"หนูแหม่ม-บ๊อบบี้" อุ้ม "น้องแอลลี่" ออกสื่อ เผยพัฒนาการลูกสาวฟังรู้เรื่อง 3 ภาษาแล้ว

"หนูแหม่ม-บ๊อบบี้" อุ้ม "น้องแอลลี่" ออกสื่อ เผยพัฒนาการลูกสาวฟังรู้เรื่อง 3 ภาษาแล้ว

"หนูแหม่ม-บ๊อบบี้" อุ้ม "น้องแอลลี่" ออกสื่อ เผยพัฒนาการลูกสาวฟังรู้เรื่อง 3 ภาษาแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดครอบครัวสุดอบอุ่นของ พี่หนูแหม่ม สุริวิภา กับคุณสามี บ๊อบบี้ โรเบิร์ต  ที่วันนี้อุ้ม น้องแอลลี่ มาเผยความน่ารักครั้งแรกพร้อมเผยพัฒนาการของลูกสาววัย 1 ขวบ 2 เดือน สายลุย ฟังเข้าใจแล้ว 3 ภาษา งานนี้ แด๊ดดี๊บ๊อบบี้ เห่อหนักมาก ติดกล้องวงจรปิดทั่วบ้านเอาไว้ดูลูกโดยเฉพาะ เรื่องราวทั้งหมดผ่านทางรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง วัน31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ, ชมพู่ ก่อนบ่าย และ อาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ 

น้องแอลลี่กี่ขวบแล้ว?

หนูแหม่ม : "1 ขวบกับ 2 เดือนเมื่อวานนี้" 

เห็นว่าพูดได้ 3 ภาษา?

หนูแหม่ม : "ณ วันนี้แอลลี่ยังไม่ได้พูด เขาเดินก่อน แต่ว่าเราเดากันว่าแอลลี่เข้าใจทุกภาษาที่ทุกคนคุยในบ้าน มีภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และกะเหรี่ยง เพียงแต่ว่าเขายังไม่ได้เลือกที่จะพูดภาษาอะไรก่อน" 

ตามเกณฑ์การพูดพี่หนูแหม่มมองว่าน้องช้าไหม?

หนูแหม่ม : "เด็กแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน หนูแหม่มไม่รู้สึกว่าช้านะคะ หนูแหม่มว่าเมื่อไหร่ที่เขาพร้อม เดี๋ยวเขาก็จะพูดเพราะว่าเขายังขยับปากตามเรา เขาฟังเรา เขาสื่อสารกับเรา ซึ่งเราก็คุยกับคุณหมอตลอด คุณหมอก็ไม่ได้เร่งอะไรเขาหนูแหม่มคิดว่าไม่หรอกมันตามเกณฑ์" 

เห็นว่ามีชาวเน็ตช่วยเลี้ยงด้วย?

หนูแหม่ม : "ไม่เยอะๆ เขาน่าจะเห็นแล้วคงเป็นห่วง เขาบอกว่าน่าจะฝึกให้น้องใส่แมสก์ ซึ่งน้องยังเด็กเกินไป คุณหมอบอกว่าถ้าจะฝึกใส่แมสก์จริงๆ ก็ต้อง 2 ขวบขึ้นไป แต่ก็ขอบคุณนะคะ เขาเป็นห่วงนั่นแหละ เพราะน้องยังเล็กมาก" 

การมีลูกเขาสามารถเติมเต็มได้จริงไหม หรือเขาสามารถประสานความเป็นชีวิตคู่ให้มันต่อไปได้สำหรับกรณีการมีลูก?

หนูแหม่ม : "เอาเติมเต็มก่อน ถ้าคิดว่าอยากให้เติมเต็มผิดตั้งแต่คิดแล้ว เราต้องมีพอก่อน ต้องมีเหลือก่อน ใจเราพร้อมก่อน หมายถึงเหลือในเรื่องของความรัก เหลือในเรื่องของการที่อยากจะให้ เหลือในเรื่องของการที่เห็นเขาอยากได้รับโอกาส อย่าคิดว่าต้องมาเติมเต็ม เพราะเราไม่ได้คิดว่าเขามาเติมเต็มเรา มีล้นอยู่ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นความรัก โอกาสความสุข อันนั้นคือคำตอบที่ว่าเราพร้อมแล้วหรือยัง ทุกอย่างเหมือสวรรค์จัดสรรให้เราแล้ว มันเป็นพรหมลิขิต ถ้าเราไปกระเสือกกระสนเราจะไม่ได้อารมณ์นี้เลย" 

ทั้งที่ทุกวันนี้พี่หนูแหม่มจดทะเบียนรับเป็นลูกตามกฎหมาย แต่พี่หนูแหม่มจะให้เกียรติแม่แท้ๆ เขามากที่สุด?

หนูแหม่ม : "ใช่ค่ะ อันนั้นคือเบอร์ 1 เขาโตมาเขาก็ต้องรู้ด้วยว่าอันนั้นคือเบอร์ 1 ของเขา" 

ถ้าสมมติในอนาคตแม่ๆ ต้องไปใช้ชีวิตของเขาไม่อยู่กับเราแล้ว?

หนูแหม่ม : "เรามองว่านั่งคือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวของแม่ๆ และแอลลี่แต่วันที่แอลลี่มั่นคงในทุกด้านอย่างเช่นสามารถดูแล จัดสรร รับผิดชอบต่อชีวิตเขาได้ หมายถึงว่าเขาโตที่จะตัดสินใจเองได้ คือเกิดขึ้นแน่นอน การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติ เพราะฉะนั้นตอนนี้เรามีหน้าที่อย่างเดียวคือฟอร์มให้แอลลี่เป็นคนที่เข้มแข็งแล้วก็รับได้กับทุกสถานการณ์ ตัดสินใจเองได้ในทุกสถานการณ์ วันนั้นโบยบินเลยลูก" 

เราเตรียมความรู้สึกตรงนี้ยังไง?

หนูแหม่ม : "หนูแหม่มเตรียมตั้งแต่เดย์วันที่เราจะรับ"

บ๊อบบี้ : "ก่อนเรารับ เรามาคุยกันก่อน"

หนูแหม่ม : "เราประชุมกันทั้ง 2 ครอบครัวแล้ว ให้ไปถามยาย ถามตา ถามปู่ ถามย่า พ่อๆ แม่ๆ ว่ายังไง พี่หนูแหม่มไม่ได้คุยกัน 2 คน เพราะฉะนั้นเราวางแผนตั้งแต่วันแรกแล้ว"

บ๊อบบี้ : "เราคุยกันแต่แรก แอลลี่จะอยู่กับใครหรือตัดสินใจอะไรเป็นสิทธิ์ของแอลลี่เลย เราจะไม่ทะเลาะ ไม่บังคับ เราจะไม่เป็นแบบนั้น เราแค่อยากให้แอลลี่โตขึ้นเป็นคนดี" 

พอมีเด็กสักคนมาอยู่ในบ้านมันไม่ต้องการอะไรอีกแล้วจริงไหม?

บ๊อบบี้ : "เมื่อก่อนแหม่มกลับมาจากที่ทำงาน ร้อน โมโหนู่น นี่ เจอแอลลี่ยิ้มทีเดียวหาย"

หนูแหม่ม : "เรากลัวเขารับความเทาๆ จากเราไป เราต้องเปลี่ยนโหมด" 

เห็นว่าตอนนี้ไปดูโรงเรียนแล้วเหรอ?

หนูแหม่ม : "เผอิญว่าเราเห็นในเฟซบุ๊ก เป็นเนอร์สเซอรี่ พาแอลลี่ไปเที่ยวเล่นดีกว่า เขาชอบนะคะ" 

หลายคนมองว่าแอลลี่เพิ่งขวบกับสองเดือน ไปดูโรงเรียนแล้ว เห่อไปหรือเปล่า?

หนูแหม่ม : "ก็เห่อนะ จริงๆ เราเตรียมถึงเข้าอนุบาลไปแล้ว" 

ปรับตัวกันยากไหมพอมีน้องเข้ามา ในการใช้ชีวิตส่วนตัว หรือเรื่องบางที่รู้สึกเหตุผลไม่ตรงกัน?

หนูแหม่ม : "ถ้าเป็นเมื่อก่อน พี่ว่าน่าจะไฟท์กันบ้านแตกแน่เลย แต่ชีวิตมันมาถึง 55 มันเหมือนต้องฟังความอีกข้างนึงด้วย แล้วค่อยเอามาไตร่ตรอง" 

เห็นว่ามีรับเลี้ยงน้องบุญธรรมอีกคนชื่อน้องจิ๊กซอว์?

หนูแหม่ม : "ใช่ค่ะๆ ของน้องจิ๊กซอว์จะเป็นแนวอุปการะ ไม่ได้ยกเป็นบุตรบุญธรรม จริงๆ น้องจิ๊กซอว์ทุกคนเคยเห็นเขาแล้วในไวรัลข่าวเมื่อปีนู้น น้องจิ๊กซอว์เป็นเด็กคนนึงที่แม่กำลังถ่ายคลิปแล้วนั่งร้องไห้ เป็นข่าวเกือบทุกสถานีเลยนะบอกว่าแม่น้องอยากขาว เขาพูดถาษาใต้ แม่ก็เลยตกใจถ่ายคลิปไว้ ทำไมน้องถึงพูดแบบนี้ เขาบอกปู่ดำกับปู่เล็กเรียกน้องว่าอีดำ แล้วก็ร้องไห้ เขาบอกน้องดำๆ น้องอยากขาวๆ ด้วยความที่น้องเป็นผิวที่ติดทะเล หรืออาจจะเป็นคุณปู่ คุณตา ผิวสีก็ได้ ทุกคนก็จะเรียกแบบที่เราพูดไปเมื่อกี้ เรารู้สึกว่าเด็กคนนึงไม่ควรที่ถูกบูลลี่อะไรแบบนี้"

"เขาเด็กเกินกว่าที่จะมาแบกรับสุงถานการณ์แบบนี้ เราไม่มีทางรู้ว่าถ้าเขารับมือไม่ได้ อนาคตจะเป็นยังไงพี่รู้สึกว่าเราจริตตรงกันตั้งแต่วันที่เห็นในข่าว ก็เลย DM คุยกับคุณแม่ไป ด้วยความที่เราอ่อนหัดเรื่อง TIKTOK มากเมื่อปีนู้น ก็ไม่เห็นแม่ตอบสักที แม่เขาคงคิดว่าเราเป็นตัวปลอมหรือแบบอาจจะมาหลอกเขาหรือเปล่า ก็ไม่ได้รับการตอบ  1 ปีผ่านไป พี่ก็เก่งTikTok ขึ้น คลิปใหม่น้องก็เด้งขึ้นมา พี่ก็รีบคุยไปเลย โชคดีครั้งที่2 พี่เก่ง TikTok แล้ว แม่ก็เลยตอบกลับมา เขาขอโทษข้อความเมื่อปีนู้นเขาไม่ได้อ่าน มันไม่ขึ้นมา เขาบอกอย่างนี้ พี่ก็เลยรู้สึกแบบี่แหละเป็นจุดเริ่มต้นพี่ขอเป็นส่วนนึงในครอบครัวของคุณแม่ทำให้น้องเข้มแข็งทางภาวะอารมณ์ของเด็ก 5 ขวบ จริงๆ น้องไม่ได้เป็นอย่างที่คนอื่นพูด พี่รู้สึกว่าพี่ทนไม่ได้ที่เด็กถูกบูลลี่ เราจะซัพพอร์ตน้องในทุกเรื่อง" 

เรื่องอะไรบ้าง?

บ๊อบบี้ : "เรียนเป็นหลัก เรียนภาษาอังกฤษ เรียนว่ายน้ำ กิจกรรมที่จิ๊กซอว์อยากทำเราสนับสนุน ไปซื้อของ ซื้อเสื้อผ้า" 

คุณพ่อ คุณแม่น้องว่ายังไงบ้าง?

หนูแหม่ม : "อีกไม่กี่สัปดาห์นี้เราจะไปที่ชุมพร ไปเจอคุณพ่อ คุณแม่น้อง เราเจอแค่คุณแม่คนเดียว ตอนที่น้องมากรุงเทพ คุณแม่มาด้วย เราก็จะไปคุยกัน" 

ตอนที่เขารับสายบอกว่าพี่หนูแหม่มจะมาอุปการะมันเป็นยังไงบ้าง?

หนูแหม่ม : "เราไม่ได้ประกาศว่าเราจะอุปการะกับแม่เขา แค่บอกว่าคุณแม่มาทำงานร่วมกันไหม โดยที่แม่หนูแหม่มจะเป็นผู้สนับสนุนข้างหลังน้องให้ แล้วให้แม่ของน้องจิ๊กซอว์ชื่อ แม่จุ่ม เป็นคนแอคทีฟหน้างาน เรามาร่วมมือกัน ซึ่งคุณแม่เขาดีใจ เขาบอกว่าเป็นความโชคดีของครอบครัวเขาที่ได้เจอกัน เขาก็คิดว่าเป็นพรหมลิขิตเหมือนกัน" 

ตอนแรกที่จะอุปการะ พี่หนูแหม่มมาปรึกษาพี่บ๊อบบี้ คุยกันยังไงบ้าง?

บ๊อบบี้ : "ตอนแรกคิดว่าแหม่มเขาจะแค่ส่งหนังสือ ซื้อของเด็กเล่น ไม่ได้คิดว่าจะเอาเขามากรุงเทพ มาในครอบครัวแบบนี้เราก็โอเค เรายินดี มันทำให้ทุกอย่างมันครบด้วย เราอยากให้จิ๊กซอว์เป็นคนดีในสังคม ไม่อยากให้เขาโดนบูลลี่"

หนูแหม่ม : "เราไม่มีทางรู้ คุณอาจจะพูดเล่นด้วยความรัก ความเอ็นดูก็ตาม แต่บางคำนั้นมันออกจากปากของคนที่เป็นญาติ หรือคนที่อยู่ในชุมชนเดียวกัน แต่สุดท้ายถ้าเขาข้ามกำแพงบูลลี่ไม่ได้ คนในสังคมคนนึง เสียดายนะคะ ถ้าเราจะหล่อหลอมให้เขาแข็งแรงวันนึงเขาอาจจะโตมาเป็นนางงามก็ได้ เป็นวิศวะก็ได้ เป็นพยาบาล เป็นหมอ อาจจะเป็นนักกีฬาระดับชาติก็ได้" 

พี่หนูแหม่มเห็นอะไรในตัวน้อง?

หนูแหม่ม : "จิ๊กซอว์เป็นเด็กที่มีของนะ พูดจาดี เข้าใจพูด คือเราเห็นเงาเราอยู่ในตัวจิ๊กซอว์ จิ๊กซอว์เป็นพิธีกรได้นะ" 

เลี้ยงลูกด้วยกล้องวงจรปิด?

หนูแหม่ม : "สืบเนืองมาจากรถที่บ้านเคยหาย มีคนขโมย มาเอากุญแจแล้วสตาร์ทรถเราออกจากบ้านเลย เราเลยรู้สึกว่าต้องติดกล้องวงจรปิด แต่จริงๆ หมู่บ้านเราเป็นหมู่บ้านปิดนะคะ คุณโจรเขาเอาไปเรามาคิดได้ทีหลังว่าติดกล้องวงจรดีกว่า พอติดแล้วก็ยาวมาจนถึงมีลูกมันก็เลยได้ประโยชน์ สมมติเราไปไหน นอนโรงแรมแด๊ดดี้เขาก็จะตื่นเช้ามาดูลูกเขาว่าอ่านหนังสือหรือยัง เล่นของเล่นไหม ใครดูลูกเขา" 

เป็นกล้องมีเสียงไหม?

บ๊อบบี้ : "ไม่มีเสียง เห็นแต่ภาพ"

หนูแหม่ม : "พี่ว่าเดี๋ยวจะเปลี่ยนแล้ว พอหนูพูดเดี๋ยวจะกลับไปเปลี่ยนแล้ว" 

แล้วเรื่องรถได้คืนไหม?

หนูแหม่ม : "ไม่ได้คืน หายไปเลย"

บ๊อบบี้ : "หลักฐานกล้องวงจรปิดมีทุกอย่าง"

หนูแหม่ม : "หลายปีแล้วค่ะ" 

ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

อัลบั้มภาพ 42 ภาพ

อัลบั้มภาพ 42 ภาพ ของ "หนูแหม่ม-บ๊อบบี้" อุ้ม "น้องแอลลี่" ออกสื่อ เผยพัฒนาการลูกสาวฟังรู้เรื่อง 3 ภาษาแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook