"ไพบูลย์" โต้ "สุทิน-พิธา" อวยงบ'66 เป็นสายฝนพร่างพรมโปรยปรายทั่วแผ่นดิน

"ไพบูลย์" โต้ "สุทิน-พิธา" อวยงบ'66 เป็นสายฝนพร่างพรมโปรยปรายทั่วแผ่นดิน

"ไพบูลย์" โต้ "สุทิน-พิธา" อวยงบ'66 เป็นสายฝนพร่างพรมโปรยปรายทั่วแผ่นดิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อภิปรายตอบโต้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัตติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ว่า ชอบการจัดงบประมาณฯ ปี 2566 ของรัฐบาล แต่ก็เสียดายเรื่องดีๆ อย่างนี้ เพราะแกนนำพรรคฝ่ายค้านตั้งฉายาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ฉบับนี้เป็น "ขอทานจัดงานวันเกิด" ซึ่งเป็นการด้อยค่า ฝ่ายค้านไม่น่าด้อยค่าเงินที่ถึงมือประชาชน ขณะเดียวกัน แกนนำพรรคฝ่ายค้านอีกคนเปรยว่าเป็น "งบฯช้างป่วย" ที่ปรับตัวไม่ได้ ตัวเองขออนุญาตแก้ต่างแทนว่า ช้างนี้ไม่ได้ป่วย แม้จะพบสารพัดโรคกระหน่ำรุนแรง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังดูแลขับเคลื่อนประเทศไทยที่เสมือนช้างทรงพลังเดินหน้าฝ่าวิกฤตได้ ไม่เช่นนั้นมาไม่ได้ถึงขนาดนี้ ดังนั้นถือว่าเป็นช้างที่ปรับตัวได้อย่างดี พร้อมต่อสู้วิกฤตต่างๆ

ไพบูลย์ อภิปรายว่า ส่วนกรณี ส.ส. ฝ่ายค้านประกาศโหวตคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ฉบับนี้ ท่านมีเงินเดือน มีเงินประจำตำแหน่งกันทุกคน ไม่กลัวเดือดร้อน แต่ประชาชนที่รอความช่วยเหลือจากงบประมาณนี้เดือดร้อนกันจริง จึงไม่เห็นด้วยที่จะไม่โหวตสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชน เชื่อว่า ส.ส. ที่รักประชาชนมุ่งมั่นดูแลให้ประชาชนได้งบประมาณนั้น จะช่วยกันโหวตให้ร่างฉบับนี้ผ่านสภาฯ

"ร่าง พ.ร.บ.งบฯ เปรียบเสมือนสายฝนพร่างพรม โปรยปรายทั่วทั้งแผ่นดิน อำนวยความสดชื่นชื่นฉ่ำให้ชีวิตชีวาให้กับประชาชนทั้งแผ่นดินที่รอคอยความช่วยเหลือจากรัฐ" นายไพบูลย์ กล่าว

ก่อนหน้านี้ พิธา อภิปรายว่า ภาพรวมของงบประมาณว่าเป็นเหมือน "ช้างป่วยที่เต้นระบำไม่ได้" ในขณะที่เรากำลังเจอสถานการณ์รายได้ผันผวน รายจ่ายแข็งตัว แต่ส่วนใหญ่ยังใช้งบไปเพื่อเป็นรายจ่ายบุคลากรที่สูงถึง 40% อีกส่วนเป็นงบที่เอาไว้ชำระหนี้ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นงบบุคลากร ใช้หนี้สาธารณะ ใช้หนี้นโยบาย หนี้ ธกส. สุดท้ายเหลือจริงๆแค่ 1 ใน 3 เพื่อเอาไว้รับมือกับปัญหาปีต่อปีและความท้าทายในอนาคต อีกทั้ง ไทยมีปัญหาว่าเก็บภาษีต่ำกว่าเป้า 2-3 แสนล้านบาท ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเค้าโครงเศรษฐกิจของเราเน้นแต่การท่องเที่ยวในเชิงปริมาณไม่ใช่เชิงคุณภาพ เป็นต้น ซึ่งพิธา เสนอว่าการจัดงบประมาณต้องกระจายอย่างทั่วถึง ไม่กระจุกตัว, เน้นสร้างเศรษฐกิจฐานราก, และเอาข้างนอกเข้ามาข้างใน

เช่นเดียวกับ สุทิน คลังแสง ที่เคยแถลงข่าวไว้ว่างบประมาณฉบับนี้เหมือนขอทานจัดงานเลี้ยง หรือขอทานเลี้ยงวันเกิด เพราะในสภาพที่ประเทศยากจน ไม่มีเงิน ลำบาก ฐานะการคลังถดถอยย่ำแย่ลง ต้องไปกู้มา แต่ดูการจัดสรรงบประมาณแล้ว ไม่มีช่องทางใดที่ทำให้เกิดรายได้ การอัดฉีดทุกอย่างเป็นแค่การกระตุ้นบริโภค ไม่มีการกระตุ้นการผลิต รัฐบาลไม่สามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มเติมได้ตามเป้า แต่งบประมาณกระจายลงไปในเชิงกระจายตามพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อรักษาสถานะของรัฐบาลไว้มากกว่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook