่ายหนี้แล้ว 7.8 แสนล้าน ย้ำต้องให้เบ็ดพร้อมปลา

"ประยุทธ์" ซัดจำนำข้าว! รัฐบาลจ่ายหนี้แล้ว 7.8 แสนล้าน ย้ำต้องให้เบ็ดพร้อมปลา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกฯ ซัด "จำนำข้าว" ทำให้รัฐบาลนี้ต้องตั้งงบจ่ายหนี้ไปแล้ว 7.8 แสนล้าน จากภาวะขาดทุน 9.5 แสนล้าน ยืนยันจัดลำดับความสำคัญของวงเงินรายจ่ายประจำปี 2566 ย้ำรัฐบาลดูแลประชาชนทุกกลุ่ม เร่งสร้างความเข้มแข็งให้ภาคการเกษตร

วันนี้ (31 พ.ค. 65) เวลา 14.40 น. ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยนายกรัฐมนตรีชี้แจงกรณีที่มีการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายลงทุนปี 2566 มีจำนวนน้อย ไม่เพียงพอต่อการพัฒนาประเทศ ว่า งบประมาณที่รัฐบาลจัดตั้งมาทั้งหมดจำนวน 3,185,000 ล้านบาท

ประกอบด้วยรายจ่ายลงทุนจำนวน 695,077.4 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 21.82 ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายกำหนด รวมทั้งภาครัฐยังมีการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ อีก เช่น การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์ (TFFIF) วงเงินประมาณ 98,929 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับรายจ่ายลงทุนที่มาจากเงินงบประมาณแล้ว จะเห็นได้ว่าในปี 2566 รัฐมีเม็ดเงินเพื่อใช้จ่ายในการลงทุนของประเทศประมาณ 794,006 ล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 24.9 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี

นอกจากนี้ ยังมีโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมือง โครงการสร้างทางรถไฟเด่นชัย – เชียงของ โครงการสร้างทางรถไฟบ้านไผ่ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร นครพนม รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเข้ม โครงการรถไฟไทย – จีน ระบบรถไฟชานเมือง โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงที่ 2 ช่วงบางใหญ่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของงบประมาณด้านการเกษตร รัฐบาลได้ดำเนินการเพิ่มเติมหลายอย่าง ทั้งการปรับปรุงภาคการเกษตร นอกเหนือจากการประกันราคาข้าว โดยการลดต้นทุนการผลิต รวมเกษตรแปลงใหญ่ เสริมเทคโนโลยี

ขอย้ำว่า รัฐบาลยินดีให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคการเกษตร โดยวันนี้สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ นโยบายเศรษฐกิจ BCG ในภาคการเกษตรและอาหาร พัฒนาต่อยอดธุรกิจการเกษตรด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่ม เน้นเกษตรกรคุณภาพสูง ในการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตและแปรรูปอาหาร และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรม การค้าออนไลน์ต่างๆ เหล่านี้ สร้าง Smart Farmer ระดมการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ใช้ Big Data ด้านการเกษตร ใช้ Agri-Map สร้างแพลตฟอร์มสนับสนุนการทำเกษตรแปลงใหญ่ จัดหาผู้ว่าจ้างเครื่องจักรกลการเกษตร การเช่า ไม่ต้องซื้อ ต่อยอดขยายตลาดไปสู่ตลาดออนไลน์ โดยเราต้องให้เบ็ดตกปลาและให้ปลาไปด้วย เพื่อให้เขาอยู่ได้ อยู่รอด ปลอดภัย และเข้มแข็งยั่งยืนขึ้น รัฐบาลทำทุกอย่าง ประชาสัมพันธ์ทุกวัน แต่กลับพูดถึงแต่เรื่องเดิมซ้ำๆ

นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า รัฐบาลมีการจัดลำดับความสำคัญของวงเงินรายจ่ายประจำปี 2566 โดยมีข้อมูลของทุกจังหวัด ทุก Sector ใน Big Data มีข้อมูลว่าใครขาดใครเสียอะไร รัฐบาลดูแลให้ทุกที่ ซึ่งตรงไหนที่เร่งด่วนกว่าก็ต้องดำเนินการก่อน ส่วนที่ยังไม่เร่งด่วนก็ต้องคอยก่อน ส่วนที่บอกว่ายังไม่ได้เนื่องจากโครงการนั้นยังไม่มีความเร่งด่วน ส่วนงบกลางที่ตั้งไว้ นอกจากสำหรับใช้ในเรื่องฉุกเฉินแล้ว ยังใช้เพื่อเติมงบประมาณให้กับจังหวัด กลุ่มจังหวัด บูรณาการในกรณีที่ขาดเหลือไม่เพียงพอสำหรับโครงการสำคัญ และรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในเรื่องของโรคติดเชื้อ โดยสนับสนุนงบประมาณไปกว่า 397,000 ล้านบาท ในด้านการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ในขณะนั้นล้มไปแล้วเนื่องจากไม่มีคนไปเที่ยว ไม่มีคนไปใช้บริการ เพื่อให้ผู้ประกอบการต่างๆ อยู่รอดได้ สร้างมูลค่าในวันนี้ทำให้มีความเข้มแข็งขึ้น และขณะนี้รัฐบาลกำลังจัดหางบประมาณที่จะให้นำไปปรับปรุงที่พัก ที่บริการที่ทรุดโทรม ชำรุด ไม่มีลูกค้า เพื่อให้ผู้ประกอบการพัฒนาส่วนนี้ให้ได้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาปริมาณมากขึ้นในช่วงนี้ให้ทันต่อเวลา ยืนยันว่ารัฐบาลทำทุกอย่าง

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดทำงบประมาณขาดดุล เนื่องจากโครงสร้างงบประมาณรายจ่ายมีความจำเป็น เพราะรายได้สุทธิมาจากการจัดเก็บภาษี โดยเป็นภาษีที่เก็บจากประชาชนแต่ละกลุ่มอาชีพที่มีรายได้แตกต่างกัน และเก็บจำนวนที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นรายได้หลักของรัฐบาล เพื่อนำมาใช้ดูแลผู้ที่มีรายได้น้อย ขณะเดียวกันยังได้เดินหน้าโครงการอื่นๆ เช่น โครงสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ซึ่งการดำเนินโครงการต่างๆ ต้องใช้เวลา ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับประเทศ

ส่วนในเรื่องเรื่องหนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะ หนี้ต่างๆ เป็นเรื่องที่ชี้แจงไปหลายครั้งแล้วก็กลับมาเหมือนเดิมทุกประการ เป็นบรรยากาศที่เหมือนเดิม ไม่ว่าจะอภิปรายอะไรก็เหมือนเดิม เพราะว่าถูกฝังชิปไปหมดแล้ว ทั้งนี้ หลายเรื่องที่ฝ่ายค้านพูดมาไม่ใช่ข้อเท็จจริง ยืนยันว่ารัฐบาลดูแลข้าราชการที่ทำงาน ดูแลประชาชน ดูแลการประกันราคาข้าวที่ผ่านมาปีก่อนหน้า 6 หมื่นล้านบาท ปีต่อมา 8 หมื่นล้านบาท และปี 65 จำนวน 1.5 แสนล้านบาท โดยนายกฯ ไม่ขัดข้องถ้าจะต้องจ่ายเงินประกันราคาข้าว แต่ต้องหาวิธีอื่นให้เกษตรกรมีรายได้จากการเกษตรของเขาจริงๆ ด้วยการพัฒนา Smart Farmer ใช้เทคโนโลยี ใช้เครื่องจักรลดต้นทุนการผลิต

"ตั้งแต่ปี 54 โครงการจำนำข้าว ขาดทุน 9.5 แสนล้านบาท รัฐบาลชุดนี้ตั้งงบประมาณชำระหนี้ไปแล้ว 7.8 แสนล้านบาท คงเหลือเงินต้นและดอกเบี้ยอีก 3 แสนล้านบาท ขอย้ำว่าเราต้องให้เบ็ดตกปลา และต้องให้ปลาไปด้วย เพื่อให้ประชาชนอยู่ได้ อยู่รอดปลอดภัย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเรื่องเหมืองโปแตสว่า เป็นเรื่องที่รู้กันมานานแล้ว นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้ขับเคลื่อนเรื่องนี้ ซึ่ง ส.ส. ในฐานะที่เป็นเจ้าของพื้นที่ต้องให้ประชาชนร่วมมือ เห็นชอบ เพื่อให้เดินหน้าได้ ถ้ามีผู้ประท้วงเหมืองโปแตส ส.ส. ต้องไปชี้แจงให้นายกรัฐมนตรี ขณะที่เรื่องพลังงาน ขอให้ไปดูว่าประเทศไทยมีหลุมน้ำมันกี่หลุม ต่างประเทศมีกี่หลุมและขุดน้ำมันได้กี่บาร์เรล คุณภาพดีกว่าของเราหรือไม่ แก๊สก็เช่นเดียวกัน ถ้าพูดแต่หลักการกว้างๆ ไม่มองในรายละเอียดเลยคนก็สับสนไปหมด ทำให้เกิดความยากในการบริหาร ในการที่จะทำให้ทุกคนร่วมมือกัน ซึ่ง ส.ส. เป็นผู้แทนประชาชน ไม่ใช่แต่ร้องทุกข์เรื่องเดือดร้อนอย่างเดียว ควรนำสิ่งที่รัฐบาลทำวันนี้ไปบอกให้ประชาชนรู้ด้วย ให้ประชาชนเข้าถึงการบริการภาครัฐด้วย ทั้งนี้ นายกฯ รับฟังได้ทุกเรื่อง ถึงบางเรื่องซ้ำแล้วซ้ำอีกก็ไม่รู้สึกโกรธ

ยินดี "ชัชชาติ" นั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. เป็นทางการ รอให้มาคุยด้วย

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ออกจากห้องประชุม และเดินทางกลับไปยังทำเนียบรัฐบาลทันที เพื่อไปร่วมประชุมสามัญคณะกรรมการมูลนิธิสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ ประจำปี 2565 ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งก่อนเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวถามถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 วันแรก ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า ไม่มีอะไร เมื่อถามย้ำว่าข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านรุนแรงเกินไปหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

ส่วนในวันนี้ชี้แจงได้ดีแล้วใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้ชี้แจงเท่าไหร่เลย ขอให้รอฟังรัฐมนตรีชี้แจง นายกรัฐมนตรีก็พูดแต่หลักการกว้างๆ

เมื่อถามว่า ในห้องประชุมสภาฯ วันนี้นั้น นายกรัฐมนตรีตอกกลับฝ่ายค้านไปหลายครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีก็ชี้แจง จะไปตอกกลับเขาทำไมล่ะ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองให้เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ที่จะได้ทำงาน เมื่อถามว่าจะฝากบอกอะไรกับนายชัชชาติหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องรอเขาเข้ามาคุยกับนายกรัฐมนตรี เพราะอย่างไรเขาก็ต้องมาอยู่แล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook